ตอนที่ 1131 ชายชราผู้น่าสงสาร
………………..
เมื่อฉินหยูมองดูเย่เชียนเดินกลับมาด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดพร้อมกับหลัวสุ่ยที่หมดสติอยู่นั้นสีหน้าของฉินหยูก็ตกตะลึงอย่างมากจากนั้นเธอก็รีบเดินไปช่วยเย่เชียนพยุงหลัวสุ่ย ซึ่งฉินหยูนั้นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเมียวมาสักระยะหนึ่งดังนั้นเธอจึงรู้จักหลัวสุ่ยเป็นอย่างดี แต่ทว่าตอนนี้หลัวสุ่ยดูเหมือนคนตายดังนั้นฉินหยูจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เกิดอะไรขึ้นกับหลัวสุ่ยงั้นเหรอ?..เธอเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”
เย่เชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพูดว่า “เธอถูกคาถาสัมภเวสี..แม้แต่หว่านไห่กับซวนหมิงก็ไม่มีทางรักษาได้เลย” จากนั้นเย่เชียนก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เรื่องนี้มันยาวเพราะงั้นผมจะเล่าให้คุณฟังทีหลังก็แล้วกัน..ว่าแต่ม่อหลงกับคนอื่นๆล่ะ?”
“อยู่ข้างในบ้าน” ฉินหยูพูด “ปู่ของเธอก็อาการแย่เหมือนกัน..มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่งั้นเหรอ..ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นที่สำนักถังด้วย”
เย่เชียนก็ถึงกับตกใจและรีบถามว่า “แล้วจินเหว่ยห่าวล่ะ?”
ฉินหยูก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันฉันแค่ได้ยินคุณหยานกับปู่ของเธอพูดถึงเรื่องนี้กันสั้นๆ” ถึงแม้ว่าฉินหยูจะไม่รู้ว่าจินเหว่ยห่าวเป็นใครแต่เธอก็สามารถเดาได้จากการแสดงออกของเย่เชียนได้ว่าจินเหว่ยห่าวต้องเป็นเพื่อนที่ดีของเย่เชียนอย่างแน่นอน
เย่เชียนก็พยักหน้าเล็กน้อยและไม่พูดอะไรอีกและเมื่อเขากลับไปที่บ้านของหว่านไห่แล้วก็เห็นถังจิงหนาน,หยานตงและม่อหลงนั่งรออยู่ข้างใน ส่วนหว่านไห่ยังไม่ได้กลับมาและดูเหมือนว่าเขายังคงจมอยู่กับความเศร้าใช่ไหม? เมื่อเห็นเย่เชียนเข้ามาม่อหลงก็รีบลุกขึ้นไปต้อนรับเย่เชียนและเหลือบมองหลัวสุ่ยในอ้อมแขนของเย่เชียนแล้วถามว่า “บอส!..เธอเป็นอะไรเหรอ?”
เย่เชียนไม่พูดอะไรและเขาส่ายหัวเล็กน้อยแล้วอุ้มหลัวสุ่ยเข้าไปวางลงบนเตียงแล้วเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่น จากนั้นหยานตงก็เหลือบมองไปที่เย่เชียนและถามว่า “เป็นไงบ้าง?..ซวนหมิงปรากฏตัวออกมาแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่” เย่เชียนพยักหน้าและพูดว่า “แต่ตอนนี้ซวนหมิงตายแล้วและเรื่องมันก็ยาวมากจนยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดได้” จากนั้นเย่เชียนก็เหลือบมองถังจิงหนานและพูดว่า “คุณปู่เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ?”
สภาพจิตใจของถังจิงหนานดูไม่ค่อยดีนักและดูเหมือนว่าเขายังคงจมอยู่ในความเศร้าโศกในการฆ่าถังยู่เซิงหลานชายแท้ๆของเขาเอง จากนั้นเย่เชียนก็หันไปมองหยานตงแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสหยานขอบคุณมากนะครับ..ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเข้ามาช่วยล่ะก็ผมคิดว่าเรื่องต่างๆคงจะเลวร้ายมาก”
หยานตงก็ยักไหล่เล็กน้อยและพูดว่า “ฉันไม่ได้ช่วยอะไรเอ็งเลย..ฉันก็แค่ไม่พอใจกับสิ่งที่ซวนหมิงทำและฉันกับเขาก็มีความบาดหมางกันมาตั้งแต่ในสมัยก่อนแล้ว..แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเอ็งจะเตรียมการทั้งหมดเอาไว้..ฉันคิดว่าต่อให้ฉันไม่มาถึงยังไงเอ็งก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างราบรื่นอยู่ดี” หลังจากหยุดไปชั่วขณะหยานตงก็เหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “ดูจากหลังของเอ็งแล้วเหมือนเอ็งจะก้าวหน้าไปมากแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เย่เชียนก็ยิ้มแหยงๆแล้วพูดว่า “ผมจะไปพัฒนาขนาดนั้นในระยะเวลาสั้นๆได้ยังไงกัน..ผมก็แค่บังเอิญไปเจอชายนิรนามหวู่หมิงและเขาก็ให้คำแนะนำแก่ผม”
หยานตงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะและเหมือนว่าบางอย่างจะผุดขึ้นในใจของเขาแต่เขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรและเขาก็ส่ายหัว “เอาเถอะฉันกับปู่ของเอ็งน่ะรู้จักกันมานานแล้วเพราะงั้นก็เป็นธรรมดาที่ฉันจะละเลยเรื่องนี้ไม่ได้เมื่อเขามีปัญหา” จากนั้นหยานคงก็เอนตัวเข้าไปข้างๆหูของเย่เชียนและกระซิบว่า “ปู่ของเอ็งอาการแย่มากเพราะงั้นถ้าเอ็งว่างๆก็ใช้เวลาอยู่กับเขาซะหน่อยนะ”
เย่เชียนผงะไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า อันที่จริงเขาไม่รู้ว่าจะปลอบถังจิงหนานได้อย่างไรเพราะความคิดของชายชรานั้นเปลี่ยนยากและเขาก็เหลือบมองไปที่หยายตงกับถังจิงหนานแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสหยาน..คุณปู่..ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วเพราะงั้นผมคิดว่าพวกคุณน่าจะกลับไปพักผ่อนกันได้แล้วนะครับ..อีกอย่างสำนักถังยังต้องรอให้คุณปู่กลับไปจัดการสิ่งต่างๆอยู่” จากนั้นเย่เชียนก็พูดกับถังจิงหนานว่า “คุณปู่..อันที่จริงแล้วเรื่องทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้เฒ่าหว่านเลยเพราะงั้นทุกคนควรหยุดสู้กันและเป็นพันธมิตรกันจะดีกว่า”
ถังจิงหนานก็ถอนหายใจด้วยความโกรธแต่ไม่ได้พูดจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอก ส่วนหยานตงก็มองไปที่เย่เชียนและยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “จิงหนานเขาเป็นคนแบบนี้แหละ..ถึงเขาจะปากแข็งไปหน่อยแต่เขาใจอ่อนมาก..เอาล่ะในเมื่อทุกอย่างจบลงแล้วฉันก็ควรกลับเหมือนกัน..ถ้างั้นฉันจะฝากที่เหลือให้พวกเอ็งจัดการก็แล้วกัน..พวกสารเลวข้างนอกยังมันยังขวางโลกอยู่เพราะงั้นจัดการอย่าให้พวกมันหลุดออกไปสู่โลกภายนอกเด็ดขาด!” หลังจากพูดจบหยานตงก็ตบที่ไหล่ของเย่เชียนแล้วเหลือบมองสาวกสำนักถังและบอกให้พวกเขานำร่างอันไร้วิญญาณของถังยู่เซิงกลับไปยังสำนักถังด้วย
คำพูดของหยานตงดูเหมือนจะมีความหมายมากมายแต่เย่เชียนไม่รู้ว่าหนานตงจะสื่อถึงอะไรและอาจต้องการบอกเป็นนัยๆ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้ใส่ใจมากเกินไปเพราะในเวลานี้จิตใจของเขาก็ไม่ค่อยดีนักเพราะสถานการณ์ในปัจจุบันของหลัวสุ่ยทำให้เขากังวลใจจริงๆเพราะถึงแม้ว่าหลัวสุ่ยจะไม่ตายแต่ตอนนี้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เขาไม่รู้เลยว่าเธอจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่หรือถ้าจะแก้ไขและลบล้างคาถาสัมภเวสีกับเธอยังไง
เห็นได้ชัดว่าฉินหยูเห็นถึงความกังวลและความเศร้าในดวงตาของเย่เชียนแต่เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เธอจึงถอนหายใจเล็กน้อยและจับมือเย่เชียนจนเย่เชียนรู้สึกถึงความอบอุ่นในมือของเขาแล้วหันไปมองฉินหยูด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆเย่เชียนก็เหลือบมองม่อหลงและพูดว่า “พี่ม่อหลงตอนนี้พี่เองก็กลับได้แล้ว..แต่ผมขอพูดอะไรหน่อยสิ..คราวนี้พี่เล่นใหญ่ไปหน่อยนะ..ดูพี่สิทำไมต้องใช้คนมากมายขนาดนี้ด้วยและยังมาพร้อมอาวุธครบมืออีก..นี่พี่กำลังพยายามจะก่อรัฐประหารอยู่หรือเปล่าเนี่ย..ลองคิดดูสิถ้าผู้อาวุโสหยานไม่มาพร้อมกับทหารล่ะก็ชาวบ้านชาวเมืองคงคิดว่าเรากำลังก่อสงครามอย่างแน่นอน”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน