เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 1164

ตอนที่ 1164 ได้รับความไว้วางใจ

………………..

สิ่งที่หวังหมิงซูพูดมานั้นเซินเจี๋ยได้ตรวจสอบมันอย่างถี่ถ้วนแล้วดังนั้นเขาจึงรู้ว่าสิ่งที่หวังหมิงซูพูดออกมานั้นเป็นความจริงทั้งหมดและหวังหมิงซูก็ยังวิเคราะห์ได้เฉียบขาดอีกด้วย ซึ่งคนที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือเหวินปินเพราะเขาก็ทำกำไรและผลประโยชน์ได้มากที่สุดในบรรดาหัวหน้าเขตทั้งสิบสองคน อย่างไรก็ตามเหวินปินก็เป็นคนที่ลึกลับเกินไปเพราะเขาแสร้งว่าเขาไม่ได้ทำเงินหรือผลประโยชน์ให้กับองค์กรเลยและความทะเยอทะยานของเขาก็น้อยอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงเหมือนนักธุรกิจมากกว่านักบริหาร ที่สำคัญกว่านั้นทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเหวินปินเป็นคนที่โลภในเงินตราและความมั่งคั่งและเขาก็ยักยอกเงินขององค์กรอยู่บ่อยๆ

สำหรับคนบ้าระห่ำอย่างชางหมิงนั้นเซินเจี๋ยก็ไม่ได้กังวลมากนักแต่เขากังวลเกี่ยวกับคนอย่างเหวินปินมากกว่าเพราะว่าคนแบบนี้ที่ลึกลับและยิ่งเงียบก็ยิ่งอันตราย ส่วนผู้อาวุโสหยานนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะเขาเอาแต่จะฆ่าฟันและล้างบางจึงไม่สามารถที่บริหารจัดการได้องค์กรได้อย่างแน่นอน “แต่หัวหน้าเขตเหวินปินก็มีจุดอ่อนอยู่และนั่นคือเขาเคยค้ายาเสพติดกับพวกโคลอมเบียมาก่อน..ดังนั้นมันจึงไม่ยากที่จะกำจัดเขาและเราเพียงแค่ต้องใช้อิทธิพลของรัฐบาลไต้หวันในการกำจัดเขาก็พอ..เพราะท่านประธานเคยประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าสมาชิกองค์กรเทียนเต๋าทุกคนจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจยาเสพติดเป็นอันขาด..ดังนั้นนี่จึงเป็นจุดอ่อนของเหวินปิน” หวังหมิงซูพูดต่อ “แต่เหวินปินมักจะระมัดระวังมากและการตรวจสอบย้อนหลังก็ไม่ใช่เรื่องง่าย..อีกอย่างเราก็ไม่รู้เลยว่ายาเสพติดและอาวุธเถื่อนของเขาถูกซ่อนเอาไว้ที่ไหน..อันที่จริงท่านประธานยังเคยสงสัยเกี่ยวกับเหวินปินเมื่อตอนเขายังมีชีวิตอยู่และเคยส่งผมแอบไปสืบค้นอย่างลับๆแต่โชคไม่ดีที่ผมไม่พบอะไรเลย”

เซินเจี๋ยก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วพูดว่า “หมิงซู!..หลังจากนี้ฉันไม่คิดว่านายเป็นคนนอกอีกต่อไปแล้ว..เพราะงั้นฉันจะบอกความจริงกับนายว่าแผนการของฉันคืออะไร..ความจริงแล้วฉันเองก็อยากที่จะครอบครองตำแหน่งผู้นำองค์กรอยู่เหมือนกัน..แต่ฉันจะหลบอยู่ในเงามืดและปล่อยให้พวกหัวหน้าเขตเข่นฆ่ากันเอง..ฉันน่ะไม่อยากที่จะสละตำแหน่งผู้นำเหมือนที่ฉันพูดในที่ประชุมหรอกเพราะถึงยังไงองค์กรเทียนเต๋าก็คือประเทศที่ปู่ของฉันสร้างขึ้นมาเพราะงั้นฉันจะยอมยกให้พวกมันได้ยังไง?..เพราะงั้นด้วยการสนับสนุนของนายเราจะมีโอกาสชนะมากกว่าเดิม..แต่แค่ได้รับการสนับสนุนจากนายเท่านั้นมันยังไม่พอ”

ความตั้งใจของเซินเจี๋ยนั้นเย่เชียนได้บอกกับหวังหมิงซูแล้วดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจใดๆ หลังจากนั้นหวังหมิงซูก็พูด “ผมเชื่อว่าหัวหน้าเขตและสมาชิกระดับสูงอีกหลายๆคนจะสนับสนุนนายน้อยเซินให้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งผู้นำเหมือนกับผมอย่างแน่นอน..แต่พวกเขายังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของนายน้อยเพราะงั้นพวกเขาจึงไม่กล้าตัดสินใจ..ถึงอย่างนั้นก็เถอะทุกอย่างมันจะต้องไหลไปตามกระแสลมและพวกเขาก็จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน..ผมเชื่อว่าตราบใดที่นายน้อยคุยกับพวกเขาเหมือนที่นายน้อยคุยกับผมล่ะก็พวกเขาจะลุกขึ้นยืนเคียงข้างนายน้อยแต่ถ้าใครไม่เห็นด้วยกับนายน้อยล่ะก็ผมจะกำจัดพวกนั้นให้เอง!”

เมื่อได้ยินแบบนั้นเซินเจี๋ยก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันจะคุยกับพวกเขาในภายหลังเพราะตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม..สองสามวันหลังจากนี้ฉันจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชางหมิงและเหวินปินแล้วเราค่อยตัดสินใจกันในภายหลัง..ยังไงก็เถอะฉันเชื่อว่าด้วยการสนับสนุนจากนายแล้วโอกาสชนะของเราจะมากกว่าเดิมและฉันเชื่อว่าพวกเขาจะไม่สามารถสร้างคลื่นใดๆได้และนอกจากนี้ฉันเองก็ยังมีกองกำพิเศษ…”

“อ่ะๆ…” ก่อนที่เซินเจี๋ยจะพูดจบไถ่โจวที่อยู่ข้างหลังเขาก็ไอสองสามครั้ง ดังนั้นเซินเจี๋ยจึงยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอกหมิงซูเป็นพวกพ้องของเราแล้ว..หมิงซูนายต้องรู้สิ่งหนึ่งก่อนว่าฉันเป็นคนยุติธรรมมากและใครก็ตามที่ภักดีกับฉันล่ะก็ฉันจะทำให้เขายิ่งใหญ่ไปพร้อมๆกับฉัน..เพราะงั้นถ้านายตามฉันมาฉันก็จะไม่มีวันทำร้ายนาย..ไม่เพียงแค่พ่อของฉันแต่ฉันเองก็จะสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อด้วยเพราะงั้นตามฉันมาและเป็นพี่น้องกันและเราจะยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน!”

ถึงแม้ว่าเซินเจี๋ยจะบอกว่าเขาจะไม่ปิดบังหวังหมิงซูแต่เซินเจี๋ยไม่ได้พูดถึงเรื่องกองกำลังพิเศษดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาจงใจจะปิดบังมันจากหวังหมิงซู เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและเขาก็แอบสงสัยว่ากองกำลังลับที่เซินเจี๋ยพูดถึงคือองค์กรทหารรับจ้างอินทรีขาวแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาหรือเปล่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากเซินเจี๋ยไม่ได้พูดอะไรเย่เชียนจึงไม่สามารถถามได้

ถึงแม้ว่าหวังหมิงซูจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาก็ยังคงให้ความสนใจกับการแสดงออกและสัญญาณจากเย่เชียนอย่างลับและเมื่อเย่เชียนได้ยินเซินเจี๋ยพูดคำว่า ‘กองกำลังพิเศษ’ ดังนั้นหวังหมิงซูเองก็ขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัดและเขาต้องการถามเซินเจี๋ยแต่ทว่าถ้าหากเขาตั้งคำถามในครั้งนี้ล่ะก็มันจะทำให้เกิดความสงสัยดังนั้นเขาจึงต้องอดทน

“ตราบใดที่นายน้อยสั่งผมก็พร้อมลุยทุกเมื่อ!” หวังหมิงซูพูด

เซินเจี๋ยก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “แบบนั้นแหละที่ฉันต้องการ!..เอาเถอะเรามาพักกินข้าวกันก่อนก็แล้วกัน..เอาไว้คุยกันทีหลัง..ฉันถูกใจนายมากเพราะงั้นฉันเชื่อว่าเราจะต้องทำได้..เราจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน!”

หวังหมิงซูก็พูดประจบสอพลอว่า “ขอบคุณครับนายน้อยเซิน”

“ใช่!” เซินเจี๋ยก็พยักหน้าแล้วยืนขึ้น จากนั้นก็จับมือหวังหมิงซูและพูดว่า “มาเถอะหมิงซู..เราไปกินข้าวกันก่อนแล้วค่อยคุยกันระหว่างกินก็แล้วกัน..ฉันไม่รู้ว่านายชอบกินอาหารรสจัดๆมั้ย”

“ผมไม่ค่อยจู้จี้จุกจิกเรื่องกินหรอกครับและนอกจากนี้พ่อครัวในของนายน้อยก็เป็นเชฟมือดีเพราะงั้นวันนี้มันเป็นวันโชคดีของผมจริงๆ” หวางหมิงซูพูด

หลังจากนั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วเซินเจี๋ยก็หันไปมองไถ่โจวและเย่เชียนแล้วพูดว่า “เอ้า..ทั้งสองก็มานั่งด้วยกันสิ..มากินข้าวกันเพราะถึงยังไงพวกเราทุกคนก็เป็นพี่น้องกัน” เย่เชียนก็พยักหน้าและนั่งลง “ผมอยู่ในสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่สองขวบแต่ผมก็ยังชอบอาหารเสฉวนในประเทศจีนอยู่ดี..ถ้าได้กินคู่กับเหล้าหรือไวน์ล่ะก็รสชาติมันจะน่าทึ่งมาก..ผมชอบกระแสน้ำอุ่นๆที่ไหลจากคอตรงไปยังท้องมากเพราะมันทำให้สบายตัว” เซินเจี๋ยยิ้มและพูด

เย่เชียนก็ฉีกยิ้มในใจพลางคิดว่า ‘ไอ้บ้าเอ๊ยถ้าแกกินแบบนี้บ่อยๆไม่ช้าก็เร็วท้องของแกจะทะลุ’

ตอนที่ 1164 ได้รับความไว้วางใจ 1

ตอนที่ 1164 ได้รับความไว้วางใจ 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน