เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 1178

ตอนที่ 1178 ชักชวนให้ร่วมมือ

………………..

ความสนใจเป็นหัวข้อที่คงที่เสมอและสำหรับโจวเจิ้งผิงกับเย่เชียนนั้นก็ไม่ยกเว้น ส่วนคำว่า “พี่ใหญ่โจว” และ “น้องเย่” ทั้งคู่ต่างก็มีความชัดเจนในใจว่านี่เป็นเพียงคำพูดที่สุภาพเท่านั้นบนพื้นฐานของการร่วมมือกันและถ้าหากไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันล่ะก็ทุกอย่างก็จะเปล่าประโยชน์

โจวเจิ้งผิงก็ยิ้มแล้วพูดว่า “น้องเย่คงจะไม่ใจร้ายกับฉันใช่มั้ย?”

มุมปากของเย่เชียนก็กระตุกเล็กน้อยและพูดว่า “พี่ใหญ่โจวผมจะไปทำแบบนั้นได้ยังไง..แต่ว่าหลังจากจัดการเรื่ององค์กรเทียนเต๋าเสร็จแล้วทุกอย่างที่เกี่ยวกับองค์กรเทียนเต๋าจะไม่สามารถแบ่งให้พี่ใหญ่โจวได้” เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียนใบหน้าของโจวเจิ้งผิงดูไม่สบอารมณ์อย่างมาก เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็หัวเราะแล้วพูดว่า “อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดพี่ใหญ่โจว..ให้ฉันบอกรายละเอียดให้หมดก่อนสิครับ..เดิมทีหวังหมิงซูเป็นคนของผมและเขาก็เพิ่งจะไต่เต้าได้ไม่นานดังนั้นคนในองค์กรบางส่วนจึงยังต่อต้านเขาอยู่เพราะงั้นผมจึงจำเป็นต้องรักษาเสถียรภาพภายในขององค์กรเทียนเต๋าและค่อยๆ กำจัดพวกที่ไม่เห็นด้วยออกไปทั้งหมด..ซึ่งวิธีการของเซินเจี๋ยเองมันจะนำไปสู่การต่อต้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะงั้นถ้าหากเรากำจัดเซินเจี๋ยได้ล่ะก็สถานการณ์มันก็จะเป็นอีกอย่าง”

ใบหน้าของโจวเจิ้งผิงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและเขาก็กำลังคิดเกี่ยวกับคำพูดของเย่เชียนอยู่ในใจและเขาต้องยอมรับว่าสิ่งที่เย่เชียนพูดมานั้นสมเหตุสมผลมาก แต่สำหรับเขาเหตุผลก็คือเหตุผลเพราะผลประโยชน์จะมาก่อนเสมอ ดังนั้นหากเราไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ สิ่งที่เราทำไปทั้งหมดนั้นก็จะเปล่าประโยชน์ หลังจากหยุดไปชั่วขณะโจวเจิ้งผิงก็พูดว่า “แล้วน้องเย่คิดว่ายังไงล่ะ?”

เย่เชียนก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ผมอยากรู้ว่าเป้าหมายของพี่ใหญ่โจวคืออะไรก่อน..พี่ใหญ่โจวพอใจกับกำไรเล็กๆ น้อยๆ ที่มีอยู่ตอนนี้หรือมีเป้าหมายอื่นที่ใหญ่กว่าบ้างมั้ย?”

“น้องเย่หมายความว่าไง?” โจวเจิ้งผิงพูด

“ถ้าพี่ใหญ่โจวต้องการแค่ผลกำไรเพียงเล็กๆ น้อยๆ มันก็ไม่ยากเลยเพราะตราบใดที่องค์กรเทียนเต๋ามีเสถียรภาพผมก็สามารถให้สิ่งที่พี่ใหญ่โจวต้องการได้ตลอดเวลา..แต่ถ้าพี่ใหญ่โจวมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ต้องการจะคว้ามันมาให้ได้เราก็มาคุยกันเถอะ..เพราะเป้าหมายของผมไม่ได้มีแค่นี้หรอก” เย่เชียนพูด

โจวเจิ้งผิงก็ค่อยๆ หยิบบุหรี่ออกมาแล้วจุดไฟจากนั้นก็เอนหลังพิงโซฟาพร้อมกับสูบบุหนี่เบาๆ แล้วพูดว่า “ไม่เอาหน่า..ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าที่น้องเย่ต้องการคว้าเอาไว้มันคืออะไร?”

เย่เชียนฉีกยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ในไต้หวันมีไม่น้อยกว่ายี่สิบแก๊งทั้งองค์กรเล็กและใหญ่และแน่นอนว่าในยี่สิบองค์กรนี้ล้วนมีชื่อเสียงทั้งนั้นส่วนแก๊งค์เล็กๆผมจะไม่พูดถึง..ซึ่งทุกแก๊งค์ทุกองค์กรล้วนมีธุรกิจและช่องทางการหาเงินเป็นของตัวเองซึ่งบางที่อาจจะขัดขวางการพัฒนาผลประโยชน์ของเราได้ในระดับหนึ่งแล้วยังจะนำมาซึ่งอิทธิพลที่ไม่ดีต่อพวกเราอีกด้วย..ตลอดเวลาที่ผ่านมามันอาจจะดูไม่มีผลกระทบต่อองค์กรใหญ่ๆ ก็ตามแต่ถ้าหากมันรวมกันเป็นหนึ่งเดียวล่ะ? ..เพราะงั้นเราจึงจำเป็นต้องกำจัดองค์กรเหล่านี้ทั้งหมดเพราะด้วยวิธีนี้เราจะสามารถจัดการระเบียบและควบคุมองค์กรใต้ดินได้ทั้งหมด..ในแง่ของผลประโยชน์แน่นอนว่าพวกเรายังสามารถได้รับผลประโยชน์มากมายจากการทำแบบนี้ซึ่งจะทำให้ธุรกิจแทบจะทั้งหมดในไต้หวันอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา..ในสังคมปัจจุบันทุกอย่างต้องมีโครงสร้างที่เข้มงวดและด้วยวิธีนี้เราจะสามารถเพิ่มความได้เปรียบและลดข้อเสียของเราได้ดียิ่งขึ้น..ในไต้หวันนั้นมีสามขั้วอำนาจใหญ่ๆ ซึ่งก็คือองค์กรสามมุมเมืองของพี่ใหญ่โจว..องค์กรเทียนเต๋าและองค์กรซูเหลียนซึ่งได้ต่อสู้กันอย่างเปิดเผยและลับๆ มาโดยตลอดและทั้งสามก็ปฏิเสธที่จะยอมแพ้ต่ออีกฝ่ายจนมันนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและมันก็ทำให้แต่ละองค์กรสูญทรัพยากรและทรัพย์สินไปมาก..พี่ใหญ่โจวลองคิดดูถ้าหากองค์กรเทียนเต๋ากับองค์กรสามมุมเมืองของพี่ใหญ่โจวต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายล่ะก็ใครจะเป็นฝ่ายแทงข้างหลังพวกเราสองคน? ..หากเป็นแบบนั้นผลประโยชน์ของพวกเราก็จะถูกทำลายเพราะงั้นทางเดียวที่จะเปลี่ยนสถานการณ์นี้ได้คือเราต้องกำจัดมือที่สามทิ้งไปเท่านั้น!”

เมื่อได้ยินแบบนั้นสีหน้าของโจวเจิ้งผิงก็ตกตะลึงอย่างมากและเขาก็พูดด้วยความประหลาดใจว่า “นี่น้องเย่หมายถึงองค์กรซูเหลียนหรือเปล่า?”

เย่เชียนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ใช่!..ตอนนี้เราสามารถพูดได้ว่าองค์กรเทียนเต๋ากับองค์กรสามมุมเมืองของพี่ใหญ่โจวเป็นพันธมิตรกันแล้วเพราะงั้นเราจะเหลือศัตรูตัวฉกาจเพียงแต่องค์กรซูเหลียนเพียงองค์กรเดียว..เพราะงั้นถ้าเรากำจัดองค์กรซูเหลียนได้ล่ะก็อุปสรรคของเราก็จะหมดไปจากนั้นเราก็จะรวบรวมทุกองค์กรและทุกแก๊งค์ในไต้หวันให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา..มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่เราจะต่อกรกับรัฐบาลไต้หวันได้..ยิ่งไปกว่านั้นจากการสืบค้นข้อมูลของผมพบว่ามีสมาชิกขององค์กรใต้ดินเพียง 20 % เท่านั้นที่อยู่ในรัฐสภาเพราะงั้นความแข็งแกร่งของพวกเรายังไม่พอและเราต้องขยายที่นั่งในรัฐสภาเป็นให้เป็น 50% ของสมาชิกทั้งหมดเพื่อที่เราจะสามารถควบคุมไต้หวันได้ทั้งหมด..เมื่อถึงตอนนั้นเราก็สามารถแม้แต่จะทำรัฐสภาให้เป็นสนามกอล์ฟได้ง่ายๆ และเมื่อไหร่ที่พวกเราว่างๆ และไม่มีอะไรทำเราก็เรียกสมาชิกรัฐสภาให้มาเล่นกอล์ฟกันในวันหยุดได้..พี่ใหญ่โจวคิดว่าไงบ้างล่ะ?”

อันที่จริงสถานะปัจจุบันของโจวเจิ้งผิงก็ดูเหมือนจะแข็งแกร่งและสูงมากแต่เขาก็ยังมีความกังวลอยู่ในใจเพราะเขาไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่รัฐบาลไต้หวันจะเริ่มทำการกวาดล้างองค์กรใต้ดินอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะต้องสูญเสียผลประโยชน์ไปอย่างมหาศาล ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐสภาแล้วก็ตามแต่ท้ายที่สุดแล้วความแข็งแกร่งโดยรวมก็ยังคงแตกต่างกันเกินไปและถ้าหากรัฐบาลไต้หวันต้องการกำจัดเขาล่ะก็เขาจะไม่สามารถต้านทานได้เลย ดังนั้นวิสัยทัศน์ของเย่เชียนจึงทำให้เขาสนใจอย่างไม่ต้องสงสัยและแน่นอนว่าคนที่อยู่ในสถานะเดียวกับโจวเจิ้งผิงแล้วสิ่งที่พวกเขาต้องการก็ไม่เพียงแค่ผลประโยชน์ทางการเงินเท่านั้นแต่ยังรวมถึงวิธีที่จะทำให้ตำแหน่งของเขามีเสถียรภาพอย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาไปทีละขั้น ดังนั้นสิ่งที่เย่เชียนจินตนาการเอาไว้ก็ตอบสนองความต้องการของโจวเจิ้งผิงอย่างมาก

ตอนที่ 1178 ชักชวนให้ร่วมมือ 1

ตอนที่ 1178 ชักชวนให้ร่วมมือ 2

ตอนที่ 1178 ชักชวนให้ร่วมมือ 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน