ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 1181

ตอนที่ 1181 คนฉลาดมักจะทำสิ่งที่ฉลาด

………………..

ยิ่งความแข็งแกร่งและอิทธิพลของเขี้ยวหมาป่าขยายตัวมากขึ้นเท่าไรเย่เชียนก็ยิ่งมีโอกาสน้อยที่จะควบคุมงานด้วยตนเองมากเท่านั้น ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องหาผู้สืบทอดและตัวแทนที่เหมาะสมเพื่อให้สิ่งต่างๆ ดำเนินไปได้ดียิ่งขึ้น ไต้หวันเป็นสถานที่ที่สำคัญมากและเป็นส่วนสำคัญของแผนการของเย่เชียนและไม่อนุญาตให้มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นที่นี่อย่างแน่นอน ดังนั้นคุณภาพของตัวแทนจะต้องเข้มงวดมากเพราะเขาจะต้องดำเนินการหลายๆ อย่าง จากการตรวจสอบและการสังเกตก่อนหน้านี้เย่เชียนก็ยังคงชื่นชมสิ่งที่หวังหมิงซูทำแต่ไม่ได้หมายความว่าหวังหมิงซูจะมีความสามารถในการเป็นตัวแทนเสมอไป สถานการณ์ของไต้หวันนั้นเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและแม้กระทั่งจวบจนรวบรวมทุกอย่างได้แล้วเย่เชียนก็ต้องการคนที่มีความสามารถมากมาคอยดูแลจัดการสิ่งต่างๆ ต่อจากเขาและนั่นเป็นเหตุผลที่เย่เชียนถามคำถามนี้ขึ้นมา

บางคนบอกว่าคนฉลาดเกินไปก็ไม่ใช่จะดีเสมอไปเพราะคนที่ฉลาดเกินไปนั้นไม่ง่ายที่จะควบคุม แต่เย่เชียนไม่คิดอย่างนั้นเพราะเขาหวังว่าทุกคนที่อยู่ภายใต้เขาจะต้องเป็นคนฉลาดเท่านั้นเพราะด้วยวิธีนี้เขาจะทำสิ่งต่างๆ ได้ดี หากเขากำลังมองหาคนโง่เพื่อเป็นตัวแทนก็ดีกว่าที่จะไม่มองหามันเลยและยิ่งไปกว่านั้น เย่เชียนยังมั่นใจว่าไม่ว่าอีกฝ่ายจะฉลาดแค่ไหนก็ตามแต่การให้ส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาจะไม่ขัดขวางแผนการทั้งหมดของเขาอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะคิดผิดแต่เย่เชียนก็สามารถกำจัดคนๆนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบอยู่ดีเช่นเดียวกันกับกรณีของโจวหยวน

เพื่อทำให้โจวหยวนมีอำนาจและอิทธิพลแล้วเย่เชียนได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการพาเขาไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเพื่อสอนสิ่งต่างๆ และยังสั่งให้แจ็คจัดการส่งให้โจวหยวนไปเรียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและกลับมาพัฒนาสิ่งต่างๆ ให้ดี ซึ่งโจวหยวนก็สามารถควบคุมสถานการณ์ในเมืองเซินเจิ้นได้อย่างรวดเร็วและบรรลุผลที่เย่เชียนคาดหวังเอาไว้ล่วงหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่โจวหยวนกลับโลภและค่อยๆ เปลี่ยนเส้นทางจากเย่เชียนกำหนดเอาไว้ให้เขาไปไกล ดังนั้นเย่เชียนจึงก็ต้องฆ่าโจวหยวนทิ้งและถึงแม้ว่าเย่เชียนจะลังเลเล็กน้อยก็ตามแต่เย่เชียนเป็นคนมอบทุกอย่างให้กับโจวหยวนและมันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ใครสักคนมีสถานะอย่างโจวหยวนได้ แต่เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมเย่เชียนจึงต้องทำแบบนี้เท่านั้น

หวางหมิงซูก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วเขาก็พูดว่า “บอสหมายถึงข่าวการตายของชางหมิงหรือเปล่าครับ?”

“ใช่!” เย่เชียนพยักหน้าตอบเล็กน้อยและพูดว่า “นายคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?”

“ถ้าผมเดาไม่ผิดชางหมิงต้องยังไม่ตายอย่างแน่นอนเพราะเท่าที่ผมสืบมาเพื่อที่ชางหมิงจะได้ขึ้นเป็นผู้นำองค์กรเทียนเต๋าแล้วเขายอมจ่ายเงินมากมายเพื่อว่าจ้างนักฆ่าที่เก่งที่สุดในโลกอย่างองค์กรเซเว่นคิลมา..ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งขององค์กรเซเว่นคิลมีแค่ไหนแต่ในเมื่อพวกเขามีชื่อเสียงระดับนี้ผมคิดว่าพวกเขาจะต้องสุดยอดมากและภายใต้สถานการณ์แบบนี้มันก็ยากจริงๆ ที่ใครจะฆ่าชางหมิงได้” หวังหมิงซูพูด “แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมยังคิดไม่ออกว่าใครที่เป็นคนลงมือทำ..ชางหมิงเป็นถึงหัวหน้าเขตทั้งสิบสองและมันยังเป็นที่สาธารณะอีกด้วยเพราะงั้นคนที่ทำแบบนี้ได้มันจะต้องบ้าระห่ำมากแน่ๆ”

การวิเคราะห์ของหวังหมิงซูแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่สำคัญและค่อนข้างมีน้ำหนักและเย่เชียนก็พึงพอใจมากหลังจากได้ฟัง มีเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่หวังหมิงซูไม่สามารถวิเคราะห์ได้เท่านั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าหวังหมิงซูมีพรสวรรค์ที่สามารถฝึกฝนได้อย่างแท้จริง

หลังจากหยุดไปชั่วขณะหวังหมิงซูก็พูดต่อ “แต่ผมมุ่งเป้าไปที่เซินเจี๋ยที่สั่งคนไปฆ่าชางหมิง..ซึ่งชางหมิงเองก็ใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงละครตบตาและแกล้งตายในเหตุการณ์ครั้งนี้และถ้าผมเดาไม่ผิดตาแก่เหวินปินก็กำลังเคลื่อนไหวอยู่และกำลังตกลงไปในกับดักของชางหมิง..แต่นั่นก็ยังไม่พอเพราะไม่ว่าชางหมิงจะไม่สามารถออกมาจัดการอะไรได้อย่างเปิดเผยแต่กองกำลังของชางหมิงก็ไม่ได้อ่อนแอและเขาจะไม่ถูกเหวินปินบดขยี้เหมือนมดอย่างแน่นอน”

เย่เชียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดว่า “นายวิเคราะห์ได้เฉียบขาดมาก..เพราะความจริงก็คือเซินเจี๋ยสั่งให้ฉันไปฆ่าชางหมิงจากนั้นเซินเจี๋ยก็สั่งให้คนมาฆ่าฉันอีกทีเพื่อต้องการปิดปากฉัน..และตอนนี้เซินเจี๋ยก็คิดว่าฉันตายไปแล้ว..แต่ฉันได้เจรจากับชางหมิงและให้เขาแกล้งตายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเซินเจี๋ย..นอกจากนี้ชางหมิงยังพูดอีกว่าตราบใดที่เรามีหลักฐานพิสูจน์ว่าเซินเฉาหยางคิดที่จะมอบตำแหน่งผู้นำคนต่อไปให้กับนายตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ชางหมิงก็จะสนับสนุนนายอย่างเต็มที่โดยไม่ลังเล..ตอนนี้ชางหมิงกำลังซ่อนตัวอยู่ในเงามืดตามคำแนะนำของฉัน..ในขณะที่เหวินปินกำลังคิดว่าเขามีความได้เปรียบและจะชนะในศึกครั้งนี้..ตามที่ชางหมิงบอกว่าเหวินปินได้สมรู้ร่วมคิดกับเซินเจี๋ยมานานแล้วและฉันคิดว่าการกระทำของเหวินปินในครั้งนี้น่าจะเป็นคำสั่งของเซินเจี๋ยด้วย..แล้วนายล่ะ..นายคิดว่านายควรทำยังไง?”

“ก็ในเมื่อเซินเจี๋ยมันไม่ได้บอกผมว่ามันกับเหวินปินร่วมมือกันอยู่เพราะงั้นผมก็เลยคิดว่าผมควรจะแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลยจากนั้นก็ยกพวกทั้งหมดไปถล่มเขตของเหวินปินและถือโอกาสนี้ส่งตาแก่นั่นไปลงนรกซะ!..ผมคิดว่าหลังจากที่เหวินปินบุกเขตของชางหมิงแล้วเขาน่าจะเสียกำลังคนไปมากเพราะงั้นผมจะใช้เวลานี้เพื่อกำจัดเหวินปิน..ซึ่งถือได้ว่าเป็นการตัดกำลังของเซินเจี๋ยได้มากเลยทีเดียว” หวังหมิงซูพูด “เอ่อบอสครับนี่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของผมเท่านั้น..ผมไม่รู้ว่าที่ผมพูดไปมันถูกต้องหรือเปล่า..แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดบอสบอกผมมาได้เลยครับ!”

เย่เชียนฉีกยิ้มและพูดว่า “ฉันคิดว่านายน่าจะพร้อมแล้วเพราะการวิเคราะห์ของนายสมเหตุสมผลมากและฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน..เพราะงั้นนายสามารถทำตามสิ่งที่นายคิดได้เลย..มันเป็นโอกาสทองเพราะงั้นถล่มเหวินปินให้ราบซะแล้วยึดทุกอย่างมาให้หมด!..แต่นายต้องระวังไอ้เด็กเวรเซินเจี๋ยให้มากเพราะมันเป็นคนเจ้าอารมณ์..ถึงแม้ว่ามันจะพูดว่ามันถือว่านายเป็นพี่น้องของมันแต่นายต้องรู้เอาไว้ว่ามันต้องการจะฆ่านายอยู่ตลอดเวลา..ไม่มีใครรู้ได้เลยว่ามันจะทำแบบนั้นเมื่อไหร่เพราะงั้นนายต้องระวังให้มากเข้าใจมั้ย?”

หวังหมิงซูพยักหน้าอย่างหนักหน่วงและพูดว่า “ครับบอสไม่ต้องกังวลไป..ผมรู้ว่าต้องทำยังไง!”

“ถ้างั้นก็แค่นี้แหละ..ฉันจะไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมแล้ว..นายไปเตรียมตัวแล้วรอฟังข่าวดีได้เลย” เย่เชียนพูดแล้ววางสายไปทันที

VERIFYCAPTCHA_LABELยืนยัน