ตอนที่ 1182 พ่ายแพ้ยับเยิน
………………..
ไม่รู้ว่าจะพูดว่าเซินเจี๋ยมั่นใจเกินไปหรือเหวินปินหยิ่งผยองเกินไปกันแน่เพราะเหวินปินไม่เหลือคนของเขาเอาไว้ป้องกันเขตของตัวเองเลยและส่งคนทั้งหมดของเขาออกไปเพื่อโจมตีเขตของชางหมิง เพราะเมื่อเห็นสถานการณ์ของชางหมิงแล้วเหวินปินก็คิดว่ากองกำลังของชางหมิงกำลังอ่อนแอลงเพราะไม่มีชางหมิงบัญชาการและดูแลสถานการณ์โดยรวมดังนั้นเขาจึงไม่มีความรอบคอบเลยและเทหน้าตักในคราวเดียว แต่เหวินปินนั้นไม่เคยคิดเลยว่าชางหมิงนั้นจงใจสั่งให้คนของเขาล่าถอยเพื่อทำให้ดูเหมือนว่าเขาอ่อนแอลง
เนื่องจากเซินเจี๋ยมีข้อตกลงลับๆ กับรัฐบาลไต้หวันดังนั้นทางรัฐบาลและตำรวจท้องที่จึงยอมรับเรื่องเหล่านี้และพวกเขาก็คิดว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวของเซินเจี๋ยที่จะรวบรวมองค์กรเทียนเต๋าให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลและตำรวจท้องถิ่นจึงปิดตาข้างหนึ่งและทำเป็นไม่รู้อะไรเลย ดังนั้นสถานการณ์ดังกล่าวจึงทำให้ชางหมิงมีโอกาสที่ดีในการดำเนินการ
เมื่อลูกของเหวินปินบุกเข้ามาในเขตของชางหมิงแล้วชางหมิงก็สั่งให้ลูกน้องของเขาปิดล้อมลูกน้องของเหวินปินเอาไว้เป็นวงกลมจนไม่สามารถล่าถอยได้และก็ไม่สามารถบุกเข้าไปได้เช่นกันและที่สำคัญกว่านั้นเนื่องจากความช่วยเหลือขององค์กรเซเว่นคิลของหลินเฟิงแล้วจึงทำให้สมาชิกระดับสูงของเหวินปินที่คอยบัญชาการแต่ละกลุ่มถูกกำจัดจนทำให้กองกำลังของเหวินปินอ่อนแอลงอย่างมาก
องค์กรเซเว่นคิลคืออะไร?นั่นคือกลุ่มนักฆ่าที่โด่งดังและเก่งกาจที่สุดในโลกและองค์กรที่มีอำนาจมหาศาลที่สามารถเทียบกับองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าได้ ซึ่งเขี้ยวหมาป่าเป็นราชาแห่งโลกทหารรับจ้างส่วนองค์กรเซเว่นคิลเป็นราชาแห่งโลกนักฆ่า ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกมาเฟียและนักเลงข้างถนนเหล่านี้ ดังนั้นสถานการณ์จึงเกือบจะเป็นการรุกของฝ่ายเดียว
ในบ้านพักของเหวินปินในขณะนี้เขาเป็นเหมือนมดบนหม้อไฟเขาทั้งกระวนกระวายและหงุดหงิดและเดินไปเดินมาอย่างไม่หยุดและเหวินปินก็ถึงกับผงะเมื่อเขาได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องโดยบอกว่าคนของเขาถูกปิดล้อมและไม่สามารถล่าถอยได้ ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกระดับสูงที่คอยบัญชาการแต่ละกลุ่มย่อยก็ล้มตายกันไปเกือบหมดจนกองกำลังของเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักและในเวลานี้เขาก็ทำอะไรไม่ถูกเลย ยิ่งไปกว่านั้นเหวินปินได้ส่งลูกน้องทุกคนที่อยู่ภายใต้เขาออกไปหมดแล้วและไม่มีใครคุ้มกันเขาเลย
เมื่อได้ยินแบบนั้นเหวินปินก็ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยวว่า “ไอ้พวกขยะที่ไร้ประโยชน์..แม้แต่พวกหมาจรจัดที่ไม่มีเจ้านายพวกแกยังจัดการไม่ได้!” หลังจากตำหนิไปแล้วเหวินปินก็ยังคงวิตกกังวลอย่างมากเพราะท้ายที่สุดแล้วลูกน้องทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนของเขาดังนั้นถ้าหากพวกเขาตายเหวินปินก็จะไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์อีกเลย
ไม่มีทางเลือกอื่นในเวลานี้เพราะเหวินปินต้องฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้กับเซินเจี๋ยดังนั้นเขาจึงไม่กล้าลังเลเลยและรีบโทรหาเซินเจี๋ยทันที “เกิดบ้าอะไรขึ้น? ..นี่แกไม่ได้บอกว่าชางหมิงตายไปแล้วเหรอ? ..ทำไมพวกมันถึงปิดล้อมคนของฉันได้ล่ะ?” เหวินปินตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวทันทีที่มีการเชื่อมต่อสายโทรศัพท์
เซินเจี๋ยก็ถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์แล้วพูดว่า “หัวหน้าเขตเหวินระวังคำพูดด้วย..ตอนนี้ชางหมิงตายไปแล้วจริงๆ และเหตุผลที่พวกคุณโดนปิดล้อมนั่นก็เพราะว่าลูกน้องของคนไร้ความสามารถเพราะ..ไม่ใช่แค่นั้นแต่คุณยังโทษผมอีกแบบนี้มันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ?”
เหวินปินก็พูดอย่างเย้ยหยันว่า “ฉันรู้ว่าแกต้องการอยู่ในเงามืดและดูคนอื่นเข่นฆ่ากันเอง..แกเองก็หวังให้ฉันตายด้วยใช่มั้ย? ..แกอย่าลืมสิว่าถ้าฉันแพ้แกก็จะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย..ต่อให้ชางหมิงจะตายไปแล้วแต่คนในองค์กรอีกมากมายก็ไม่สนับสนุนแกหรอก..เพราะงั้นถ้าหากแกไม่ได้รับการสนับสนุนจากฉันล่ะก็แกอย่างแม้แต่จะคิดขึ้นเป็นผู้นำองค์กรเทียนเต๋าเลย..ถึงยังไงแกก็จะตกลงมาจากบัลลังก์อยู่ดี”
หลังจากหัวเราะอย่างดูถูกเหยียดหยามแล้วเซินเจี๋ยก็พูดว่า “เหอะๆ ..หัวหน้าเขตเหวิน..คิดให้ดีๆ ..ถึงยังไงผมก็จะขึ้นเป็นผู้นำขององค์กรเทียนเต๋าอยู่ดีและไม่ว่าจะมีคุณหรือไม่ก็ตามแต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิมอยู่ดี..คุณทำให้ผมผิดหวังมากเพราะผมช่วยคุณกำจัดชางหมิงให้แต่คุณกลับสู้ลูกน้องของเขาไม่ได้..แบบนี้คุณไม่ละอายใจบ้างเลยเหรอ?”
เหวินปินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และระงับความโกรธและความไม่เต็มใจในใจของเขาเอาไว้เพราะในเวลานี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฝากความหวังเอาไว้กับเซินเจี๋ยไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่เหลืออะไรเลย ต่อให้โกรธแค่ไหนหรือไม่พอใจแค่ไหนและต้องฝืนทนแค่ไหนมันก็ต้องถูกระงับเอาไว้เท่านั้น “นายน้อยเซิน..ไม่ว่าจะยังไงเราก็ถือว่าเป็นพวกเดียวกันแล้วเพราะงั้นถ้าคนของฉันตายหมดมันจะไม่เป็นผลดีกับนายน้อยเลย..แบบนี้นายน้อยจะยังนั่งอยู่เฉยๆ งั้นเหรอ? ..แบบนี้มันก็เหมือนกับการทำลายขวัญและกำลังใจของลูกน้องทั้งหมดเพราะงั้นนายน้อยควรรีบโทรไปและสั่งให้พวกมันหยุดซะ!” เหวินปินพูด
“ผมจะพูดอะไรได้ตอนนี้เพราะผมพูดอย่างชัดเจนแล้วในการประชุมครั้งล่าสุดว่าให้ทุกคนแข่งขันอย่างยุติธรรม..ซึ่งครั้งนี้คุณบุกไปโจมตีพวกเขาถึงถิ่นเพราะงั้นคุณจะให้ผมไปสั่งให้พวกเขาหยุดอย่างงั้นเหรอ? ..คุณเอาสมองส่วนไหนคิด?” เซินเจี๋ยพูด
หัวใจของเหวินปินก็ระเบิดด้วยความโกรธและร่างกายของเขาก็เหมือนกับบอลลูนที่พองตัวซึ่งสามารถระเบิดได้ทุกเมื่อ ในความคิดของเขารูปแบบการตั้งรับและการโจมตีจากคนของชางหมิงนั้นเห็นได้ชัดว่ามันอยู่ภายใต้การควบคุมของเซินเจี๋ยและตอนนี้เซินเจี๋ยก็ผลักไสเขาทุกอย่าง ดังนั้นเหวินปินจึงอยากจะฆ่าเซินเจี๋ยทั้งเป็นจริงๆ แต่ในตอนนี้เพื่อที่จะอยู่รอดเขาก็ต้องระงับความโกรธในใจของเขาเอาไว้ “แต่ถึงยังไงนายน้อยก็ปล่อยให้คนของฉันทั้งหมดตายที่นั่นไม่ได้ใช่มั้ย?” เหวินปินพูด
เซินเจี๋ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ให้พวกเขาอดทนต่อไปอีกสักพักเดี๋ยวผมจะคิดหาวิธีก่อน” หลังจากพูดจบเซินเจี๋ยก็วางสายไปและสิ่งที่เขาพูดก็ไร้มนุษยธรรมมากแต่ในใจของเซินเจี๋ยก็ชัดเจนมากว่าความพ่ายแพ้ของเหวินปินในเวลานี้ไม่ดีสำหรับเขาเลย อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างไม่คาดคิดสำหรับเขาและในความเห็นของเขาถ้าไม่มีชางหมิงล่ะก็ลูกน้องของชางหมิงก็ไม่ควรจะมีความสามัคคีและต้องอ่อนแอลงอย่างมากแต่พวกเขากลับยังคงแข็งแกร่งและยังสามารถกำจัดกองกำลังของเหวินปินได้และตกลงไปในกับดักของพวกเขา ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เซินเจี๋ยประหลาดใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเซินเจี๋ยก็ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับมันในขณะนี้และเขาก็ไม่สามารถทนดูความสูญเสียทั้งหมดของเหวินปินได้เพราะนี่จะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับเขา ดังนั้นเซินเจี๋ยจึงหยิบรีบโทรศัพท์มือถือออกมาและรีบโทรหาหวังหมิงซู แต่เสียงของเครือข่ายโทรศัพท์ก็ดังขึ้นว่า “ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้…” หลังจากตกตะลึงอยู่พักหนึ่งเซินเจี๋ยก็ขว้างโทรศัพท์มือถือลงพื้นอย่างแรง
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน