ตอนที่ 1205 อธิบายไม่ได้
………………..
แน่นอนว่าหวังหมิงซูจะได้รับตำแหน่งประธานขององค์กรเทียนเต๋าและที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับหวังหมิงซูที่จะแก้ปัญหาขั้นต่อไปด้วยตัวเองและเย่เชียนเชื่อว่าหวังหมิงซูทำได้
หลังจากออกจากสถานที่จัดงานศพหลินเฟิงก็ยิ้มเล็กน้อยและเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “มีปัญหาแล้วน้องเย่!”
เย่เชียนตกตะลึงไปครู่หนึ่งและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “มีปัญหาอะไรพี่หลิน?”
“ไม่ว่านายจะไปที่ไหนที่นั่นก็ต้องมีการต่อสู้นองเลือดเสมอ..มันเป็นเพราะโชคชะตาของนายหรือเป็นเพราะชะตากรรมของคนเหล่านั้นกันแน่?” หลินเฟิงฉีกยิ้มแล้วพูด
เย่เชียนกลอกตาไปมาและพูดว่า “ทุกวันนี้มันยากที่จะอยู่รอด”
หลินเฟิงพูด “แล้วแผนการขั้นต่อไปคืออะไร? ..มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย?”
“อย่าพูดถึงมันเลย..แต่ผมต้องการความช่วยเหลือจากพี่หลินจริงๆ” เย่เชียนพูด “อีกไม่นานผมจะไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและพี่หลินก็เป็นเจ้าถิ่นของที่นั่นเพราะงั้นถ้าผมไม่ขอความช่วยเหลือจากพี่แล้วผมจะไปขอให้ใครช่วย?”
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน?” หลินเฟิงตกตะลึงไปครู่หนึ่งและพูดว่า “มันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ล่าสุดหรือเปล่า?”
“พี่หลินรู้ด้วยเหรอ?” เย่เชียนถาม
“แน่นอนสิ..ก็นายบอกว่าฉันเป็นเจ้าถิ่นเพราะงั้นถ้าฉันไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นใต้จมูกของฉันล่ะก็องค์กรเซเว่นคิลส์คงถูกยุบไปตั้งนานแล้ว..แต่เรื่องนี้มันค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่เพราะงั้นฉันขอเตือนว่านายควรระมัดระวังให้มากกว่านี้..เพราะดูเหมือนว่าทั้งตระกูลจินและตระกูลหยุนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย..ซึ่งเบื้องบนยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากและยังกังวลกับเรื่องนี้มากด้วยและจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ได้แต่กำจัดคนตัวเล็กๆ เท่านั้นส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังจริงๆ พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้..ส่วนเรื่องตระกูลจินและกองกำลังของตระกูลหยุนฉันเชื่อว่านายรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาทั้งสองเป็นตระกูลนักรบโบราณและพลังอิทธิพลของพวกเขาในประเทศจีนก็กว้างขวาง..ไม่ว่าจะเป็นเชิงธุรกิจหรือการเมืองนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาแข็งแกร่งมาก..เรื่องนี้เป็นความขัดแย้งระหว่างตระกูลจินและตระกูลหยุนเพราะงั้นนายไม่จำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลย”
เย่เชียนฉีกยิ้มและพูดว่า “ผมหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกชีวิตผมช่างน่าสังเวชจริงๆ ..ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ตามแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี..นอกจากนี้ผมยังให้คำมั่นสัญญากับพี่ชายเอาไว้ด้วยเพราะงั้นผมต้องแก้ไขเรื่องนี้..ดูเหมือนว่าพี่หลินรู้เรื่องนี้อย่างละเอียดสินะถ้างั้นช่วยบอกผมทีเพราะตอนนี้ผมไม่มีข้อมูลอะไรเลยสักอย่างและไม่รู้จะเริ่มตรงไหนจริงๆ”
“เอ่อ..เรื่องนี้มันซับซ้อนจริงๆ …” หลินเฟิงหยุดพูดไประหว่างทางและมองไปที่หลัวอวี่ซึ่งกำลังเดินมาหาเย่เชียน จากนั้นหลินเฟิงก็มองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจและอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็กลอกตาไปมาโดยไม่สมัครใจและรู้สึกหมดหนทางเพราะผู้หญิงคนนี้เหมือนพลาสเตอร์ติดแผลจริงๆ เพราะเธอตามเขาทุกที่ที่เขาไปและดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ไปไหนแต่ยังรอเขาอยู่ที่นี่ “น้องชายเสร็จแล้วเหรอ?” หลัวอวี่พูดแล้วยิ้มอย่างมีเสน่ห์
เย่เชียนยิ้มแหยงๆ เพราะบางคนอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นหลัวอวี่ก็หันไปมองหลินเฟิงแล้วพูดว่า “อ้าวน้องหลินก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? ..เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะและเมื่อไหร่นายจะว่างพาฉันไปดินเนอร์ล่ะ?”
หลินเฟิงรู้สึกหน้าชาไปครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็หยิ่งอย่างเขินอายแล้วพูดว่า “เอ่อ..คุณมีธุระกับน้องเย่เหรอ? ..ถ้างั้นผมไม่รบกวนแล้วผมขอตัวก่อนนะ!” ทันทีที่หลินเฟิงพูดจบเขาก็ไม่รอให้หลัวอวี่ตอบโต้และรีบหนีไปทันที เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็ถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่งและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการแสดงออกของหลินเฟิง ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เย่เชียนเห็นหลินเฟิงเป็นแบบนี้ ซึ่งเย่เชียนรู้สึกเล็กน้อยว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างหลินเฟิงกับหลัวอวี่อย่างแน่นอนไม่งั้นหลินเฟิงคงจะไม่มีปฏิกิริยาแบบนี้
“นายจะพูดดีๆ กว่านี้ไม่ได้เลยเหรอ..ทำไมนายต้องพูดแดกดันถึงจะมีความสุขใช่มั้ย?” หลัวอวี่กลอกตาไปมาแล้วพูด แต่ท่าทางของเธอไม่ได้หมายความว่าเธอจะโกรธเลยแม้แต่น้อย หลังจากหยุดไปชั่วขณะหลัวอวี่ก็พูดต่อ “เขากล้าทำแบบนี้กับฉันเพราะงั้นฉันจะสอนบทเรียนให้เขาถ้าเจอกันกคราวหน้า”
หลัวอวี่หันไปมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “เป็นไงบ้าง? ..ภารกิจของนายจบลงแล้วเพราะงั้นายมีเวลาหรือเปล่า? ..ฉันเพิ่งมาถึงไต้หวันก็เลยไม่ค่อยคุ้นเคยกับสถานที่ต่างๆ ..นายช่วยพาฉันไปซื้อของหน่อยได้มั้ย?”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน