ตอนที่ 1273 ผู้นำ
………………..
เย่เชียนไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดแบบสุ่มสี่สุ่มห้าของเขาจะทำให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงในตระกูลจินราวกับว่าเขาเผยให้เห็นช่วงเวลาที่ขัดแย้งกันทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในตระกูลจินแต่จะมีความลับที่ซ่อนอยู่แบบไหนก็ยังไม่ปรากฏ อย่างไรก็ตามสำหรับเย่เชียนแล้วเขาไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เพราะไม่ว่าตระกูลจินจะวุ่นวายหรือไม่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแต่ตรงกันข้ามเพราะยิ่งตระกูลจินวุ่นวายมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีสำหรับเขาเท่านั้น
สิ่งที่เย่เชียนสนใจมากในตอนนี้คือวิธีการรักษาหลัวสุ่ยโดยเร็วที่สุดเพื่อที่เธอจะได้ตื่นจากฝันร้ายนั่นเอง ก่อนหน้านี้เย่เชียนไม่รู้สถานการณ์ของหลัวส่ยและคิดว่าเธอแค่หลับไปตลอดกาลแต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอถูกทรมานตลอดเวลาแล้วเย่เชียนก็เจ็บปวดใจอย่างมาก
หลังจากออกจากบ้านของตระกูลจินแล้วเย่เชียนก็ขับรถกลับไปที่อาคารรัฐสภาและเมื่อถึงป้อมยามรักษาความปลอดภัยแล้วเย่เชียนก็หยุดรถและหัวหน้ารปภ.ตัวสูงก็ออกมาทันทีและพูดว่า “สวัสดีครับท่านรองนายกเทศมนตรีเย่..พวกเราสืบข้อมูลมาแล้วและได้รายละเอียดของบุคคลที่อยู่ในรายชื่อแล้วครับ..ซึ่งตอนนี้เรารู้แล้วว่าใครที่สนับสนุนตระกูลหยุนอยู่และรายละเอียดการติดต่อรับสินบนต่างๆ จากตระกูลหยุนด้วยครับ”
เย่เชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจแล้วพูดว่า “เอาล่ะพวกคุณทำได้ดีมาก..ถ้างั้นก็ตรวจสอบต่อไปแต่ก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยและเตรียมตัวให้ดีด้วยล่ะเพราะคืนนี้พวกคุณต้องออกไปข้างนอกกับผมคงจะไม่มีปัญหาใช่มั้ย?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียนแล้วรปภ.ตัวสูงก็รู้สึกตื่นเต้นในทันทีเพราะสำหรับพวกเขาการสามารถตามเย่เชียนออกไปทำธุระได้นั่นก็หมายความว่าเย่เชียนเชื่อมั่นในตัวพวกเขาแล้วดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก “ไม่เป็นไรครับ..พวกเรายินดีอย่างยิ่ง” รปภ.ตัวสูงรีบพูด
เย่เชียนไม่พูดอะไรอีกและขับรถเข้าไปและเมื่อเดินตรงไปยังออฟฟิศของเขาแล้วเลขานุการเสี่ยวเทียนก็ชงชาให้ จากนั้นเย่เชียนก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วชำเลืองมองเธอและพูดว่า “เสี่ยวเทียนช่วยผมทำเรื่องอนุมัติโอนย้ายสิทธิ์การขุดเจาะภูเขาหินให้ผมที.ถ้าได้เอกสารมาแล้วก็นำมันมาให้ผมทันที..ถ้าหากมีใครคัดค้านล่ะก็ผมจะจัดการเอง”
“ได้ค่ะรองนายกเทศมนตรีเย่” เสี่ยวเทียนตอบ
“เอาล่ะถ้างั้นผมขอฝากด้วยแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยเอามาให้ผม” เย่เชียนพูด “ถึงแม้ว่ามันจะสำคัญแต่อย่าทำงานหนักเกินไปล่ะ..คุณควรหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะ..คุณมองตาผมสิผมจะกลายเป็นหมีแพนด้าแล้ว..ถ้ายังเป็นแบบนี้คุณจะไม่ได้แต่งงานเอานะ..อ่อคุณขับรถผมไปทำเรื่องเอกสารก็แล้วกัน”
เสี่ยวเทียนตกตะลึงไปครู่หนึ่งและพูดว่า “ท่านรองนายกเทศมนตรีเย่คะไม่เป็นอะไรค่ะเดี๋ยวฉันจะขึ้นรถประจำทางไปเอง” เมื่อพูดจบหัวใจของเสี่ยวเทียนก็เต็มไปด้วยความหอมหวานเพราะการมีเจ้านายที่ห่วงใยนั้นจะไม่ทำให้ลูกน้องดีใจได้อย่างไร? ความจริงแล้วการเป็นเลขาก็เหมือนการทำงานอยู่ตลอดเวลาเพราะบางครั้งไม่เพียงแต่ต้องดูแลงานของเจ้านายเท่านั้นแต่ยังต้องดูแลชีวิตประจำวันของเจ้านายด้วยและคุณต้องเข้าใจอารมณ์ของเจ้านายให้ได้ ทุกวันนี้เป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นผู้นำที่ห่วงใยลูกน้องอย่างเย่เชียนจริงๆ
“อย่าเกรงใจไปเลย..คุณสามารถขับมันได้เท่าที่คุณต้องการ” เย่เชียนพูด “คุณเป็นเลขาของผมเพราะงั้นเวลาคุณออกไปไหนมาไหนคุณก็เหมือนเป็นตัวแทนของผมเพราะงั้นจำเอาไว้ถึงแม้ว่าตำแหน่งในปัจจุบันของคุณอาจจะไม่สูงเท่าไหร่แต่คุณก็เป็นเลขาของผมเพราะงั้นคุณไม่จำเป็นต้องสุภาพเกินไปเมื่อติดต่อเรื่องงานกับเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านั้น..คุณต้องชัดเจนและเด็ดขาดและถ้าพวกเขาแสดงความไม่พอใจล่ะก็คุณสามารถโทรหาผมได้ทุกเมื่อและผมจะไปจัดการพวกนั้นเอง!”
เสี่ยวเทียนตอบหลายครั้งและหยิบกุญแจรถที่เย่เชียนมอบให้แล้วบอกลาจากนั้นก็หันหลังเดินออกไป ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะพูดแบบนั้นแต่เสี่ยวเทียนก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้อย่างแน่นอน ซึ่งผู้นำมีวิธีการทำสิ่งต่างๆ แต่เลขาไม่สามารถทำแบบผู้นำได้เสมอไปและจะดีกว่าที่ทำตัวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนเอาไว้
นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวเทียนได้ขับรถดีๆ อย่าง Lamborghini และเธอก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อยและเธอก็ไม่เข้าใจเจ้านายของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นความจริงที่เจ้าหน้าที่รัฐหลายคนรวยมากในตอนนี้และบางทีหลายๆ คนก็สามารถซื้อ Lamborghini ได้ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าที่จะขับมันจริงๆ เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องใส่ใจกับอิทธิพลและกลัวที่จะถูกนินทา อย่างไรก็ตามความเป็นผู้นำของเย่เชียนถูกละเลยโดยสิ้นเชิงและเขาก็กล้ามากจนดูเหมือนเขาจะเก่งกว่านายกเทศมนตรีเสียอีก ดังนั้นสำหรับเลขาแล้วการมีผู้นำที่ดีก็สำคัญเหนือกว่าสิ่งใด
เมื่อสตาร์ทรถแล้วเสี่ยวเทียนก็ขับออกไปอย่างช้าๆ เพราะความเร็วของรถนั้นเร็วเกินไปเธอก็กลัวว่าถ้าหากรถมีร่องรอยขีดข่วนใดๆ มันก็คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะอธิบายให้เย่เชียนฟัง
หลังจากเสี่ยวเทียนออกไปเย่เชียนก็โทรหาหลินเฟิงกับจินเหว่ยห่าวและอธิบายสั้นๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านตระกูลจินในวันนี้ ส่วนจินเหว่ยห่าวก็ไม่ได้พูดอะไรมากและปล่อยให้เย่เชียนตัดสินใจเพราะดูเหมือนว่าในใจพวกเขาถือว่าเย่เชียนเป็นผู้นำอยู่แล้ว
น้ำเสียงของหลินเฟิงดูเหมือนจะอดทนไม่ไหวและรีบร้อนอย่างมากแล้วเขาก็วางสายไปทันที ซึ่งนี่ทำให้เย่เชียนงุนงงเล็กน้อยและเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วก่อนที่พวกเขาจะรับโทรศัพท์ดูเหมือนว่าหลินเฟิงกับจินเหว่ยห่าวกำลังคุยอะไรบางอย่างกันอยู่และดูเหมือนจะจริงจังมาก ดังนั้นเย่เชียนจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มเพราะเมื่อพิจารณาดูแล้วคาดว่าพวกเขากำลังคุยกันเรื่องหลัวอวี่กันอยู่
ในตอนนี้เย่เชียนก็ยกข้อมือขึ้นมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของเขาและมันก็ใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว ซึ่งเขาจะต้องออกไปข้างนอกเพื่อกินมื้อเย็นกับเหล่ารปภ.ในภายหลังและพวกเขาก็มีบางอย่างที่ต้องทำในตอนกลางคืน


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน