คำพูดของเย่เชียนก่อนหน้านี้ เขาเพียงแค่พูดจากจุดที่เขายืนอยู่ในมุมมองของเขาเองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เย่เชียนจะไม่มีทางยอมให้เรื่องระหว่างสองฝ่ายต้องบานปลายอย่างแน่นอน เพราะสงครามเย็นระหว่างหงเหมินกรุ๊ปและชิงกรุ๊ปอาจจะนำไปสู่การรุกรานจากต่างชาติได้
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะออกจากประเทศจีนไปตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็ก แต่ความรักที่มีต่อประเทศชาติและแผ่นดินเกิดของเขานั้นก็ไม่มีทางลบเลือนหรือจางหายไปได้ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลุ่มเขี้ยวหมาป่าไม่ค่อยออกไปปฏิบัติภารกิจในประเทศจีนนัก รวมถึงการที่พวกเขายื่นมือเข้าไปช่วยรัฐบาลจีนหลายต่อหลายครั้งนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากจิตใต้สำนึกของพวกเขากับแผ่นดินเกิดนั่นเอง
มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เย่เชียนรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยนั่นก็คือ การที่หูวเค่อแสดงออกเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อย่างฉุนเฉียวมากเกินไป มันยิ่งทำให้เย่เชียนสงสัยในตัวตนของเธอมากยิ่งขึ้น เธอเคยบอกกับเขาว่าเธอเป็นเพียงผู้บริหารสำนักงานธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกระวนกระวายเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เย่เชียนจึงคิดว่าตัวตนที่แท้จริงของหูวเค่อนั้นคงจะไม่ใช่ผู้บริหารธรรมดา ๆ ของสำนักงานทั่วไปอย่างแน่นอน
ฉินหยูไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เธอเพียงแค่บอกให้เย่เชียนระวังอย่าไปนอนทับแขนตัวเองในขณะที่เขาหลับ แล้วเธอจะขับรถพาเขาไปโรงพยาบาลในเช้าวันรุ่งขึ้น จากนั้นเธอก็ขึ้นไปชั้นบน
ส่วนจ้าวหยานั้น ดูเหมือนว่าเธอจะลืมไปเสียสนิทว่าเธอเพิ่งจะเผชิญหน้ากับอันตรายร้ายแรงมาเมื่อไม่นานมานี้ เธอชี้ไปที่เย่เชียนและพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “นี่นาย…! ทำไมนายถึงต้องไปทำให้เค่อเอ๋อร์โกรธด้วยล่ะ ?”
เย่เชียนจ้องมองเธออย่างหมดหนทาง เขาพยายามที่จะอธิบายว่าตัวเขาเองไม่ได้ต่อต้านหูวเค่อหรือมีอคติอะไรเลย แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามอธิบายให้จ้าวหยาฟังอย่างไร เธอก็ไม่ยอมเข้าใจเสียที ในที่สุดเขาจึงทำหน้าตาเฉยเมยและพูดว่า “เอาเถอะ… แล้วแต่เธอเลยแล้วกัน ถึงยังไงฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
จ้าวหยาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่ยอมฟังอะไรอีกต่อไปแล้วจึงสะบัดหน้าหนีและเดินขึ้นไปชั้นบนเช่นกัน
เย่เชียนยังคงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยความรู้สึกที่มืดมนและขมขื่น ลึก ๆ แล้วเขาแอบเสียใจอยู่เล็กน้อย เขาต้องเหนื่อยแทบตายเพื่อไปช่วยจ้าวหยา จึงคิดเอาเองว่าอย่างน้อยเขาควรจะได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่นเป็นการตอบแทน
แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย! เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสิ้นหวัง จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องของเขา
หลังจากที่หูวเค่อกลับไปที่ห้องนอนของเธอแล้ว เธอก็ยังคงมีความรู้สึกโกรธเคืองเย่เชียนอยู่ เดิมทีตัวเธอเองรู้สึกดีและประทับใจในตัวเย่เชียนอย่างมาก เธอหวังว่าเขาจะสามารถแบกความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่นี้ได้ แต่ฟังจากคำพูดของเย่เชียนในวันนี้ มันกลับไม่เป็นดั่งที่เธอหวังเอาไว้
ขณะที่เธอกำลังโกรธเกรี้ยวอยู่นั้น จู่ ๆ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น หูวเค่อหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมาและตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีเล็กน้อย
“ใครน่ะ ?”
“โอ๊ะ! ใครทำให้หลานสาวตัวน้อยของปู่ต้องโกรธขนาดนี้ ? ไหนบอกมาซิว่า… คุณปู่คนนี้จะช่วยให้หลานคลายความโกรธลงได้ยังไงบ้าง ?” เสียงที่ฟังดูใจดีของชายชราคนหนึ่งดังมาตามสาย
หูวเค่อตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอรีบตอบทันทีว่า “อ้าว! คุณปู่นี่เอง… ทำไมถึงเป็นคุณปู่ที่โทรมาหาหนูได้ล่ะคะ ?”
“แล้วทำไมถึงจะไม่เป็นปู่ล่ะ ? มันแปลกตรงไหนที่คนเป็นปู่จะโทรมาหาหลานสาวตัวน้อย ๆ ของตัวเอง โอ้… ใช่แล้ว! หลานยังไม่ได้บอกปู่เลยว่าใครรังแกหลาน ใครกันที่กล้ามารังแกหลานสาวสุดหวงของปู่ ? เดี๋ยวปู่จะจัดการมันให้เอง” ปู่หูวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างมาก
“เปล่าค่ะ… ไม่มีใครรังแกหนูหรอกค่ะคุณปู่” หูวเค่อรีบตอบ “เอ้อ… คุณปู่คะ คุณปู่ช่วยหนูสืบหาข้อมูลของคนคนนึงให้หนูหน่อยได้ไหมคะ ?”
“ใครรึ ?” ปู่หูวถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง
“คุณปู่ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกค่ะ… คุณปู่แค่หาผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังของเขาแค่นั้นก็พอแล้ว” หูวเค่อตอบด้วยท่าทางน่ารัก น้ำเสียงของเธอฟังดูเอาแต่ใจนิด ๆ
“ได้… ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว คนเป็นปู่ก็ต้องทำตามคำสั่งของหลานสาวที่มีค่าของเขาอยู่แล้ว… ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ปู่หูวพูดพลางหัวเราะ
“คุณปู่รอหนูสักครู่นะคะ เดี๋ยวหนูจะส่งรูปของเขาไปให้คุณปู่ตอนนี้เลย คุณปู่เปิดคอมพิวเตอร์รอรับมันได้เลยค่ะ” หูวเค่อพูดแล้ววางสายไป หลังจากนั้นเธอก็รีบไปเปิดคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว
หูวเค่อเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือของเธอเข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วนำภาพของเย่เชียนจากโทรศัพท์มือถือคัดลอกใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์ จากนั้นเธอก็ส่งไปที่อีเมลของคุณปู่หูว
เมื่อเธอส่งรูปเสร็จ จู่ ๆ ก็มีคนมาเคาะประตูห้องของเธอ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน