ตอนที่ 1285 เปลี่ยนศัตรูให้เป็นเบี้ย
………………..
จินเจิ้งรุ่ยเข้าใจสิ่งที่หยุนเซินพูดเป็นอย่างดีเพราะถ้าเขาคาดเดาไม่ผิดจินเหว่ยห่าวอาจจะสามารถเป็นหนึ่งในผู้ช่วยของเขาได้จริงๆ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตจินเจิ้งรุ่ยก็ปฏิบัติต่อจินเหว่ยห่าวอย่างดีและไม่ได้ดูถูกจินเหว่ยห่าวเหมือนสมาชิกในตระกูลจินคนอื่นๆ และแอบช่วยเหลือจินเหว่ยห่าวมากมายและแน่นอนว่าในเวลานั้นจินเจิ้งรุ่ยก็มองจินเหว่ยห่าวเหมือนลูกของเขาเอง
“แต่ว่าอาจารย์หยุนครับอย่าลืมสิว่าผู้หญิงที่เป็นรักแรกของจินเหว่ยห่าวตายเพราะนายน้อยหยุนเพราะงั้นคุณว่าจินเหว่ยห่าวจะยอมปล่อยวางความเกลียดชังนี้ไปง่ายๆ หรือเปล่าครับ? ..ผมคิดเขาจะไม่ปล่อยตระกูลหยุนไปอย่างแน่นอน” จินเจิ้งรุ่ยพูด
หยุนเซินพูด “ผมเองก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีแต่ถ้าหากจินเหว่ยห่าวต้องการจัดการกับตระกูลหยุนล่ะก็เขาจะต้องมีสถานะในตระกูลจินก่อนเพราะถึงแม้ว่าพลังขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ที่นี่คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพวกเขาก็ไม่รากฐานอะไรเลยและมันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการกับตระกูลหยุนอย่างแน่นอน..แต่ตราบใดที่เราปล่อยเขาไปก่อนเพื่อให้เขาต่อสู้กับตระกูลจินล่ะก็นั่นจะช่วยให้คุณได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลจินง่ายขึ้น..หลังจากนั้นถึงแม้ว่าเขาต้องการจะจัดการกับตระกูลหยุนผมก็ไม่เชื่อหรอกว่าด้วยความแข็งแกร่งของเขี้ยวหมาป่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะสามารถจัดการกับตระกูลหยุนและตระกูลจินได้..แล้วคุณล่ะคิดว่าไง?” หลังจากนั้นไม่นานหยุนเซินก็พูดต่อ “ถึงแม้ว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะเป็นมังกรแต่ถ้าหากพวกนั้นย่างก้าวเข้ามาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อเผชิญหน้ากับตระกูลหยุนและตระกูลจินล่ะก็พวกนั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรเพราะแม้แต่เสือก็ต้องก้มหัวเมื่ออยู่ต่อหน้าผม..อีกอย่างตระกูลชางกวนน่ะอ่อนแอที่สุดในตระกูลนับรบโบราณและโลกของศิลปะการต่อสู้โบราณเพราะงั้นก็ไม่น่าแปลกใจที่จะถูกพวกเขี้ยวหมาป่ากำจัดไป”
“แต่ถึงยังไงเราก็ต้องระวังเอาไว้..กันเอาไว้ดีกว่าแก้นะครับและผมก็ไม่ต้องการให้พวกเขี้ยวหมาป่าเข้ามาแทรกแซงในเวลานี้และรบกวนงานใหญ่ของเรา” จินเจิ้งรุ่ยพูด “นอกจากนี้สิ่งที่พวกเขี้ยวหมาป่าทำในประเทศจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ถือได้ว่าเป็นพายุลูกใหญ่เพราะงั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายและเราก็ต้องระวังให้ดี”
“เป็นเรื่องปกติและผมจะไม่เพิกเฉยต่อคู่ต่อสู้ฝ่ายไหนทั้งนั้นและจะไม่มีวันดูถูกคู่ต่อสู้เด็ดขาด” หยุนเซินพูด
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นและหยุนเซินก็พูดว่า “เข้ามา” จากนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็ผลักประตูและเดินเข้ามาโดยเอนตัวเข้าไปที่ข้างๆ หูของหยุนเซินและกระซิบคำสองสามคำ เมื่อได้ยินแบบนั้นหยุนเซินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและยิ้มจากนั้นก็เหลือบมองจินเจิ้งรุ่ยและพูดว่า “คุณจินผมจะให้คุณดูสิ่งดีๆ” หลังจากพูดจบแล้วเขาก็โบกมือให้ชายหนุ่มและชายหนุ่มก็เข้าใจแล้วหันหลังเดินกลับออกไป
จินเจิ้งรุ่ยก็สับสนอยู่พักหนึ่งและเขาไม่รู้ว่าหยุนเซินหมายถึงอะไรแต่เขาก็ไม่ได้ถามและผ่านไปครู่หนึ่งชายหนุ่มก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้งตามมาด้วยคนสองคนและชายหนุ่มที่ถูกทรมาน เมื่อเห็นแบบนั้นจินเจิ้งรุ่ยก็ไม่เข้าใจความหมายของหยุนเซินและถามด้วยความประหลาดใจว่า “เกิดอะไรขึ้นครับ?”
หยุนเซินหันไปชำเลืองมองชายหนุ่มและกวักมือให้เขาพูด “ตั้งแต่ตอนที่คุณจินมาที่สโมสรแห่งนี้เขาก็สะกดรอยตามคุณมาและแอบฟังพวกคุณอยู่ที่ประตูเพราะงั้นพวกเราจึงจับกุมเขาเอาไว้ครับ” ชายหนุ่มพูดและจินเจิ้งรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและคิดกับตัวเองว่าเขาถูกสะกดรอยตามมานานแค่ไหนแล้วและเผยเจตนาฆ่าออกมาภายในดวงตาของเขาทันที
จากนั้นหยุนเซินก็เหยียดขาออกไปยกคางของชายหนุ่มขึ้นด้วยนิ้วเท้าและจ้องไปที่เขาและถามว่า “บอกมาสิว่าใครส่งแกมาที่นี่? ..ทำไมแกถึงตามคุณจินมา?” น้ำเสียงดูสงบแต่ทุกคนเข้าใจดีว่าวิธีการพูดของหยุนเซินจะดูสงบสุขก็จริงแต่ทว่านี่เป็นเพียงแค่ความสงบก่อนที่จะเกิดพายุเท่านั้น
“คุณพูดอะไรผมไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร?” ชายหนุ่มพูดอย่างดื้อดึง “ผมมาที่นี่เพื่อผ่อนคลาย..คุณทำธุรกิจสโมสรและไม่อนุญาตให้แขกมาเที่ยวเล่นหรือเดินชมรอบๆ งั้นเหรอ? ..คนของคุณจับผมมาโดยไม่มีเหตุผล..ถ้าเป็นแบบนี้และเรื่องนี้หลุดออกไปล่ะก็ใครจะกล้ามาที่นี่อีกในอนาคตกัน?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหยุนเซินก็ไม่ได้โกรธและยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ปากแข็งดีนี่..ไม่เป็นไรเพราะฉันเก่งในการงัดปากคน..มาดูกันว่าแกจะทนได้นานสักแค่ไหน..พ่อหนุ่มแกยังเด็กเกินไปที่จะมาเล่นกับฉัน!”
หลังจากพูดจบหยุนเซินก็เหยียดขากลับมาและหันไปมองลูกน้องของเขาแล้วพูดว่า “พวกแกรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง?”
เมื่อลูกน้องทั้งสามได้ยินคำพูดของหยุนเซินแล้วพวกเขาก็พยักหน้าและต่อยชายหนุ่มที่คุกเข่าอยู่บนพื้นทันที จากนั้นหยุนเซินก็จ้องมองพวกเขาอย่างดุเดือดและพูดว่า “ใครสั่งให้แกต่อยเขา? ..นี่พวกแกจะฆ่าเขางั้นเหรอ? ..ถึงยังไงเขาก็เป็นแขกของเราเพราะงั้นเราจะใช้วิธีหยาบคายได้ยังไง..ไปเอายานั่นมาให้ฉัน!” จากนั้นเขาก็หันไปมองชายหนุ่มด้วยยิ้มที่ชั่วร้ายและพูดว่า “แกปากแข็งนักใช่มั้ย? ..ได้เลยฉันรับปากเลยว่าแกจะมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้อีก”
“นี่แกทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!..ฆ่าฉันซะเลยสิ!” ชายหนุ่มตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว อย่างไรก็ตามหยุนเซินก็เพิกเฉยต่อเขาและปล่อยให้เขาตะโกนและสาปแช่งโดยไม่โกรธหรือทำอะไรเลยสักอย่าง
ผ่านไปครู่หนึ่งลูกน้องที่เพิ่งออกไปก็กลับมาพร้อมขวดยาในมือจากนั้นหยุนเซินก็เหลือบมองชายหนุ่มแล้วพูดว่า “ถ้าแกไม่เหนื่อยก็พล่ามต่อไปเถอะเพราะอีกไม่นานแกจะไม่มีแรงแม้แต่จะพูดอีก..ฉันจะให้โอกาสแกครั้งสุดท้ายแกจะบอกมั้ยว่าใครส่งแกมา?”
“ถ้าแกกล้าก็ฆ่าฉันซะสิ..ไอ้เวรหยุนเซินหยุนเซินแกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย” ชายหนุ่มพูดอย่างโกรธเกรี้ยว

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน