ตอนที่ 1303 แผนการสมรู้ร่วมคิดของจินเจิ้งผิง
………………..
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่รู้จักจินเหว่ยเซียงมากนักแต่เขาก็ดูไม่เหมือนคนประเภทที่กดขี่ข่มเหงใครแต่เป็นวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด ซึ่งความจริงแล้วจินเหว่ยเซียงยังสุภาพกับคนรับใช้และเหล่าลูกศิษย์ของตระกูลจินอยู่เสมอและไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเป็นศัตรูกับจินเจิ้งรุ่ยดังนั้นจึงต้องมีเหตุผลบางอย่างสำหรับเรื่องนี้แน่นอน
“ผมได้ยินมาจากแม่ของผม” เมื่อจินเหว่ยเซียงพูดถึงฮั่นหนิงซือเขาก็ยังคงมีความเจ็บปวดอยู่ในดวงตาของเขาโดยไม่รู้ตัว สำหรับเด็กคนนี้แล้วมันก็เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับความจริงนี้ได้ “ในตอนนั้นคุณปู่แต่งตั้งเขาให้เป็นผู้สืบทอดตระกูลจินเพราะเขาเหนือกว่าจินเจิ้งผิงในทุกๆด้านและไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์หรือสติปัญญาหรือศิลปะการต่อสู้ก็ตาม..อีกทั้งยังอุทิศตนให้กับตระกูลและอาชีพของเขาดังนั้นเขาจึงไม่เคยแต่งงานซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดพลาดของเขาเพราะในอนาคตเขาจะไม่มีทายาทรุ่นต่อไปและในตอนนั้นเองจินเจิ้งผิงก็แต่งงานกับแม่ของผมและในที่สุดจินเจิ้งผิงก็คว้าตำแหน่งผู้นำตระกูลไปโดยบังคับให้คุณปู่ลงจากตำแหน่งและแน่นอนว่านั่นเป็นเพราะคุณปู่เลือกที่จะยอมเพราะเขากลัวว่าการต่อสู้ภายในจะเป็นอันตรายต่อตระกูลจินและสำหรับคุณปู่แล้วทั้งคู่ก็เป็นลูกชายของเขาและเขาก็ไม่คิดเข้าข้างใคร..แต่ทว่าจินเจิ้งรุ่ยมักจะครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และถึงแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแต่เขาก็ยังต้องการที่ทวงสิ่งที่ต้องเป็นของเขากลับคืนมาและแอบสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลหยุนเพื่อประโยชน์ในอนาคต..เพราะงั้นเขาจึงขอให้พี่ชายสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลจินและพูดตามตรงเขาแค่ต้องการใช้พี่ชายเป็นเบี้ยเพื่อช่วยเรื่องนี้เท่านั้น”
จินเหว่ยห่าวไม่รู้เรื่องนี้เพราะในเวลานั้นความสัมพันธ์ของเขากับจินเจิ้งผิงย่ำแย่มากและเขาไม่เคยสนใจเรื่องของตระกูลจินเลยดังนั้นจินเจิ้งผิงจึงไม่คิดที่จะบอกอะไรกับจินเหว่ยห่าวและด้วยเหตุนี้จินเหว่ยห่าวจึงไม่รู้และตอนนี้เมื่อจินเหว่ยห่าวคิดถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและทัศนคติของจินเจิ้งรุ่ยที่มีต่อเขาแล้วจินเหว่ยห่าวก็ดูเหมือนจะมีความรู้สึกจางๆว่าทุกสิ่งที่จินเหว่ยเซียงพูดนั้นเป็นความจริง
ในตอนแรกจินเจิ้งรุ่ยปฏิบัติต่อจินเหว่ยเซียงไม่ดีนักและถึงแม้ว่าจินเจิ้งรุ่ยจะไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชาเหมือนสมาชิกคนอื่นๆในตระกูลจินแต่นั่นก็เป็นเพียงทัศนคติปกติเท่านั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากจินเจิ้งผิงขึ้นเป็นผู้นำตระกูลจินดังนั้นทัศนคติของจินเจิ้งรุ่ยที่มีต่อจินเหว่ยเซียงจึงเปลี่ยนไปมาก
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะมีเรื่องยุ่งยากและซับซ้อนแบบนี้ ซึ่งครอบครัวที่ความสัมพันธ์ภายในอ่อนแอนั้นจะเป็นเรื่องยากที่จะอยู่ต่อไปและดูเหมือนเย่เชียนจะค่อยๆรู้จักตัวตนของจินเจิ้งผิงเรื่อยๆและที่สำคัญการที่จินเจิ้งผิงแย่งชิงตำแหน่งมาโดยการตัดสัมพันธ์ต่างๆจากตระกูลนั้นแน่นอนว่าจินเจิ้งผิงไม่ได้ด้อยไปกว่าจินเจิ้งรุ่ยในทุกๆด้านเพราะอย่างน้อยๆอุบายและวิธีการของเขาก็ลึกล้ำกว่าของจินเจิ้งรุ่ยและคนเหล่านี้ที่มักจะมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในอำนาจมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเพิกเฉยต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวเพื่อเห็นแก่อำนาจทั้งหมด
แต่คนแบบนี้จะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความคิดและการกระทำของจินเจิ้งรุ่ยเป็นเวลาหลายปีงั้นเหรอ? เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้และจินเจิ้งผิงก็พูดด้วยตัวเองในวันนี้ว่าอันที่จริงแล้วเขาก็ชัดเจนเกี่ยวกับทุกสิ่งที่จินเจิ้งรุ่ยทำและเหตุผลที่จินเจิ้งผิงไม่ฆ่าจินเจิ้งรุ่ยตั้งแต่แรกนั่นก็อาจเป็นเพราะเขาไม่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเขาและในแง่หนึ่งเขาอาจจะจงใจกำจัดจินเจิ้งรุ่ยตลอดหลายปีมานี้เพื่อลดความแข็งแกร่งของจินเจิ้งรุ่ยดังนั้นถึงแม้ว่าในอนาคตจินเจิ้งรุ่ยจะต้องการที่จะต่อสู้กับเขาถึงยังไงจินเจิ้งรุ่ยก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดีหรืออีกแง่หนึ่งจินเจิ้งผิงแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลยเพราะด้วยวิธีนี้จินเจิ้งผิงจะสามารถรู้เกี่ยวกับการกระทำทั้งหมดของจินเจิ้งรุ่ยได้และสามารถฆ่าจินเจิ้งรุ่ยได้อย่างสมเหตุสมผลโดยไม่กระทบต่อชื่อเสียงของเขาภายในตระกูล
หากเป็นกรณีนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจินเจิ้งรุ่ยต้องการหลอกใช้จินเหว่ยห่าวจริงๆและเมื่อมองไปที่จินเหว่ยห่าวแล้วเย่เชียนก็อ้าปากเพื่ออยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
จินเหว่ยห่าวก็ยิ้มอย่างน่าสมเพชและพูดว่า “มันไร้สาระมากที่ฉันเกิดมาในครอบครัวแบบนี้..ฉันไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกต่อไปแล้วปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กันไปเถอะ..ฉันไม่ต้องการฝังแม่ของฉันในสุสานของตระกูลจินอีกต่อไปแล้วเพราะสถานที่แบบนี้ไม่เหมาะกับแม่ของฉัน!”
“ไม่!..พี่ชาย..ผมต้องถามเขาให้ได้ว่าทำไมเขาถึงฆ่าแม่ของผม” จินเหว่ยเซียงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แม่เป็นภรรยาของเขาที่อยู่บนเตียงกับเขามากว่าสิบปีและเขาจะฆ่าแม่แบบนั้นได้ยังไง..เรื่องนี้ผมต้องถามเขาให้ได้และผมต้องการคำอธิบายจากเขา!”
“มันก็ชัดเจนอยู่แล้วเพราะว่าในสายตาของเขานั้นพวกเราไม่ได้สำคัญเลยเพราะงั้นถ้าถามเขาไปแล้วเราจะได้อะไร?..ถึงแม้ว่าเขาจะฆ่าแม่ของนายแต่แล้วยังไงล่ะ?..นายจะฆ่าเขาเพื่อแก้แค้นงั้นเหรอ?” จินเหว่ยห่าวพูด
จินเหว่ยเซียงเม้มริมฝีปากและกลั้นน้ำตาแล้วพูดว่า “แต่..แต่ว่าผม..คืออย่างน้อยๆผมก็อยากพาแม่ของผมออกมาจากที่นั่น..ผมไม่ต้องการให้คนอย่างเขาจัดการศพแม่ของผม..ผมอยากจัดงานศพให้แม่เพราะงั้นพี่ช่วยผมด้วยนะครับ”
จินเหว่ยห่าวถึงกับผงะเล็กน้อยจากนั้นก็พยักหน้าอย่างหนักหน่วงจากนั้นเขาก็มองเย่เชียนด้วยสายตาที่ขอโทษและพูดว่า “ฉันขอโทษจริงๆ..ฉันคิดว่าฉันคงไม่สามารถทำตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ได้แล้ว..ตอนนี้ฉันเหนื่อยมากและไม่อยากต่อสู้แบบนี้อีกแล้วเพราะมันไม่มีความหมาย..ฉันไม่มีเหตุผลที่จะสู้ต่ออีกแล้ว”
เย่เชียนสามารถเข้าใจได้ว่าเมื่อจินเหว่ยห่าวต้องการกำจัดตระกูลจินนั้นเขาก็พร้อมอย่างสุดใจและจุดประสงค์ของเขาก็คือการแสวงหาความยุติธรรมให้กับผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้นและแม่ของเขาเองเพื่อที่พวกเธอจะได้เข้าไปในสุสานของตระกูลจินอย่างสมเกียรติแต่ตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่าตระกูลจินสกปรกแค่ไหนนั่นจึงทำให้จินเหว่ยห่าวรู้สึกว่านั่นจะเป็นการดูถูกแม่ของเขาที่จะฝังแม่ของเขาลงในสุสานของตระกูลจิน
เย่เชียนส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก..จริงๆแล้วผมเองก็ดีใจมากที่พี่จินสามารถปล่อยวางได้เพราะการต่อสู้แบบนี้มันไม่สำคัญเลย..ต่อให้จะไม่มีกองกำลังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใหญ่หลวงอะไรกับผมเพราะถ้าผมเลือกได้แน่นอนว่าผมจะเลือกพี่ที่เป็นพี่ชายที่ดีมากกว่าอำนาจ”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน