เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 1355

ตอนที่ 1355 พระอาทิตย์ตกยามเย็น

………………..

แกะที่เป็นเป้าหมายของหมาป่าจะต้องพบกับโศกนาฏกรรมและในสายตาของหมาป่าทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันคือชิ้นเนื้อในปากของมันและน่าเศร้าที่แกะคิดว่าตัวเองเป็นเสือแต่มันไม่ใช่และมักจะมั่นใจในตัวเองทั้งๆที่เสือนั้นจ้องจะเขมือบมันตั้งแต่แรกแล้ว

โอ่วหยางหมิงซวนเป็นแกะตัวนั้นและเป็นแกะที่น่าเศร้าอย่างยิ่งเพราะเขาเติมน้ำมันลงในเชื้อเพลิงโดยหวังว่าตระกูลถังจะต่อสู้กันเองจากนั้นตระกูลโอ่วหยางก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อยึดครองอุตสาหกรรมของตระกูลถังเพราะอุตสาหกรรมยาและเวชกรรมส่วนใหญ่ในประเทศจีนนั้นทั้งหมดถูกควบคุมโดยตระกูลถัง ดังนั้นหากมีสิ่งเหล่านี้ล่ะก็การพัฒนาของชิงหยุนกรุ๊ปก็จะไปไกลระดับโลก ซึ่งบางอย่างแค่พูดครั้งเดียวก็เพียงพอแต่ถ้าพูดมากไปจะทำให้คนอื่นรู้สึกจับผิดได้ ซึ่งโอ่วหยางหมิงซวนก็เชื่อว่าถังฮงเป็นคนฉลาดและถ้าเขาต้องการเป็นเจ้าสำนักถังล่ะก็ถังฮงจะต้องร่วมมือกับเขาท่านั้นไม่อย่างนั้นผลลัพธ์จะเป็นทางตัน

เมื่อสิ่งต่างๆชัดเจนโอ่วหยางหมิงซวนก็ไม่ได้พูดอะไรอีกและลุกขึ้นและจากไปและแน่นอนว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะทิ้งดาบชุนเล่ยเอาไว้เนื่องจากถังจิงหนานไม่ต้องการรับมันและไม่รู้เกี่ยวกับสมบัติชิ้นนี้นั่นก็คือความโชคร้ายของถังจิงหนานเท่านั้น เมื่อเห็นโอ่วหยางหมิงซวนจากไปถังฮงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

“ปัง..ปัง..ปัง” เสียงเคาะประตูดังขึ้นและถังฮงก็ถามอย่างกระวนกระวายใจและเขาก็ผงะเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของเย่เชียนและพูดว่า “เข้ามา” หลังจากนั้นประตูก็ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดและถูกผลักเปิดออกและเย่เชียนก็เดินเข้ามาและเมื่อเย่เชียนเห็นถังฮงเย่เชียนก็ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากของเขาและพูดครับ “เป็นไงครับลุงฮง!”

หลังจากออกจากสำนักถังแล้วโอ่วหยางหมิงซวนก็ไม่สบอารมณ์อย่างมากและนั่งอยู่ในรถพร้อมกับขมวดคิ้วแน่นและความอัปยศอดสูที่เขาประสบในตอนนี้ทำให้เขายากจะลืมเลือนได้ กล่าวได้ว่าเป็นการระเบิดความโกรธอย่างไม่ต้องสงสัยและเขาจะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร? ซึ่งความเกลียดชังที่มีต่อจินเหว่ยห่าวในใจของเขาก็มากยิ่งขึ้นและความแค้นที่มีต่อถังจิงหนานก็มากขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาก็เข้าใจว่ามันง่ายมากที่จะกำจัดกับจินเหว่ยห่าวแต่การจัดการกับถังกำจัดนั้นไม่ง่ายเลยเพราะท้ายที่สุดสำนักถังก็อยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้และแม้แต่อำนาจและอิทธิพลในภาคตะวันตกเฉียงเหนือก็ไม่ใช่น้อยๆดังนั้นมันจึงไม่ง่ายเลยที่จะกำจัดสำนักถังได้ ด้วยเหตุนี้สิ่งที่จำเป็นก็คือการยั่วยุให้เกิดการต่อสู้ภายในแต่เรื่องนี้สามารถทำได้อย่างช้าๆเท่านั้นและห้ามเร่งรีบเด็ดขาด

รถกำลังขับไปอย่างช้าๆบนถนนและโอ่วหยางหมิงซวนก็เหลือบมองคนขับที่อยู่ข้างหน้าเขาและพูดว่า “ฉันจะไม่กลับบ้านเพราะฉันจะไปที่บริษัทก่อน” เมื่อลองคิดดูแล้วเย่เชียนก็อยากจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับและแผนการลงทุนดังนั้นเขาก็ควรทำแบบนั้นเพราะถ้าหากเขาสามารถดึงเย่เชียนเข้ามาในเกมของเขาได้และจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของชิงหยุนกรุ๊ปของเขา ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโอ่วหยางหมิงซวนต้องการขยายอุตสาหกรรมของชิงหยุนกรุ๊ปสู่สากลมาโดยตลอดแต่ผลลัพธ์กลับไม่ดีและถึงแม้ว่าเขาจะร่วมมือกับบริษัทระหว่างประเทศขนาดใหญ่หลายแห่งแต่ก็เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่สนใจพวกเขาเลยและเป็นเรื่องยากมากที่จะใช้พวกเขาเหล่านั้นเพื่อขยายชื่อเสียงและอำนาจทางเศรษฐกิจของชิงหยุนกรุ๊ปสู่สากลโลกแต่มันจะแตกต่างออกไปหากได้รับความช่วยเหลือจากเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเพราะเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเป็นบริษัทต่างชาติที่อัดฉีดเงินทุนในต่างประเทศทั่วโลกและกล่าวได้ว่าเครือน่านฟ้ากรุ๊ปนั้นหยั่งรากลึกในต่างประเทศมาหลายปีแล้วและมันก็ง่ายกว่ามากถ้าจะใช้พวกเขาเพื่อเป็นสะพาน

“เอี๊ยด…” มีเสียงเบรกอย่างกะทันหันดังขึ้นและรถก็หยุดทันที ซึ่งโอ่วหยางหมิงซวนที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ก็ไม่ได้ตั้งตัวจนหัวของเขากระแทกกับที่นั่งข้างหน้าเขาเสียงดัง “ปัง” โอ่วหยางหมิงซวนก็ขมวดคิ้วและตะโกนด้วยความโกรธว่า “แกขับรถยังไงของแกวะ..ใครบอกให้แกเหยียบเบรก?” บาดแผลบนร่างกายของเขายังไม่หายดีและการเบรกครั้งนี้ก็กระทบบาดแผลที่ของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจและทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก

“เอ่อ..นายน้อยครับมีคนขวางทางพวกเราเอาไว้” คนขับพูด

“นี่แกจะจอดทุกครั้งที่มีคนมาขวางทางงั้นเหรอ?..จะชนก็ชนไปเพราะคนที่รับผิดชอบคือฉัน” โอ่วหยางหมิงซวนตะโกนด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตามรถก็ได้หยุดลงแล้วและเห็นได้ชัดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะเหยียบคนเร่งแล้วชนเขา จากนั้นโอ่วหยางหมิงซวนก็หันมองออกไปและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่หน้ารถโดยมีบางสิ่งที่ห่อด้วยผ้าขาดๆที่ด้านหลังซึ่งดูเหมือนดาบ ซึ่งชายหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆและไม่พูดอะไรและไม่มีสีหน้าใดๆทั้งสิ้นและใบหน้าของชายหนุ่มก็สงบนิ่งราวกับแอ่งน้ำ

โอ่วหยางหมิงซวนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดกับคนขับว่า “ลงไปแล้วถามมันว่าต้องการอะไร?..ไล่มันออกไปจากที่นี่ซะ!”

คนขับรีบตอบเปิดประตูรถแล้วเดินลงไป ซึ่งเนื่องจากโอ่วหยางหมิงซวนอยู่ในรถเขาจึงไม่ได้ยินว่าคนขับพูดอะไรกับชายหนุ่มแต่จู่ๆคนขับรถของเขาก็กระเด็นออกไปเหมือนว่าวที่ขาดกลางอากาศ

เมื่อเห็นแบบนั้นโอ่วหยางหมิงซวนก็ขมวดคิ้วและเปิดประตูรถแล้วเดินลงไป จากนั้นก็หยิบชุนเล่ยออกไปแล้วมองดูคนขับรถของเขาแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังนั้นคนขับรถจึงรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อหันไปมองชายหนุ่มแล้วโอ่วหยางหมิงซวนก็พูดว่า “แกเป็นใครและทำไมแกถึงมาขวางทางฉัน?”

“แกคือโอ่วหยางหมิงซวนใช่ไหม?” ชายหนุ่มถาม

“ใช่!” โอ่วหยางหมิงซวนพูดและทันทีที่พูดจบชายหนุ่มก็ดึงดาบออกมาข้างหลังเขาโดยไม่พูดอะไรและฟันไปที่โอ่วหยางหมิงซวนทันที ซึ่งผ้าที่พันอยู่บนในดาบก็ยังอยู่อย่างนั้นเพราะชายหนุ่มไม่ได้ดึงมันออก เมื่อเห็นแบบนั้นโอ่วหยางหมิงซวนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจและรีบดึงดาบชุนเล่ยออกมารับการโจมตี

ชายหนุ่มหันข้อมือของเขาและหมุนทิศทางของดาบเพื่อใช้ตีข้อมือของโอ่วหยางหมิงซวน เพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นโอ่วหยางหมิงซวนก็ทำดาบตกลงไปที่พื้น ซึ่งด้วยการขยับเพียงครั้งเดียวโอ่วหยางหมิงซวนก็ได้พ่ายแพ้ให้กับชายหนุ่มแล้ว จากนั้นชายหนุ่มก็สะบัดข้อมือและดาบก็มาจ่ออยู่บนคอของโอ่วหยางหมิงซวนแล้ว

โอ่วหยางหมิงซวนก็ตกตะลึงและไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆอีกต่อไปและมองชายหนุ่มขึ้นๆลงๆจากหัวจรดเท้าและรู้สึกอึดอัดอย่างมากเพราะการแพ้ให้กับจินเหว่ยห่าวในสำนักถังก็ทำให้เขาเสียหน้าไปแล้วและตอนนี้เขาก็ต้องแพ้ให้กับใครก็ไม่รู้อีกและยังเป็นการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวด้วยซ้ำดังนั้นเขาจะทนได้อย่างไร? อย่างไรก็ตามตอนนี้ชีวิตของเขาอยู่ในมือของอีกฝ่ายแล้วด้วยเหตุนี้โอ่วหยางหมิงซวนก็ยังคงไม่กล้าโกรธ เมื่อจ้องมองไปที่ชายหนุ่มแล้วโอ่วหยางหมิงซวนก็ถอนหายใจอย่างเย็นชาและพูดว่า “ในเมื่อแกรู้ว่าฉันเป็นใครเพราะงั้นแกก็น่าจะรู้สถานะของตระกูลโอ่วหยางของฉันในภาคตะวันตกเฉียงเหนือสิ..รู้แบบนี้แล้วแกกล้ามาแตะต้องฉันได้ยังไง?”

“ก็ในเมื่อฉันมาหาแกฉันก็ต้องรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้วสิเพราะงั้นมันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดีที่แกจะบอกเรื่องนี้กับฉัน” ชายหนุ่มพูด “ถึงยังไงตระกูลโอ่วหยางก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนรุ่นก่อนๆแล้วเพราะงั้นมันสมควรเหรอที่แกจะมั่นใจขนาดนี้?..หึ..ช่างน่าละอายใจจริงๆ” หลังจากหยุดไปชั่วขณะชายหนุ่มก็พูดต่อ “อย่ากลัวไปเลยฉันจะไม่ฆ่าแกหรอก”

ตอนที่ 1355 พระอาทิตย์ตกยามเย็น 2

ตอนที่ 1355 พระอาทิตย์ตกยามเย็น 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน