หลินโรโร่วเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “คุณน่ะรู้ดีเลยล่ะ!”
ปากของเย่เชียนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“ฉันว่าฉันไปช่วยพวกเขาดีกว่า!” หลินโรโร่วพูดขณะที่เธอวางของลงและเดินเข้าไปในครัว
เย่เชียนหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ดูเพื่อฆ่าเวลา เพราะตอนนี้ทุกคนทิ้งเขาเข้าไปอยู่ในครัวกันหมด เสียงของการสนทนาแลกเปลี่ยนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหลินโรโร่วกับพ่อดังแว่วมาจากในครัว ซึ่งมันทำให้เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขาเดาได้ไม่ยากเลยว่าพ่อของเขาต้องกำลังบอกหลินโรวโร่ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องมาช่วยแน่ ๆ แต่หลินโรโร่วก็ยังคงยืนกรานที่จะช่วยอยู่ดี
หลังจากนั้นไม่นานอาหารทั้งหมดก็ถูกนำมาวางที่โต๊ะ หยางเจียนกัวหยิบไวน์ขวดหนึ่งออกมาจากตู้และพูดว่า “เราไม่ได้ดื่มด้วยกันมานานแล้วนะ แกมาดื่มกับพ่อสักหน่อยมา” เขาพูดขณะที่รินไวน์ให้กับเย่เชียน
ไวน์แก้วแรกหมดไปอย่างรวดเร็ว เย่เชียนรีบลุกขึ้นหยิบขวดไวน์มารินให้พ่อแล้วจากนั้นเขาก็รินให้ตัวเอง “พ่อครับ สุขภาพของพ่อไม่ค่อยดี อย่าดื่มมากเกินไปนะ”
“ฮ่า ๆ ๆ พ่อของแกยังแข็งแรงอยู่หน่า” หยางเจียนกัวหัวเราะและพูดว่า “ว่าแต่แกยังไม่ได้แนะนำให้พ่อรู้จักกับแม่หนูคนนี้อย่างเป็นทางการกันเลยนะ”
เย่เชียนยิ้ม “โรโร่ว นี่พ่อของผมเองที่ผมเคยพูดให้คุณฟังอยู่บ่อย ๆ ไง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแล้ว ผมก็คงไม่มีวันนี้ พ่อครับ นี่แฟนของผมครับ เธอชื่อหลินโรโร่วเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลเหรินหมินไงครับ พ่อจำได่รึเปล่า ทั้งสองคนเคยเจอกันมาก่อนแล้วนี่”
“สวัสดีค่ะคุณลุง!” หลินโรโร่วพูดอย่างสุภาพเรียบร้อย
“ฮ่า ๆ ๆ สวัสดี!” หยางเจียนกัวหัวเราะและพูดต่อ “ตอนที่ฉันเห็นหนูครั้งแรกน่ะ ฉันก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าหนูน่ะเป็นเด็กดี และฉันก็แอบหวังอยู่นิด ๆ ว่าอยากจะได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้ของบ้านนี้ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความปรารถนาของฉันนั้นมันจะเป็นจริงในวันนี้” หยางเจียนกัวพูดในขณะที่กำลังดึงซองสีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “อ่ะ… นี่เป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรกของเรา”
“คุณลุงคะ… ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่กล้ารับไว้หรอกค่ะ” หลินโรโร่วปฏิเสธด้วยความตื่นตระหนก
“ฉันตั้งใจมอบมันให้หนู ดังนั้นโปรดรับมันไว้เถอะ ถึงฉันจะไม่ได้มีมาก แต่ฉันก็ไม่สามารถละเลยการต้อนรับได้” หยางเจียนกัวพูดอย่างจริงใจ
หลินโรโร่วยังคงพยายามปฏิเสธ แต่เย่เชียนหันมายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็พูดว่า “พ่อเขาตั้งใจให้คุณ… คุณรับมันไว้เถอะ”
“ขอบคุณค่ะคุณลุง!” ในเมื่อเย่เชียนออกปากพูดมาเช่นนี้แล้ว มันจึงเป็นการดีที่สุดที่หลินโรโร่วจะยอมรับเอาไว้
“มากินกันเถอะ” หยางเจียนกัวพูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเชียนเอ๋อร์! ชนแก้ว!”
“ครับพ่อ!” เย่เชียนยกแก้วขึ้นและพูด
หลังจากที่วางแก้วลงแล้ว เย่เชียนก็หันไปมองฮันเซ่ลที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ “เสี่ยวเซ่ล ผลสอบออกมาหรือยัง ? เธอได้โรงเรียนอะไรเหรอ ?”
“โรงเรียนมัธยมปลายในเครือของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นค่ะ” ฮันเซ่ลพูดเสียงเบา
“โอ้…! โรงเรียนนั่นดีนี่ เสี่ยวเซ่ลตั้งใจเรียนให้ดีนะ อย่าทำให้พ่อกับพี่ผิดหวังล่ะ” เย่เชียนพูดต่อ “ถ้ามีปัญหาอะไร เธอถามพี่สองคนนี้ได้ตลอดเลยนะ… เข้าใจมั้ย?”
“ค่ะ” ฮันเซ่ลพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณค่ะพี่สอง!”
เย่เชียนจ้องมองไปที่เสื้อผ้าของน้องสาวและเห็นว่าพวกมันเก่ามากแล้ว แม้ว่ามันมิอาจจะบดบังความงดงามของฮันเซ่ลได้ แต่เย่เชียนก็รู้สึกหดหู่ที่เห็นเธอไม่มีเสื้อผ้าสวย ๆ ใหม่ ๆ ใส่เหมมือนคนอื่น ๆ “เสี่ยวเซ่ล เธออย่ามัวแต่จดจ่อแต่กับการเรียนเพียงอย่างเดียวสิ พี่ว่าเธอควรไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ซะบ้างนะ รู้มั้ยว่าพวกพ้องมันก็สำคัญมากเหมือนกัน พี่ว่าเสื้อผ้าของเธอมันชักจะเก่าเกินไปแล้ว ไว้วันหลังพี่จะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ ที่ห้างดีไหม ? แต่ถ้าพี่ยุ่งมาก พี่อาจจะให้โรโร่วพาเธอไปแทน ตอนนี้น้องพี่โตเป็นสาวแล้วนา เพราะงั้นต้องแต่งตัวให้สวย ๆ เข้าไว้สิ”
“เอางี้มั้ยเสี่ยวเซ่ล ฉันว่างอาทิตย์นี้ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเอง” หลินโรโร่วพูดด้วยความยินดี



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน