“คุณเสแสร้ง! คุณอย่ามาโกหกฉันดีกว่า ไหนลองคิดดูซิว่าครั้งสุดท้ายที่คุณรู้สึกรักฉันมันคือเมื่อไหร่กัน ?” หญิงวัยกลางคนตะโกนดังลั่น
ขณะนี้หน้าผากและคิ้วของเซินหยวนทั้งย่นและขมวดกันอย่างแน่นราวกับว่ามีอีกากำลังบินวนเวียนไปมาที่หน้าผากของเขาอย่างต่อเนื่อง ภรรยาของเขาคนนี้เอาแต่โหวกเหวกโวยวายและไม่รู้สึกละอายใจบ้างเลย
เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเซินหยวนหดหู่ขนาดนี้ มันทำให้เย่เฉียนรู้สึกดีและคิดว่าหญิงวัยกลางคนคนนี้ทำได้ดีมาก
“บอกฉันมา!!! ทำไมคุณถึงไม่บอกฉันล่ะ! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณมีชู้และมาติดกับยัยจิ้งจอกตัวนี้ คุณคงจะไม่เหนื่อยล้าและคงจะกระปรี้กระเปร่าทั้งวันสินะ ? รู้มั้ยว่าทุกวันนี้น่ะคุณเป็นเหมือนกับไส้เดือนตัวนิ่ม ๆ ที่อ่อนปวกเปียกไปมา” หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่หลินโรโร่ว จากนั้นก็ตะโกนพูดกับเซินหยวนอย่างเดือดดาล
เซินหยวนรู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก เขาคิดกับตัวเองว่า ‘ถึงฉันจะไม่ได้เป็นอย่างอย่างที่เธอว่า แต่แค่ฉันเห็นหน้าเธอ มันก็ทำให้ฉันรู้สึกหมดแรงแล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงอารมณ์พิศวาสอะไรนั่นหรอก เพราะมันไม่มี’ แต่เขาก็เก็บความคิดนี้ไว้กับตัวเองคนเดียวเท่านั้นไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาดัง ๆ ไม่เช่นนั้นสวรรค์เท่านั้นที่จะสามารถรู้ได้ว่าหญิงวัยกลางคนคนนี้จะทำอะไรกับเขาบ้างเมื่อพวกเขากลับถึงบ้านแล้ว บางทีเธออาจจะกระโดดทับเขาด้วยน้ำหนักตัวของเธอที่หนักดั่งภูเขาไทชาน แม้ว่าจริง ๆ แล้วเซินหยวนจะไม่ใช่คนยอมคน แต่สำหรับตอนนี้เขาไม่มีตัวเลือกมากนัก
หญิงวัยกลางคนเริ่มหันกลับมาพูดพาดพิงและให้ร้ายหลินโรโร่วอีกครั้ง แน่นอนว่าครั้งนี้เย่เชียนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า “คุณเรียกใครว่ายัยจิ้งจอกนะ ? ไหนลองพูดอีกทีซิ!”
เมื่อหญิงวัยกลางคนได้ยินคำพูดของเย่เชียน เธอก็หันไปมองเขาแล้วพูดอย่างเหยียดหยามว่า “ทำไม ? แล้วคุณจะทำอะไรฉันได้งั้นเหรอ โอ้! ฉันรู้แล้ว… คุณคงเป็นแฟนของยัยจิ้งจอกนี่สินะ เป็นแฟนกันประสาอะไร ทำไมถึงไม่รู้จักดูแลไม่ให้ผู้หญิงของตัวเองไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ฉันล่ะอับอายขายขี้หน้าแทนคุณจริงจริ๊ง!”
“บ้าเอ้ย!” เย่เชียนตะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยวและใช้มือของเขาเหวี่ยงไปข้างหน้า
ผั่วะ!
มือของเย่เชียนตบเข้าไปที่หน้าของหญิงวัยกลางคนคนนั้นอย่างรุนแรง ทันใดนั้นแก้มอ้วน ๆ ของหญิงวัยกลางคนก็บวมขึ้นอย่างฉับพลันทันที ตอนนี้ดูคล้ายกับหัวหมูอย่างไงอย่างงั้น
“มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกที่คุณเกิดมาน่าเกลียด… แต่การออกมาสร้างความร้าวฉานให้แก่คนอื่นและดูถูกเหยียดหยามคนอื่นแบบนี้ ถ้าผมเป็นคุณ…ผมคงจะรู้สึกละอายใจจนฆ่าตัวตายไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าละอายใจมากที่ต้องมาเห็นคุณแบบนี้ทั้งทีคุณเองยังไม่รู้สึกละอายใจเลยแม้แต่น้อยด้วยซ้ำ” เย่เชียนพูด
เมื่อบอดี้การ์ดทั้งสองคนที่ยืนอยู่ห่าง ๆ เห็นเย่เชียนเคลื่อนไหว แม้พวกเขาพยายามจะหยุดเขา แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ขณะนี้พวกเขากำลังรีบวิ่งเข้าไประหว่างเย่เชียนและหญิงวัยกลางคนโดยจ้องมองไปที่เย่เชียนอย่างเดือดดาล
“นี่แก! แกกล้าตบฉันเหรอ ?” หญิงวัยกลางคนเอามือกุมแก้มของตัวเองขณะที่เธอกรีดร้องใส่เย่เชียน
“ทำไมผมถึงจะไม่กล้าตบคุณล่ะ ? คุณคิดว่าคุณเป็นใคร ? คุณมันก็เป็นแค่สัตว์ประหลาดบางสายพันธุ์ที่ใครบางคนขุดขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ดูจากพฤติกรรมของคุณมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมสามีของคุณถึงได้อยากที่จะแสวงหาความสุขจากโลกภายนอก ผมคิดว่าเวลาที่เขาเห็นคุณกลางดึก เขาคงจะคิดว่าคุณเป็นผีจนเกือบจะหัวใจวายอยู่บ่อย ๆ สินะ” เย่เชียนพูด
วินาทีนั้นเองที่เซินหยวนรู้สึกได้ว่าเย่เชียนนั้นไม่ใช่คนน่ารำคาญและไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดเลย อย่างน้อยเย่เชียนก็พูดแทนในสิ่งที่อยู่ในใจของเขาออกมา เพราะว่าหญิงวัยกลางคนคนนี้ยามค่ำคืนนั้นน่ากลัวจริง ๆ เธอนอนกัดฟันและลืมตามาเกือบครึ่งและเขาต้องตื่นมาเจอปีศาจตนนี้มานานแรมปี
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน