หลังจากนัดหมายกับซ่งหลันแล้วเย่เชียนก็วางสายโทรศัพท์ไป
เย่เชียนไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่สง่างามและเพียบพร้อมอย่างซ่งหลันจะเลือกไปกินข้าวเย็นกับเขาที่แผงขายอาหารในค่ำคืนนี้ จากมุมมองของเย่เชียน มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเสียยิ่งกว่าการโคจรของดาวอังคารมายังโลกเสียอีก เย่เชียนไม่สามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้เลย บางครั้งเขาคิดว่าตัวเองเป็นเหมือนกับท่อนไม้ที่ไม่มีความรู้สึกและไม่รู้ว่าจะมีความสุขกับชีวิตอย่างไร เพราะเขานั้นไม่เคยโหยหาอาหารที่เลิศหรูและฟุ่มเฟือยเหล่านั้นเลย ปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับการกินของเขาคือ ขอแค่ให้เขาได้กินจนอิ่มท้องก็เพียงพอแล้ว
เขาเดินเล่นต่อไปตามท้องถนนอีกสักพัก เมื่อถึงเวลาที่นัดกันไว้กับซ่งหลันแล้ว เย่เชียนก็นั่งแท็กซี่ตรงไปยังสถานที่นัดหมาย ไม่นานนักเขาก็มาถึง เมื่อมองจากไกล ๆ เขาก็เห็นซ่งหลันในชุดสูททำงานอันแสนเรียบง่ายแต่ทว่าสง่างามยืนอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ น่าแปลกที่มันกลับทำให้เย่เชียนรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับหมาป่าที่เห็นแกะน้อยอย่างไงอย่างงั้น เพราะซ่งหลันนั้นดูสง่างามและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เย้ายวนใจอย่างมาก
ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างถนนต้นหนึ่งนั้นมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนกอดจูบลูบคลำกันอยู่ แต่จู่ ๆ พวกเขาทั้งสองก็หยุดลงและผู้ชายคนนั้นก็จ้องมองมาที่ซ่งหลันด้วยดวงตาที่เบิกกว้างราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจ้องจะพุ่งตัวเข้าหาเหยื่อ ทว่าผลที่ตามมานั้นคือผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาทุบและหยิกท้องของผู้ชายคนนั้นอย่างรุนแรง เขาร้องออกมาเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวด แล้วจากนั้นเขาก็หันไปจูบเธอต่ออย่างเชื่อฟัง
เย่เชียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และเดินไปหาซ่งหลัน นางฟ้าคนนี้เธอไม่แม้แต่จะขับรถมาเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งเธอนั้นดูเหมือนว่าจะไม่เกรงกลัวกับภยันอันตรายใด ๆ เลย
“นายมาสายนะ” ซ่งหลันพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์เย้ายวน
“คุณคิดอะไรอยู่น่ะ ?” เย่เชียนกังวลอยู่เสมอ เขาจึงถามตรง ๆ เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจจะตกใจเมื่อไหร่ก็ได้
“แล้วนายอยากให้ฉันทำอะไรเหรอ ?” ซ่งหลันมองไปที่เย่เชียนอย่างเย้ายวน
เย่เชียนคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้และไม่รู้ว่าเขาจะตอบเธอว่าอย่างไรดี เมื่อหันหน้าไปสบตากับซ่งหลันแล้ว ดูเหมือนว่าเย่เชียนจะรู้สึกว่าเขานั้นอ่อนแออยู่เสมอ และเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมทุก ๆ ครั้งที่เขาเห็นนางฟ้าคนนี้ เขามักจะรู้สึกอ่อนไหวและประหม่า หรืออาจจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ที่ไม่มีใครเทียบเธอได้ ?
“ทำไมวันนี้คุณถึงอยากมากินที่แผงขายอาหารล่ะ ? นี่มันไม่ใช่รสนิยมคุณเลยนะ” เย่เชียนถาม
“นายคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่แสวงหาแต่ความสะดวกสบายทางวัตถุเท่านั้นหรือไง ?” ซ่งหลันจ้องมองเย่เชียนและพูดต่อ “ที่จริงนายก็น่าจะเข้าใจฉันได้แล้วนะ ว่าแค่นายอยู่กับฉัน ต่อให้ฉันต้องกินแต่แกลบฉันก็เต็มใจ แต่นายก็ไม่เคยอยู่เคียงข้างฉันเลย! ผู้หญิงอ่อนแอที่ไหนจะกล้ามาแถวนี้ตอนกลางคืนคนเดียวล่ะ ? มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันถูกพวกอันธพาลทำไม่ดีไม่ร้ายเอาน่ะหา”
“อ้าว… คุณเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอเหรอ ?” เย่เชียนขมวดคิ้วและพูดต่อ “ด้วยความสามารถของคุณแล้ว ถึงจะมีพวกอันธพาลยกโขยงกันมาสักกี่สิบคน คนพวกนั้นจะทำอะไรคุณได้ล่ะ ?”
“นายหึงเหรอ ?” ซ่งหลันหรี่ตาและยิ้มอย่างยั่วยวน
“ทำไมผมถึงต้องหึงด้วยล่ะ… ผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ ?” เย่เชียนยักคิ้วและพูด
“เชอะ… ทำเป็นปากแข็ง ฮิ ๆ ๆ ” ซ่งหลันหัวเราะอย่างมีความสุข เพราะเธอนั้นรู้ว่าเย่เชียนมีความรู้สึกบางอย่างในใจของเขา แต่เขาแค่แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่สนใจและไม่แยแสเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับทำให้เธอรู้สึกหดหู่ใจและเสียใจอย่างมาก แต่เธอก็ไม่เคยเผยมันออกมาให้ใครเห็น เพราะฉะนั้นเธอจึงพยายามอย่างหนักและอดทนต่อทุกสิ่งทุกอย่างจนเธอนั้นสามารถมายืนอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นและสำคัญในหน้าที่การงานได้อย่างทุกวันนี้
“ไปกันเถอะ ฉันได้ยินมาจากเพื่อนร่วมงานในบริษัทว่าข้าวต้มปลากับผัดเต้าหู้หมักในแผงขายอาหารข้างหน้านี้อร่อยมาก” ซ่งหลันพูด

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน