เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 221

ภูเขาสีม่วงลูกนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 400 เมตรเท่านั้น ทำให้เย่เชียนสามารถเดินขึ้นไปถึงบนยอดเขาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเย่เชียนมองย้อนลงไปทางด้านล่างของภูเขา เขาก็พบว่ามันมีหมอกหนาปกคลุมอยู่โดยรอบ และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองทางด้านบน เขาก็เห็นเมฆลอยอยู่เหนือศีรษะไม่ไกล ทว่าเมื่อเทียบอุณหภูมิกันระหว่างตีนเขากับยอดเขาแล้ว ที่ยอดเขานั้นมีอุณหภูมิต่ำอย่างน้อยก็สามถึงสี่องศาซึ่งถือว่าเย็นพอควรเลยทีเดียว

เย่เชียนสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียอย่างมิอาจบรรยายเป็นคำพูดได้…

ทางเดินขึ้นภูเขาสีม่วงนั้นไม่แย่มากนักเพราะมันมักจะได้รับการปรับปรุงอยู่อย่างสม่ำเสมอ มีเพียงบางช่วงเท่านั้นที่ยังมีความชันและขรุขระอยู่บ้าง เย่เชียนกระโดดข้ามราวบันไดไปยืนอยู่บนขอบหน้าผาและมองออกไปสู่ห้วงนภาเบื้องหน้า แววตาของเขานั้นดูหดหู่ระคนเหงาหงอย จะว่าไปในช่วงหลายปีมานี้ เย่เชียนได้ต่อสู้มาอย่างหนักเพื่อกลุ่มเขี้ยวหมาป่าของเขา แม้ว่ามันจะมีบ้างที่เขาต้องเจอกับช่วงเวลาอันแสนยากเย็น แต่ทุกครั้งเขาก็จะสามารถผ่านมันไปจนได้ในที่สุด ทว่าครั้งนี้เขากลับรู้สึกหมดหนทางอย่างแท้จริง เพราะเขานั้นไม่สามารถเปลี่ยนใจคนที่เขานับถือว่าเป็นพี่ชายอีกคนหนึ่งให้กลับมาจากความมืดมิดได้

ความรู้สึกของลูกผู้ชายคืออะไรกันแน่ ? มันคือความแข็งแกร่ง การต่อสู้ การดื่มกิน การร้องไห้ หรือว่าความเศร้าโศกเสียใจ ?

ผู้ชายก็เป็นมนุษย์เดินดินคนหนึ่งเหมือนกัน เป็นมนุษย์ที่มีเลือด มีเนื้อ มีความรู้สึก ชีวิตของเย่เชียนนั้นต้องผ่านเรื่องราวทั้งดีร้ายมามากมาย และบางครั้งเขาก็รู้สึกว่าโชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับเขาอยู่ อย่างเช่นตอนนี้ที่เขาจะต้องห้ำหั่นกันเองระหว่างคนที่เป็นเหมือนดั่งพี่น้องร่วมสายเลือด

เย่เชียนยังคงจำร่องรอยของความเหงาและความเศร้าโศกที่มักจะฉายอยู่ในแววตาของกัปตันเทียนเฟิงผู้ก่อตั้งกลุ่มเขี้ยวหมาป่าได้อย่างชัดเจน และแล้วในตอนนี้สิ่งเดียวกันนั้นเองที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวของเขา

……

สิบสองปีที่แล้ว บนทางหลวงแห่งกรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น

รถแท็กซี่คันหนึ่งพุ่งฝ่าไฟแดงมาอย่างรวดเร็ว ที่ด้านข้างของตัวรถนั้นมีร่องรอยของการเฉี่ยวชนมาอย่างโชกโชนจนนับไม่ถ้วน รถแท็กซี่คันดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานทูต

ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นทั่วบริเวณ รถตำรวจมากมายวิ่งมาจากทุกสารทิศ ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาก็คือรถแท็กซี่คันนั้นนั่นเอง คนขับรถแท็กซี่เป็นชายอายุประมาณสามสิบ ดวงตาของเขาแดงก่ำและเต็มไปด้วยความกระหายเลือด ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจจอดรถที่ข้างทางอย่างกะทันหัน จากนั้นเขาก็หันไปคว้าเอาปืนไรเฟิลจู่โจมออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วเดินลงมาจากรถอย่างมุ่งมั่น

เสียงไซเรนของรถตำรวจค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ชายคนนั้นทีละนิด ๆ ทว่าใบหน้าของเขากลับยังคงสงบนิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีอารมณ์หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกต่างหาก

ชายคนนั้นหรี่ตามองไปที่รถตำรวจคันแรกที่ขับเข้ามาในระยะยิง เขาสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนที่จะเล็งปืนไปที่รถตำรวจอย่างไม่ลังเล ชั่ววินาทีนั้นเองที่นิ้วของเขาลั่นไกปืนที่อยู่ในมือ กระสุนลูกแรกพุ่งออกไปเจาะเข้าที่ล้อรถจนเกิดเสียงยางระเบิดดังสนั่น รถตำรวจคันนั้นเสียหลักจนพุ่งลงไปชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางจนช่วงหน้ารถยับยู่ยี่ แต่ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะยังไม่สาแก่ใจ เขายิงตามไปอีกสองนัดติดกัน โดยเล็งไปที่หัวของตำรวจทั้งสองนายที่นั่งอยู่ในรถคันนั้น และผลก็เป็นไปตามที่คาด ตำรวจทั้งสองนายเสียชีวิตคาที่ทันที

เมื่อปลิดชีวิตตำราจทั้งสองนายได้แล้ว รถตำรวจคันอื่น ๆ ก็เริ่มเข้ามาสมทบในบริเวณนั้นมากขึ้น ชายคนนั้นจึงยิงกราดเพื่อป้องกันตัวเองแล้ววิ่งเข้าไปในสวนสาธารณะขนาดย่อมที่อยู่ไม่ไกล ช่วงจังหวะนั้นเหล่าบรรดาตำรวจแล้วทหารที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่สามารถแม้แต่จะมีโอกาสได้เงยหน้าขึ้นมาจากที่กำบังได้เลย ชายคนนี้เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าแห่งกองทัพจีน ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมฝีมือของพวกตำรวจและทหารเหล่านี้นั้นมันถึงไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้เลยแม้แต่น้อย

วินาทีต่อมารถจี๊ปทหารลายพรางก็ถูกขับเข้ามาในที่เกิดเหตุ ชายคนหนึ่งกระโดดลงมาจากรถอย่างเท่และทรงพลัง เขาสวมเครื่องแบบของหน่วยรบพิเศษและถือปืนไรเฟิลจู่โจมในมือ สีหน้าของเขานั้นดูเย็นชาปนโศกเศร้าขณะที่มองไปที่ชายขับรถแท็กซี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนสาธารณะใกล้ ๆ

เขาคือคนนี้คือ เทียนเฟิง สมาชิกของหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าแห่งกองทัพจีนนั่นเอง และชายขับรถแท็กซี่คนนั้นก็คืออาจารย์ของเขาเอง ผู้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนร่วมรบและคนที่คอยสอนความรู้ทางทหารให้กับเขามาอย่างนับไม่ถ้วน

“ทุกคนหลบไปก่อน เดี๋ยวฉันจะเข้าไปเอง!” เทียนเฟิงตะโกน

เมื่อได้ฟังคำสั่งอันหนักแน่นจากกัปตันของหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าแห่งกองทัพจีนแล้ว ตำรวจและทหารทุกนายก็ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง

……

เย่เชียนยังคงจำสีหน้าและท่าทางของเทียนเฟิงในขณะที่เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังได้เป็นอย่างดี หลังจากที่อาจารย์ของเทียนเฟิงรู้ว่าเทียนเฟิงได้มาถึงที่นั่นแล้ว อาจารย์ของเทียนเฟิงก็เลิกคลั่งและหยุดยิง ทั้งสองคนคุยกันอย่างสงบเป็นเวลานาน จนในที่สุดอาจารย์ของเทียนเฟิงก็ฆ่าตัวตาย!

ก่อนที่จะหมดลมหายใจเฮือกสุดท้ายของอาจารย์ของเทียนเฟิง เขาได้จับมือของเทียนเฟิงเอาไว้ด้วยความรู้สึกผิดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง จากนั้นคำขอโทษจากก้นบึ้งของหัวใจก็หลุดออกมาจากปากของเขา “ฉันต้องขอโทษด้วย… ทั้งกับนาย กับเครื่องแบบนี่ กับยศที่ไหล่อันนี้ แล้วยังเหรียญกล้าหาญบนหน้าอกอีก…”

เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสิบสองปีก่อนระหว่างเทียนเฟิงและอาจารย์ของเขา ผู้ที่ซึ่งเป็นเหมือนดั่งพี่น้องร่วมสาบานมันกำลังจะซ้ำรอยกันอีกครั้ง แต่คราวนี้มันเป็นเรื่องของเย่เชียนและไป๋ฮวย ซึ่งเขาทั้งสองคนก็เปรียบได้ดั่งเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันมาเช่นกัน สำหรับเย่เชียนนั้นมันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วว่าต่อจากนี้ไปใครจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องสิ้นชีพไป เพราะสำหรับเขาที่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้นั้น มันก็เหมือนกับว่าทั้งเขาและไป๋ฮวยได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว

ทางด้านของเซียวหวันที่เห็นเย่เชียนยืนอยู่ริมหน้าผา เธอก็รู้สึกแปลก ๆ ในใจ มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ตัวเธอเองนั้นก็ไม่อาจที่จะสรรหาคำมาบรรยายได้ จู่ ๆ ขาของเธอก็ก้าวออกไปข้างหน้าหมายที่จะเดินไปหาเย่เชียน แต่ทว่าจื่อจุนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คว้าข้อมือของเธอเพื่อหยุดเธอเอาไว้เสียก่อน เซียวหวันจึงหันไปมองจื่อจุนและเห็นว่าเขานั้นกำลังส่ายหัวให้เธออยู่เบา ๆ เธอจึงก้าวเท้ากลับมายืนอยู่ที่เดิมและปล่อยให้เย่เชียนยืนอยู่ที่ริมหน้าผาอย่างนั้นต่อไปเงียบ ๆ

ทั้งสามคนยืนอยู่ที่หน้าผานั่นกันอย่างเนิ่นนานโดยไม่มีแม้แต่คำพูดแม้แต่คำเดียวหลุดออกมาจากปาก…

เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง แต่เย่เชียนนั้นยังคงยืนอยู่นิ่งไม่ขยีบตัวเลยแม้แต่น้อยราวกับว่าเขานั้นได้ถูกสาปให้กลายเป็นหินไปเสียแล้ว ทว่าเซียวหวันและจื่อจุนที่อยู่ทางด้านหลังนั้นทนไม่ไหว พวกเขาจึงนั่งยอง ๆ พลางถูแขนและขาของตัวเองไปมาด้วยความหนาวเย็น พวกเขาอดที่จะสงสัยอยู่ในได้ใจไม่ได้เลยว่า ‘นี่เย่เชียนไม่หนาวบ้างเลยรึไง ?’

แน่นอนล่ะว่าความอดทนของเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นเลิศ โดยเฉพาะราชาหมาป่าเย่เชียน แล้วพวกเขาทั้งสองจะเทียบเคียงกับเขาได้อย่างไร ? ในเมื่อผู้ก่อตั้งกองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นนักรบที่เก่งที่สุดของหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าแห่งกองทัพจีน ทำให้ในระหว่างการฝึกซ้อมวิชาการต่อสู้ต่าง ๆ นั้น ความอดทนก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทุกคนจะต้องฝึกมันด้วย เพราะถ้าไม่มีความอดทน ก็จะไม่สามารถเป็นนักรบที่ดีได้ตามที่กัปตันเทียนเฟิงเคยกล่าวเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว

ภาพที่เย่เชียนนั้นยืนอยู่ริมหน้าผาโดยมีชายหญิงคู่นั่งเฝ้าอยู่ข้างหลังนั้น มันทำให้พวกนั้นท่องเที่ยวที่เดินผ่านมาอดไม่ได้ที่จะหยุดดูพวกเขาด้วยความแปลกใจ จนมีครั้งหนึ่งที่สองตายายเดินผ่านมาแล้วทักเย่เชียนว่า “มันไม่มีอะไรที่คนหนุ่มสาวพยายามแล้วทำไม่ได้หรอกหลานเอ๋ย… อย่าเพิ่งรีบโหยหาความตายเลย อุปสรรคในชีวิตมันเป็นเรื่องธรรมดา”

“อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!”

ตอนที่ 221 ความรู้สึกของลูกผู้ชาย 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน