ตอนที่ 29 เอ็งรู้วิธีเขียนคำว่า ‘ตาย’ ไหม ?
ในขณะที่เย่เชียนและเพื่อนร่วมงานอีกสามคนกำลังกินดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนั้น จู่ ๆ ก็มีพวกเด็กนักเลงสี่คนที่ย้อมผมหลากหลายสีเดินเข้ามาในร้าน พวกเขาพูดคุยเสียงดังโหวกเหวกโวยวายในระหว่างที่เดินเข้ามา และมันก็ทำให้คนในร้านรำคาญใจสุดจะทน ดูท่าแล้วพวกเขาเหล่านั้นน่าจะเป็นพวกเด็กโดดเรียนหนีออกมาเที่ยว
“เถ้าแก่… ไก่สี่… ไอ้จ้อนแพะแปด ขอผักด้วยเยอะ ๆ นะ… อ้อ! อย่าลืมเอาเบียร์มาให้พวกผมด้วยล่ะ ขอเป็นเบียร์ชิงเต่านะ!” เด็กนักเลงคนที่ย้อมผมสีบลอนด์ตะโกนสั่งเสียงดัง หลังจากที่ตนและเพื่อนหาที่นั่งได้แล้ว จากนั้นเขาก็ชวนอีกสามคนคุยต่อ
“เฮ้ย! พวกแกไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นน่ะเจ้าชู้มากขนาดไหน เมื่อคืนนี้ข้าเกือบแห้งจนหมดแรงเลยนะเว้ย ฮ่า ๆ ๆ”
นักเลงอีกสามคนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และหนึ่งในนั้นพูดว่า
“พี่ตู้… พี่ไม่ได้มีฉายา ‘เจ็ดครั้งในคืนเดียว’ เหรอพี่ ?! ตอนนี้พี่จัดการสาว ๆ พวกนั้นไม่ได้งั้นเหรอ ?”
ตู้ไคว่ ที่โดนสบประมาทตอบไปว่า “พวกแกไม่รู้หรอกว่ายัยเด็กผู้หญิงน่ารังเกียจนั่นมันแข็งแรงมาก ในช่วงแรกข้าถูกกดอยู่ใต้ร่างยัยนั่นตลอดเวลาเลย เวรเอ๊ย!”
“ฮ่า ๆ ๆ พี่ตู้! แล้วหน้าอกหน้าใจของเธอล่ะ ใหญ่หรือเปล่า ? แล้วมันดูดีไหม ?” เด็กนักเลงผมสีเขียวถามอย่างหยาบคาย
“อื้อหือ… เรื่องใหญ่นี่ไม่ต้องพูดถึง บอกได้แค่ว่า เบ้อเริ่มเทิ่ม! แต่อืม… มันออกจะหย่อน ๆ ยาน ๆ หน่อย ส่วนตรงหัวก็ไม่ใหญ่จนเกินไป… แต่เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้ดูดีขนาดนั้น บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ะ…” ตู้ไคว่ตอบพลางจินตนาการภาพอยู่ในหัว
“แล้วเมื่อไหร่พี่จะให้พวกเราลองชิมเธอด้วยล่ะ ? ผมอยากลองบ้างว่ะพี่!” นักเลงผมสีเขียวพูดอย่างตื่นเต้น
“ไม่มีปัญหา… ไว้คราวหน้าข้าจะบอกพวกแกก็แล้วกัน… พวกแกจะไปชวนพวกเพื่อน ๆ ในห้องเรียนเราให้พวกมันมาร่วมด้วยก็ได้นะ ข้าไม่ติดอะไร พวกเราจะได้ทำมันพร้อมกันเป็นกลุ่มไปเลยไง ท่าจะมันส์ดี ฮ่า ๆ ๆ!” ตู้ไคว่พูดอย่างจริงจัง
“พี่ ผมว่าอย่าไปชวนไอ้พวกนั้นเลย เพราะถึงในโรงเรียนเธอจะดูเป็นคนเรียบร้อยและเหมือนลูกคุณหนู แต่จริง ๆ แล้วผมว่าเธอร่านเสียยิ่งกว่าใครเชียวล่ะ!” นักเลงหัวแดงพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“ก็จริงว่ะ ถึงภายนอกยัยนั่นจะดูเป็นเด็กผู้หญิงเรียบร้อยมาก แต่แท้จริงแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่าภายใต้ความเรียบร้อยพวกนั้น… มันมีอะไรดุเด็ดเผ็ดมันส์ซ่อนอยู่ ฮ่า ๆ ๆ เหอะ ๆ!” ตู้ไคว่พูดพลางหัวเราะและเลียริมฝีปากราวกับคนโรคจิต
บทสนทนาของเด็กนักเลงทั้งสี่คนยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ อย่างหยาบคาย ซึ่งส่วนใหญ่หัวข้อบทสนทนาก็คงหนีไม่พ้นการพูดถึงหน้าอกใหญ่ ๆ และก้นกลมกลึงกับลีลาอันเร่าร้อนบนเตียงของพวกเด็กผู้หญิงในโรงเรียน
เมื่อเถ้าแก่สาวนำอัณฑะแพะและของกินอื่น ๆ ที่พวกเด็กนักเลงสั่งมาเสิร์ฟที่โต๊ะ เด็กนักเลงพวกนั้นก็มองเธอตาเป็นมันและรอยยิ้มอันชั่วร้ายแก่แดดก็ฉายออกมาบนใบหน้าของพวกเขา ดวงตาทั้งสี่คู่ที่จ้องมองไปยังหน้าอกและก้นของเถ้าแก่สาวเต็มไปด้วยกามารมณ์และราคะอย่างปิดไม่มิด
อย่างไรก็ตาม เถ้าแก่สาวได้พบเจอกับผู้ชายทั้งหนุ่มทั้งแก่ประเภทนี้มาหลายต่อหลายคน ดังนั้นเธอจึงยังคงสงบอยู่ได้ เพราะในความคิดเธอ ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยเท่านั้นเอง
เมื่อเถ้าแก่สาวหันกลับไป ตู้ไคว่ก็ยังคงจ้องมองไปยังช่วงล่างของเธอที่ส่ายไปมาอย่างเย้ายวนตามจังหวะการเดิน เขามองมันไม่วางตาและกระเดาะลิ้นอย่างชอบใจด้วยความกระสัน
“พี่ตู้…! พี่ชอบผู้หญิงแก่แบบนี้เหรอพี่ ?” เด็กนักเลงผมสีม่วงถามอย่างตกตะลึง
“เหอะ! ยัยเจ๊นั่นน่ะเหรอ…! พวกแกนี่ช่างไม่รู้อะไรเล้ย! ผู้หญิงแบบนี้ล่ะเด็ดที่สุดแล้ว พวกแกลองมองข้ามรอยแผลเป็นบนใบหน้าไปสิ ข้ากล้าพูดได้เลยว่าเจ๊คนนี้เคยเป็นคนที่โคตรสวย แล้วไหนจะก้นอันงามงอนนั่นอีกล่ะ ดูสิ มันทั้งกลมกลึงและกระชับ สะโพกก็โค้งเว้าและพอดีอย่างที่สุด! เจ๊แกเป็นผู้หญิงที่ได้มาตรฐานคนนึงเลยนะเว้ย!” ตู้ไคว่วิจารณ์รูปร่างของเถ้าแก่สาวอย่างเปิดเผยจนน่ารังเกียจ
“เอ้าพี่! ก็นั่นมันตอนนั้นนะ แต่ดูเจ๊แกตอนนี้สิ พี่ยังกล้านอนกับเจ๊อยู่อีกเหรอ ? ตกกลางคืนมันจะเหมือนกับมองสัตว์ประหลาดเลยนะพี่ ผมกลัวว่าผมจะหัวใจวายตายซะก่อน มันไม่คุ้มกันหรอก!” เด็กนักเลงผมสีม่วงพูดอย่างรังเกียจ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน