เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 304

ตอนที่ 304 ความพิโรธ
เมื่อเห็นเย่เชียนขมวดคิ้วเช่นนั้นหลินโรวโร่วก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า “เป็นอะไร..มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?”

“แม่งเอ๊ยไอ้พวกเวร! ..กล้าบังคับพวกนักเรียนเข้าไปดื่มกินในผับบาร์อย่างงั้นเหรอ!” เย่เชียนวางสายโทรศัพท์และตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงดังเพราะกลัวว่าพ่อของเขาจะกังวล “โรวโร่วคุณอยู่ที่นี่ก่อนนะ..เดี๋ยวผมจะรีบกลับมา” เย่เชียนพูด

“รีบไปเถอะ!” หลินโรวโร่วพูด

เย่เชียนพยักหน้าและเดินออกไปอย่างรวดเร็วและเมื่อไปถึงห้องนั่งเล่นแล้วเขาก็ยิ้มและพูดว่า “พ่อครับเดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอกสักพักนะ..เดี๋ยวผมรีบกลับมา!”

“อ่า!” ชายชราก็พยักหน้า

“พ่อคะใส่เสื้อคลุมด้วยสิข้างนอกมันหนาว!” เย่หลินพูดพลางหยิบเสื้อโค้ตให้เย่เชียน

“อ่าห๊ะ!” เย่เชียนลูบหัวของเธอและสวมเสื้อโค้ทจากนั้นก็เดินออกไป หลังจากออกมาจากบ้านแล้วเย่เชียนก็โทรไปหาแจ็คและพูดว่า “แจ็ค! ..ฉันให้เวลาสามนาที! ..รีบสั่งให้เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดของไอร่อนบลัดไปรอฉันที่สโมสรเจิดจรัสเดี๋ยวนี้..ไอ้พวกเวรนั่นคงจะเบื่อหน่ายกับชีวิตแล้วสินะ!”

แจ็คไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เชียนถึงทำการใหญ่ถึงขนาดนี้ ทำไมเขาถึงต้องเรียกระดมพลคนมากมายถึงขนาดนี้หรือเป็นไปได้ไหมที่ใครบางคนจะไปยั่วยุและกระตุ้นให้เขาโกรธอย่างมากถึงขั้นระเบิดโทสะออกมา อย่างไรก็ตามแจ็คก็ไม่กล้าที่จะครุ่นคิดอะไรอีกต่อไปแล้วเมื่อได้ยินน้ำเสียงของเย่เชียนที่ดูจริงจังถึงขนาดนี้และเขาก็รู้แล้วว่าเย่เชียนนั้นกำลังโกรธจริงๆ และเมื่อเป็นเช่นนั้นแจ็คจึงไม่กล้าที่จะลังเลใดๆ ในตอนนี้เพราะหลังจากวางสายโทรศัพท์ไปแล้วเขาก็รีบสั่งการและขับรถตรงไปยังที่นัดหมายในทันที

หลังจากนั้นเย่เชียนก็ได้โทรศัพท์ไปที่สำนักงานของเทศบาลเขตและเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะทักทายหวังปิงแต่อย่างใด เขาเพียงแจ้งเรื่องนี้สั้นๆ ให้แก่หวังปิงและเมื่อได้ยินเช่นนั้นหวังปิงก็ถึงกับผงะไปและที่หน้าผากของเขาก็มีเหงื่อออกมาท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ ซึ่งในใจของหวังปิงนั้นก็กำลังคิดว่าหมาบ้ากลุ่มไหนกันที่ไม่มีอะไรทำจนสิ้นคิดไปยั่วยุและกระตุ้นให้พระเจ้าพิโรธ ซึ่งตอนนี้เองหวังปิงก็ไม่กล้าที่จะลังเลใดๆ อีกต่อไปเขาจึงรีบต่อสายตรงไปหาคณะกรรมการตรวจสอบวินัยกลางและหลังจากนั้นหวังปิงก็รีบขับรถไปยังสโมสรเจิดจรัสในทันที

หิมะสีขาวที่โหมกระหน่ำนั้นกำลังต่อสู้อยู่กับแลมโบกินี่สีดำทมิฬของฉินหยูที่เย่เชียนขับอยู่ซึ่งมันถูกขับเคลื่อนด้วยความเร็วในใจกลางเมืองอันดูตื่นตาอย่างมาก ความโกรธเกรี้ยวของเย่เชียนในตอนนี้นั้นไม่สามารถระงับได้ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเหน็บเช่นนี้ได้ เบื้องหน้าของคนเหล่านี้นั้นเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาและศีลธรรมมาโดยตลอดแต่ทว่าพวกเขากลับเป็นผู้นำที่สกปรกและเลวทรามด้วยการปล่อยให้นักเรียนมัธยมปลายเข้ามาดื่มสิ่งมึนเมาและยุ่งเกี่ยวกับสิ่งอบายมุขอย่างไม่น่าให้อภัย

ไม่นานนักด้วยความเร็วของแลมโบกินี่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเย่เชียนนั้นเขาก็มาถึงหน้าประตูของสโมสรเจิดจรัสในทันทีซึ่งเหล่าการ์ดยามหน้าประตูก็เห็นและพวกเขาก็รู้ได้ในทันทีเลยว่ารถคันนี้ต้องเป็นรถของหัวหน้าใหญ่คนใหม่ที่เก่งกาจที่สุดของพวกเขาอย่างแน่นอน

“ผมขอถามหน่อยว่าวันนี้มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการศึกษามาด้วยหรือเปล่า?” เย่เชียนถามทันทีที่เขาก้าวเท้าออกมาจากรถ

“มาครับหัวหน้า! ..พวกเขาอยู่ในห้องรับรองส่วนตัวและมีผู้อำนวยการของโรงเรียนจากบางโรงเรียนมาด้วยครับ” เมื่อการ์ดยามหน้าสโมสรเห็นใบหน้าที่บึ้งตึงของเย่เชียนแล้วเขาก็พูดอย่างเร่งรีบ

เย่เชียนก็พยักหน้าและเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับการ์ดยามอีกสองที่รีบเดินตามหลังเขาไปอย่างเคารพ ซึ่งพวกเขาล้วนเป็นคนฉลาดและมีไหวพริบอย่างมากเพราะพวกเขาเห็นได้เลยว่าหัวหน้าใหญ่ของพวกเขานั้นกำลังเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ “พวกคุณไม่ต้องมาก็ได้..เดี๋ยวผมไปเอง!” เย่เชียนพูด

หลังจากพูดจบเย่เชียนก็เดินไปยังห้องรับรองส่วนตัวดังกล่าวซึ่งจากระยะไกลนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของคนขี้เมาและเสียงคำปฏิเสธของเด็กผู้หญิงบางคน และในทันใดนั้นความโกรธเกรี้ยวของเย่เชียนก็ปะทุขึ้นมาและเขาก็ยืดตัวขึ้นจากนั้นก็เร่งฝีเท้าและมุ่งไปยังห้องนั้นและเมื่อเขาไปถึงหน้าประตูเขาก็ไม่สนใจสิ่งอื่นและถีบประตูให้เปิดออกด้วยการถีบเพียงครั้งเดียว

เมื่อเขาถีบประตูเข้าไปแล้วเย่เชียนก็เห็นชายวัยกลางคนห้าคนที่มีพุงใหญ่ๆ นั่งอยู่ในห้องและมีเด็กผู้หญิงอีกเจ็ดถึงแปดคนนั่งอยู่ข้างๆ พวกเขาซึ่งฮันเซ่วเองก็อยู่ในหมู่พวกเขาด้วย ซึ่งเด็กทั้งหมดนี่อาจจะเป็นนักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายอันดับหนึ่งของเมือง ซึ่งมีชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่กำลังจะลวนลามฮันเซ่วแต่เมื่อได้ยินเสียงประตูถูกเปิดออกแล้วทุกคนก็หันหน้าไปมองโดยไม่สมัครใจ

“แกเป็นใคร? ..ออกไปซะ!” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่มีผมบางหัวล้านก็ตะโกนขึ้นมา

“พี่สอง!” ฮันเซ่วก็รีบลุกขึ้นยืนและวิ่งไปหาเย่เชียนด้วยความกระวนกระวาย

เย่เชียนก็กอดเธอเอาไว้และลูบหัวของเธอเบาๆ พร้อมพูดว่า “ไม่เป็นอะไรแล้ว..พี่สองของเธออยู่ที่นี่แล้ว” หลังจากพูดจบเขาก็เหลือบมองไปที่ชายวัยกลางคนคนนั้นและถามอย่างเกรี้ยวโกรธว่า “ไหนพูดซิว่าใครตำแหน่งใหญ่ที่สุด?”

เมื่อเหล่าผู้อำนวยการโรงเรียนเห็นผู้ปกครองของนักเรียนมาปรากฏตัวเช่นนี้พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อเพราะถ้าหากว่าเรื่องแบบนี้กระจายออกไปล่ะก็มันก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อชื่อเสียงของโรงเรียนและระบบการศึกษา ซึ่งชายวัยกลางคนร่างผอมที่ตาโปนออกมาและมีลักษณะคล้ายคางคกก็ยืนขึ้นและยิ้มอย่างเชื่องช้าและพูดว่า “คุณคือพ่อของฮันเซ่วหรือ..คือสิ่งที่เกิดขึ้นมันเอ่อ..”

“บ่นอะไรวะ!” ก่อนที่คำพูดของลุงคางคกจะจบเย่เชียนก็แบล็คแฮนด์ด้วยหลังมือเขาและพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “บ่นอะไร..ผมแค่ให้พวกคุณบอกมาว่าใครตำแหน่งใหญ่สุดที่นี่!”

“หึๆ ..ใจเย็นๆ ไอ้น้องชาย..แกต้องลืมตาขึ้นมาดูให้ชัดๆ ก่อนนะว่าแกควรทำให้คนที่นี่ขุ่นเคืองหรือเปล่า” ชายหัวโล้นพูดอย่างเย้ยหยัน เพราะผู้อำนวยการประจำโรงเรียนของฮันเซ่วเพิ่งจะบอกเขาไปว่าฐานะครอบครัวของฮันเซ่วนั้นเป็นเพียงแค่ครอบครัวธรรมดาๆ และมีชายชราเพียงคนเดียวและเด็กน้อยอีกหนึ่งคน ซึ่งภูมิหลังของครอบครัวเช่นนี้พวกเขาก็จะไม่กลัวโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

“หัวหน้าครับเกิดอะไรขึ้น!” ผู้จัดการชางกวนพูด เพราะหลังจากที่ได้รับรายงานจากการ์ดยามสองคนว่าเย่เชียนได้รีบวิ่งเข้ามาในห้องนี้ด้วยความโกรธเกรี้ยวและเมื่อได้ยินเช่นนั้นผู้จัดการชางกวนจึงรีบมาอย่างร้อนรนในทันที

เย่เชียนพูดอย่างเดือดดาลว่า “คนเลวๆ แบบนี้มาใช้ห้องส่วนตัวของเราได้ด้วยงั้นเหรอ?” ชางกวนถึงกับตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและด้วยความงุนงงเขาก็พูดอะไรไม่ออก หลังจากนั้นเย่เชียนก็ปล่อยฮันเซ่วออกจากอ้อมกอดและพูดว่า “เธอรอพี่สองอยู่ที่นี่นะ..เดี๋ยวพี่สองจะช่วยเธอลบล้างความร้าวฉานนั้นเอง” หลังจากนั้นเย่เชียนก็เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และง้างลูกเตะเข้าไปที่ท้องของชายหัวโล้นและทำให้ชายหัวโล้นกระเด็นไปชนเข้ากับกำแพงและตกลงมาที่พื้น

ตอนที่ 304 ความพิโรธ 1

ตอนที่ 304 ความพิโรธ 2

ตอนที่ 304 ความพิโรธ 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน