สิ่งนี้ทำให้เย่เชียนเชื่อมั่นและมุ่งมั่นมากขึ้นว่าเขาจะต้องการสร้างโลกที่แตกต่างออกไปจากเดิมและสอนคนจีนให้รู้ว่าประเทศจีนนั้นเป็นชาติที่ดีที่สุดในโลก
ที่ด้านหน้าของประตูทางเข้ามีสาวชาวญี่ปุ่นสองคนสวมชุดกี่เพ้าอยู่และเมื่อพวกเธอเห็นแขกเข้ามาพวกเธอก็รีบโค้งคำนับและกล่าวคำทักทาย “สวัสดีค่ะ..ยินดีต้อนรับ!” ถึงแม้ว่าภาษาจีนของพวกเธอจะไม่ได้มาตรฐานมากนัก แต่ก็ไม่ได้แย่จนเกินไป
“นี่คือสโมสรน้ำพุร้อนที่อยู่ภายใต้ตระกูลฝูชิงของเรา..ซึ่งท่านผู้นำได้กำชับเอาไว้ว่าคนที่ทำงานที่นี่จะต้องเรียนรู้การสื่อสารและภาษาจีนกันทุกวันด้วย” โย่วซวนพูด
เย่เชียนก็พยักหน้าเพราะแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นไม่เพียงแค่ส่งเสริมชื่อเสียงของประเทศจีนในประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้เพียงเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมวัฒนธรรมของจีนในระดับหนึ่งอีกด้วยซึ่งควรค่าแก่การชื่นชมอย่างยิ่ง จากนั้นเย่เชียนก็หันหน้าไปมองม่อหลงและพยักหน้าให้เขา จากนั้นม่อหลงก็พยักหน้าและเดินออกไป
“เอ่อ..คุณคนนั้น…” โย่วซวนถามด้วยความประหลาดใจ
“อ้อๆ ..เขาจะไปทำธุระบางอย่างก่อนน่ะครับ..เดี๋ยวเขาก็กลับมา..เราเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
โย่วซวนก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมเพียงทำท่าเชิญแล้วพูดว่า “เชิญครับคุณเย่!”
เย่เชียนก็พยักหน้าอย่างสุภาพและเดินเข้าไปข้างในโดยมีชิงเฟิงและหวงฟู่เส้าเจี๋ยตามหลังไป ทันทีที่เขาเข้าไปในสโมสรแล้วเย่เชียนก็ได้ยินเสียงเพลงของจีนซึ่งเป็นซาวด์เสียงที่น่าสนใจและน่าดึงดูดมาก โย่วซวนก็เดินนำทั้งสามคนผ่านทางเดินไปและก็มาถึงห้องห้องหนึ่งอย่างรวดเร็วซึ่งมีชายหนุ่มชาวจีนสองคนยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและเมื่อพวกเขาเห็นโย่วซวนเข้ามาแล้วพวกเขาก็รีบทำความเคารพและพูดว่า “ยินดีต้อนรับกลับครับหัวหน้า!”
โย่วซวนก็พยักหน้าและลูกน้องทั้งสองก็เปิดประตูให้ซึ่งข้างในนั้นมีชายวัยกลางคนอายุสี่สิบต้นๆ นั่งอยู่ในห้องโดยสวมชุดจีนโบราณซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้อยู่รอบๆ ตัวเขา เซี่ยตงไป่ผู้นำสูงสุดของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นดั่งเป็นวีรชนแห่งแดนมังกรจากแผ่นดินใหญ่ “ท่านผู้นำขอรับ..คุณเย่และคนอื่นๆ มาแล้วครับท่าน!” คุณซวนกล่าว
มีโต๊ะกาแฟสลักลายอยู่ด้านหน้าของเซี่ยตงไป่พร้อมกับหญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่สวมชุดกี่เพ้าที่กำลังชงชาอยู่ท่ามกลางฤดูหนาวที่หนาวเหน็บเช่นนี้เธอทำให้ผู้คนสามารถรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หลังจากนั้นเซี่ยตงไป่ก็วางถ้วยชาในมือลงและเมื่อเขาเงยหน้ามองขึ้นไปเห็นเย่เชียนเขาก็ยิ้มกว้างและยืนขึ้นเพื่อทักทายเย่เชียนและเดินเข้าไปหาเย่เชียนและสวมกอดพร้อมกับพูดว่า “น้องเย่! ..โอ้..ไม่ได้เจอกันนานเลย..ฉันล่ะคิดถึงนายจริงๆ น้องชาย”
“ผมก็เหมือนกัน..ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งสุดท้ายผมก็ไม่ได้มาญี่ปุ่นเลย..ผมก็อยากเจอคุณอีกครั้งและมาขอบคุณ..แต่มีเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นมากมายผมเลยไม่มีเวลาออกไปไหนเลย” เย่เชียนพูด
เซี่ยตงไป่ปล่อยกอดเย่เชียนและหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็พูดว่า “น้องชายฉันขอโทษที่ไม่ได้ไปรับนายที่สนามบินเป็นการส่วนตัว..น้องเย่คงจะไม่โกรธเคืองกันหรอกใช่มั้ย?”
“โกรธเคืองอะไรกันพี่ใหญ่..คุณก็พูดเกินไป..ถ้าคุณมารับผมที่สนามบินด้วยตัวเองล่ะก็แถวๆ นั้นก็คงจะตกตะลึงกันไปหมด..ผมไม่กล้ารบกวนพี่ใหญ่เซี่ยหรอกครับ” หลังจากที่เย่เชียนพูดจบแล้วเขาก็หันไปมองหวงฟู่เส้าเจี๋ยและหลังจากนั้นหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ก้าวมาข้างหน้าพร้อมกับกล่องผ้าในมือและเย่เชียนก็หยิบมันและส่งต่อไปที่มือของเซี่ยตงไป่พร้อมกับพูดว่า “น้องชายคนนี้รู้ว่าพี่ใหญ่เซี่ยน่ะชอบดื่มชามาก..แต่ครั้งนี้มันกระทันหันไปหน่อยผมจึงไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้..มีเพียงชาหลงจิ่งแท้ๆ จากแดนมังกร”
“โอ้..น้องเย่เนี่ยช่างรู้ใจฉันจริงๆ ..ชาหลงจิ่งแท้ๆ จากแดนมังกรคือที่สุดของที่สุดแล้ว!” เซี่ยตงไป่ก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและส่งกล่องในมือของเขาไปให้หญิงสาวที่รับผิดชอบในการชงชา หลังจากนั้นเซี่ยตงไป่ก็เหลือบมองไปที่ชิงเฟิงและหวงฟู่เส้าเจี๋ยและถามว่า “น้องเย่..แล้วสองคนนี้เป็นใครหรือ?”
“นี่คือชิงเฟิง..พี่น้องเขี้ยวหมาป่าของผม!” เย่เชียนชี้ไปที่ชิงเฟิงและพูด หลังจากนั้นเย่เชียนก็ชี้ไปที่หวงฟู่เส้าเจี๋ยและพูดว่า “ส่วนนี่ก็ลูกศิษย์ของผม..หวงฟู่เส้าเจี๋ย!”
“สวัสดีครับท่านผู้นำ!” ชิงเฟิงและหวงฟู่เส้าเจี๋ยตะโกนพร้อมๆ กัน หลังจากนั้นเซี่ยตงไป่ก็เผยถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็นออกมาเพราะเด็กหนุ่มอย่างหวงฟู่เส้าเจี๋ยคนนี้ถึงกับเป็นลูกศิษย์ของเย่เชียนเช่นนี้และเหมือนจะมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่าเซี่ยตงไป่นั้นตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
“โอ้..คนหนุ่มสาวสมัยนี้เนี่ยยอดเยี่ยมจริงๆ ..คนเฒ่าคนแก่อย่างฉันละภูมิใจแทนจริงๆ” เซี่ยตงไป่พูดและยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็หันมองไปที่หวงฟู่เส้าเจี๋ยและพูดว่า “หนุ่มน้อยหวงฟู่เส้าเจี๋ยหรือ..โอ้..น้องชายนี่ช่างโชคดีจริงๆ ที่ได้เป็นถึงลูกศิษย์ของน้องเย่..และเคารพน้องเย่ในฐานะอาจารย์..นั่นเป็นความโชคดีของน้องชายจริงๆ”
เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ และพูดขึ้นมาว่า “เหอะๆ ..ขอบคุณครับพี่ใหญ่..แต่ว่าภูมิหลังของเด็กคนนี้น่ะไม่ธรรมดาๆ เลยนะ..ขนาดผมเองยังไม่กล้าที่จะทำอะไรต่อหน้าลุงของเขาเลย..และผมก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมปู่ถึงต้องยัดเยียดเด็กคนนี้เอาไว้กับผมด้วย”
“หือ? ..” เซี่ยตงไป่เผยถึงความสนใจในตัวของหวงฟู่เส้าเจี๋ยอย่างมากและเต็มไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเขาก็พูดว่า “เดี๋ยวนะ..หนุ่มน้อยคนนี้มีแซ่สกุลว่าหวงฟู่ใช่มั้ย? ..เขาเป็นลูกหลานของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนงั้นหรือ?”
“ใช่ครับ..เขาเป็นลุงแท้ๆ ของผมเอง!” หวงฟู่เส้าเจี๋ยตอบอย่างเคารพ
“ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉันจะรู้สึกแปลกๆ แบบนี้..คนเก่งๆ เนี่ยส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นจริงๆ!” เซี่ยตงไป่พูดด้วยรอยยิ้ม “มาๆ ..นั่งลงก่อนๆ ..ฉันล่ะดีใจจริงๆ ที่ได้พบกับเหล่าพี่น้องของเย่เชียน”
“คุณซวน..คุณเองก็มานั่งด้วยกันสิ..คุณไม่ใช่คนใดใครอื่น..เราคนกันเอง!” เซี่ยตงไป่มองไปที่โย่วซวนและพูด
เมื่อทุกคนนั่งลงกันแล้วเซี่ยตงไป่ก็เหลือบมองไปที่หญิงสาวชงชาและสั่งว่า “เริ่มชงชาได้เลย!” จากนั้นเขาก็ยิ้มให้เย่เชียนและพูดว่า “ชาเนี่ยมันเหมือนยาเสพติดเลยเนอะ..ฉันล่ะดื่มได้ดื่มดีจริงๆ ..สงสัยฉันจะเสพติดมันแล้วฮ่าๆ!”
หญิงสาวชงชาก็เปิดกล่องบรรจุภัณฑ์และหยิบใบชาออกมาแช่ในน้ำร้อนและจู่ๆ เซี่ยตงไป่ก็ถึงกับผงะไปและพูดอย่างเร่งรีบว่า “เดี๋ยวก่อน!” หญิงสาวชงชาก็ถึงกับสั่นไปหมดทั้งตัวและเกือบจะทำน้ำร้อนหกลงพื้น “นี่เธอไม่รู้เหรอว่านี่มันคือใบชาอะไร..มันคือใบชาหลงจิ่งแท้ๆ ต้นตำรับ..มันต้องแช่ในน้ำเย็นก่อนเพื่อให้มีกลิ่นที่หอมยิ่งขึ้น” เซี่ยตงไป่พูด
หญิงสาวชงชาก็จ้องมองไปที่เซี่ยตงไป่ด้วยความประหลาดใจซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าเธอนั้นไม่รู้ว่าวิธีการมันต้องทำเช่นไรจริงๆ แต่เธอก็ไม่กล้าถาม ซึ่งที่เซี่ยตงไป่ก็ถอนหายใจเล็กน้อยและยิ้มให้เย่เชียนจากนั้นก็พูดว่า “ชาวญี่ปุ่นก็เป็นชาวญี่ปุ่นอยู่วันยังค่ำ..ช่างไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมจีนจริงๆ”
“ตอนนี้มีหิมะตกอยู่ข้างนอก..เธอไปเก็บหิมะมาแล้วละลายมัน..จากนั้นก็กรองฝุ่นด้านในออกก่อนแล้วค่อยแช่ใบชา..แล้วก็นำมาชงทีหลัง” โย่วซวนจ้องมองไปที่หญิงสาวชงชาแล้วพูด
หญิงสาวชงชาก็รีบโค้งเอวคำนับอยู่หลายครั้งแล้วค่อยๆ ถอยออกไป

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน