เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 389

ตอนที่ 389 ความอดทน

เย่เชียนนั้นรู้ดีว่าการข่มขู่จะไม่มีผลกับคนอย่างกงห่าวเพราะเขานั้นผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย และเขาก็เคยใช้ชีวิตที่ยากลำบากและโดดเดี่ยวในวัยห้าสิบของเขาที่เสมือนถูกฝังอยู่ในวังของเทพฮาเดสแห่งความตายเช่นนั้นแล้วเขาจะกลัวการข่มขู่ได้อย่างไร?

“กลับไปซะ..ฉันจะกลับบ้าน!” หลังจากที่กงห่าวพูดจบเขาก็เดินจากไปทันที

เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและไม่ได้พูดอะไรต่อ ส่วนหวังหูก็จ้องมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “พี่สอง! ..เราจะทำยังไงกันดี..ตาแก่นั่นหัวรั้นเกินไป..จากมุมมองของผมน่ะเราก็แค่ไปเอากริชนั่นด้วยตัวเองเลยซะสิ..เพราะการรักษาความปลอดภัยของงานก็ล้วนเป็นคนจากบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดของเรา..เพราะงั้นการทำแบบนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”

เย่เชียนก็เหลือบมองไปที่หวังหูอย่างหมดหนทางและพูดว่า “นั่นมันก็เท่ากับการทำลายชื่อเสียงของบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดสิ…ไม่เป็นไรๆ ..ฉันเป็นคนที่มีความอดทนมาก..การรับมือกับคนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”

“แต่เรามีเวลาเหลือแค่สามวันเองนะ” หวังหูพูด

“เดี๋ยวฉันจะทำให้เขายอมร่วมมือในวันนี้เอง” เย่เชียนพูดอย่างมั่นใจ หวังหูก็มองเย่เชียนด้วยความตกตะลึงและค่อนข้างสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้มั่นใจเช่นนี้ ตอนนี้หวังหู่ก็ได้เห็นรูปลักษณ์และนิสัยของกงห่าวด้วยตาของเขาเองแล้วว่าคนอย่างกงห่าวนั้นไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินและเย่เชียนจะจัดการกับคนประเภทนี้ได้อย่างไร ซึ่งหวังหูก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเย่เชียนถึงได้มั่นใจว่าจะสามารถโน้มน้าวกงห่าวได้

“เอาล่ะ..ไปกันเถอะ” เย่เชียนพูดขณะที่เขาเดินตามกงห่าวไป ซึ่งหวังหูก็ยักไหล่และเดินตามเย่เชียนไป ส่วนรถก็จอดทิ้งเอาไว้ที่นั่น

เห็นได้ชัดเลยว่ากงห่าวนั้นรู้ตัวว่าเย่เชียนและหวังหูกำลังตามเขามาแต่ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะหันกลับไปและไม่ได้มีความคิดที่จะขับไล่พวกเขาออกไปเพราะกงห่าวเพียงแค่เดินไปตามทางของเขาเท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุมากกว่า 50 ปีแล้วและถูกจำคุกอีก 20 ปี แต่กระดูกและร่างกายของกงห่าวก็ยังคงแข็งแรงมาก

เย่เชียนนั้นไม่ได้ไล่ตามกงห่าวไปเพราะเขาเพียงเดินตามหลังเขาไปอย่างไม่เร่งรีบราวกับว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเดินตามกงห่าวเลย ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ทำให้หวังหูนั้นไม่ชัดเจนอย่างมากแต่อย่างไรก็ตามหวังหูก็เขาไม่กล้าถามเขาเพียงเดินตามเย่เชียนไปอย่างเงียบๆ

ท้องฟ้าก็ค่อยๆ มืดลงและแสงไฟข้างถนนก็เริ่มสว่างไสวขึ้น

กงห่าวก็ยังคงเดินไปเรื่อยๆ ส่วนเย่เชียนก็ไม่ได้รีบร้อนและยังตามมาข้างหลังอย่างสบายๆ จนกงห่าวตกตะลึงเล็กน้อยจากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างเย้ยหยันแล้วหันหลังเดินเข้าไปในตรอกซึ่งข้างในมีแผงขายก๋วยเตี๋ยวอยู่และกงห่าวก็เดินไปที่แผงและนั่งลงแล้วตะโกนว่า “เถ้าแก่..ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ!”

เย่เชียนก็เดินไปนั่งลงข้างๆ กงห่าวอย่างไม่แยแสและไม่ได้มองไปที่กงห่าวเลยราวกับว่าเขาไม่รู้จักกันและเย่เชียนก็ตะโกนว่า “เถ้าแก่..บะหมี่เกี๊ยว!” ส่วนหวังหูก็ดูสับสนไปหมดและด้วยความสับสนเขาก็ต้องนั่งลงข้างๆ เย่เชียนอย่างงุนงงและตะโกนว่า “เถ้าแก่..เกี๊ยวน้ำ!”

“ได้!” เถ้าแก่ตอบรับและรีบทำอาหารทันที

กงห่าวเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “มีโต๊ะว่างอีกตั้งเยอะแล้วทำไมเอ็งต้องมานั่งกับฉันด้วย? ”

เย่เชียนก็ยักไหล่เบาๆ และพูดว่า “ก็ฮวงจุ้ยตรงนี้ดีกว่า”

“ฮึ่ม!” กงห่าวถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์และไม่พูดอะไรใดๆ กับเย่เชียนอีกต่อไป เย่เชียนเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเขาเพียงจ้องมองไปที่กงห่าวอย่างเงียบๆ ด้วยดวงตาที่คาดหวังและถ้าหากใครไม่รู้จุดประสงค์ของเย่เชียนล่ะก็ต่างก็คิดว่าเย่เชียนกำลังมองผู้หญิงสวยๆ อยู่

นี่เป็นทักษะเฉพาะของเย่เชียนหลังจากฝึกฝนอย่างหนักหน่วงมานานเขาก็มีทักษะเช่นทุกวันนี้ เมื่อครั้งที่เย่เชียนยังเป็นเด็กเขานั้นได้อยู่ตามท้องถนนเพื่อและเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารโดยการจ้องมองผู้คนเป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่กะพริบตา ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งในตอนนั้นเมื่อเย่เชียนกำลังกลับบ้านในตอนกลางคืนเขาก็หยิบปากกาวางไว้บนโต๊ะแล้วจ้องไปที่มันอย่างตั้งใจอย่างใจจดใจจ่อโดยไม่กะพริบตาเป็นเวลานานจนน้ำตาของเขาไหลออกมาเองและเมื่อเวลาผ่านไปเย่เชียนก็ได้พัฒนาดวงตาที่เฉียบคมของเขาขึ้นมาซึ่งในตอนนี้เขาสามารถจ้องมองไปที่คนๆ หนึ่งโดยไม่กะพริบตาเป็นเวลานานได้

ใช้เวลาไม่นานนักอาหารที่ทั้งสามคนสั่งก็ถูกเสิร์ฟและแน่นอนว่าแต่ละคนก็เริ่มกินอาหารของตัวเองและไม่มีใครพูดคุยกับใคร ซึ่งเย่เชียนก็ค่อยๆ ปอกกระเทียมบนโต๊ะจากนั้นก็เทน้ำส้มสายชูลงในชามของเขาจากนั้นก็เริ่มกินอย่างช้าๆ ส่วนหวังหูนั้นหิวมากเพราะเขาไม่ได้กินอะไรเลยในตอนเช้าจนท้องร้องโครกครากและเมื่อเขาเห็นเกี๊ยวที่อยู่ตรงหน้าเขาก็รีบกินเข้าไปเต็มปาก อย่างไรก็ตามเสียงของการกินนั้นช่างน่าอายจริงๆ

เย่เชียนและกงห่าวถึงกับหยุดชะงักเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงกินอาหารที่น่ากลัวของหวังหูจนสายตาของพวกเขาจดจ่อไปที่หวังหูและหลังจากนั้นไม่นานหวังหูก็รู้สึกแปลกๆ และเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจและเมื่อเขาเห็นสายตาของเย่เชียนและกงห่าวเขาก็ยิ้มอย่างเชื่องช้าและรีบลดเสียงลงเพื่อรับประทานอาหารอย่างสุภาพ

เย่เชียนและกงห่าวก็ดูเหมือนจะรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวและการแสดงออกและปฏิกิริยาของกันและกันนั้นเหมือนกันเลยจนเขาพวกเขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะเหลือบมองกันและกันและหลังจากนั้นทั้งสองต่างก็ก้มศีรษะลงเพื่อกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ตอนที่ 389 ความอดทน 1

ตอนที่ 389 ความอดทน 2

ตอนที่ 389 ความอดทน 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน