ตอนที่ 390 กริชดาวตก ตอนที่ 1
การดื่มชานั้นเป็นสิ่งที่วิเศษมาก แต่ทว่าเย่เชียนก็ไม่ได้รีบแต่อย่างใดเขาเพียงจ้องมองไปที่หวังหูด้วยความขมขื่นและหลังจากกล่าวขอบคุณกงห่าวแล้วเย่เชียนก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบเบาๆ สองสามครั้งแล้วดื่มมัน ซึ่งชาร้อนๆ ได้ไหลลงไปตามกระเพาะอาหารจากลำคอทันทีจนร่างกายของเย่เชียนรู้สึกสดชื่นอย่างมาก
“น้อยมากเลยนะที่จะมีคนหนุ่มสาวที่รู้วิธีการดื่มชา..ไม่เลวเลยหนิ!” กงห่าวพูดด้วยท่าทางที่ชื่นชมเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้เย่เชียนได้ลิ้มรสกลิ่นหอมของชาและอีกอย่างหนึ่งการทำเช่นนี้ก็ล้วนเป็นมารยาทที่ดีในการดื่มชานั่นเอง
“การดื่มชาเป็นสิ่งที่ดีต่อชีวิตจริงๆ” เย่เชียนพูดอย่างช้าๆ เขาไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้มาก่อนแต่ทว่าหลินจินไท่อาจารย์ของเขาชอบชามากและเขาก็มักจะบอกกับเย่เชียนเกี่ยวกับพิธีการชงชาและหลักการดำเนินชีวิตและเมื่อวันเวลาผ่านไปเย่เชียนก็ค่อยๆ ซึมซับไปอย่างช้าๆ
“มา! ..มาคุยกันเถอะ..พวกเอ็งมาหาฉันทำไม” กงห่าวถามหลังจากดื่มชาเสร็จแล้วค่อยๆ วางถ้วยลง
“เนื่องจากอาจารย์กงถามแบบนี้แล้วผมก็จะพูดตรงๆ เลยก็แล้วกัน” เย่เชียนพูดต่อ “ไม่ทราบว่าอาจารย์กงรู้เรื่องงานการประมูลที่กำลังจะจักขึ้นในอีกสามวันหลังจากนี้มั้ย?
“ฉันรู้” กงห่าวพูด
“ถ้างั้นอาจารย์กงรู้หรือเปล่าว่าโบราณวัตถุที่เด่นที่สุดของการประมูลครั้งนี้คืออะไร?” เย่เชียนถามด้วยความอดทนอย่างมากและไม่รีบร้อนจนเกินไป
“เอ็งหมายถึงกริชแห่งเพลิง?” กงห่าวหยุดไปชั่วขณะและพูดว่า “มันคือสิ่งที่ล้ำค่าจริงๆ ..แต่ฉันเคยเห็นมันแค่ในรูปภาพเท่านั้น..ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นของจริงเลย..ถ้าเอ็งต้องการให้ฉันลอกเลียนแบบมันฉันเกรงว่าเอ็งอาจจะต้องนำของจริงมาให้ฉันดูเสียก่อนน่ะ”
เย่เชียนก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะและเขาก็ดีใจมากเพราะปรากฏว่ามันเหมือนกับการที่กงห่าวบอกอย่างชัดเจนว่าเขาจะร่วมมือด้วย เย่เชียนก็รับระงับความตื่นเต้นเอาไว้และพูดอย่างรีบร้อนว่า “เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกครับ..ผมจะนำมันมาให้คืนนี้..แต่ว่าเวลามันเหลือน้อยมากเพราะการประมูลกำลังจะเริ่มในอีกสามวัน..ผมไม่รู้ว่าอาจารย์กงจะทำทันเวลามั้ย?”
“ถึงเวลาจะเหลือน้อยก็จริงแต่เราต้องดูก่อนว่ารายละเอียดมันเป็นแบบไหนเพราะมันจะต้องเหมือนกันทุกประการ..ทั้งน้ำหนักและรูปร่างหน้าตาและอายุของตามกาลเวลาของมันด้วย” กงห่าวพูด “เอ็งต้องนำของจริงมาให้ฉันดูก่อน..ฉันตอบเอ็งไม่ได้หรอกจนกว่าจะได้เห็นของจริง..และฉันก็ไม่รับประกันด้วยว่ามันจะเสร็จตอนไหน”
“ไม่มีปัญหาครับอาจารย์กง..เดี๋ยวผมขอตัวไปโทรศัพท์สักครู่นะครับ!” เย่เชียนลุกขึ้นยืนขณะที่เขาพูดและเดินออกไปโทรหาแจ็คและขอให้แจ็คนำกริชแห่งเพลิงมาให้เขา
แจ็คก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอส! ..ถ้าผมเอาไปให้บอสตอนนี้มันจะส่งผลต่อชื่อเสียงของบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดของเรานะ!”
“ไม่เป็นไรๆ ..เชื่อฉันสิ..ฉันรับปากเลยว่ามันจะต้องมีกริชแห่งเพลิงอยู่ในการประมูลในอีกสามวันข้างหน้า!” เย่เชียนนั้นเข้าใจถึงความคิดของแจ็คได้เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องเงินแต่อย่างใดและมีแต่มิตรภาพล้วนๆ เท่านั้น
เนื่องจากเย่เชียนพูดแบบนั้นออกมาแล้วแจ็คก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคัดค้านอีกต่อไป เพราะเขาอยู่กับเย่เชียนมานานแล้วและเขาก็รู้จักและเข้าใจดีว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้โง่ขนาดที่จะทำสิ่งต่างๆ เช่นการทำลายสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมา และยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนที่รับปากแล้วว่าจะนำกริชแห่งเพลิงมาคืนในอีกสามวันเช่นนั้นซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
หลังจากนั้นแจ็คก็ได้แอบไปที่ลานการประมูลและนำกริชแห่งเพลิงออกมาจากตู้เซฟและหลังจากนั้นก็ขับรถไปหาเย่เชียนโดยไม่ลังเลใดๆ
หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้วเย่เชียนก็เดินกลับไปที่บ้านของกงห่าวและหลังจากนั้นเขาก็นั่งลงและก็พยักหน้าเล็กน้อยให้กงห่าวและพูดว่า “ผมส่งคนไปแล้ว..เดี๋ยวเขาจะมาเร็วๆ นี้แหละ”
กงห่าวก็ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะและถามด้วยความประหลาดใจว่า “เดี๋ยวนะ..กริชแห่งเพลิงนั้นเป็นของเอ็งหรือ? ..แล้วทำไมเอ็งถึงต้องนำมันไปประมูลล่ะ?” เห็นได้ชัดว่ากงห่าวไม่คาดคิดว่าเย่เชียนจะมีอำนาจและอิทธิพลมากถึงขนาดนี้เพราะเดิมทีเขาคิดว่าเย่เชียนเป็นแค่คนหนุ่มสาวที่เอาแต่ใจตัวเองเช่นเดียวกับพ่อค้าของเก่าคนอื่นๆ ที่มักจะเอาสมบัติของเขาไปหลอกประมูลเพื่อทำกำไรจากนั้นก็ขอให้กงห่าวเลียนแบบของเหล่านั้นและด้วยวิธีนี้
ซึ่งเย่เชียนเองก็สังเกตเห็นความโกรธเกรี้ยวบนใบหน้าของกงห่าวอย่างชัดเจนและเดาได้คร่าวๆ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเย่เชียนจึงพูดอย่างเร่งรีบว่า “อาจารย์กงอย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด..กริชแห่งเพลงมันไม่ใช่ของผม..คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ดูแลการประมูลครั้งนี้น่ะเป็นคนจากบริษัทของเรา..เพราะงั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะนำมันมาเลย” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “อาจารย์กงมั่นใจได้เลย..ตราบใดที่ของเลียนแบบที่คุณทำผ่านการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินราคาโบราณล่ะก็..ผมจะจัดการทุกอย่างให้เอง”
กงห่าวถึงกับประหลาดใจและยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่เข้าใจความหมายของเย่เชียนเลย ซึ่งเพราะเหตุใดทำไมเย่เชียนถึงต้องการสร้างของเลียนแบบขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าเย่เชียนนั้นมีแผนของตัวเองเพราะเขาสามารถชนะการประมูลได้อย่างง่ายดาย..แต่ด้วยวิธีนี้มันก็จะให้ผู้คนจับตามองเขาซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย แต่มันจะแตกต่างกันออกไปเพราะถ้าหากเราแทนที่ของจริงด้วยของปลอมล่ะก็เราก็ไม่จำเป็นต้องคอยปกป้องและเก็บรักษามันเอาไว้เลยและเราก็สามารถปล่อยให้มันถูกขโมยไปได้และหลังจากนั้นเราก็จะสามารถเก็บของจริงเอาไว้ได้อย่างสง่างามและสายตาทุกๆ สายตาต่างก็จับจ้องไปที่หัวขโมยแทน
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างกริชแห่งเพลิงปลอมขึ้นมาให้เหมือนกันทุกประการและหลังจากนั้นพ่อค้าของโบราณและผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นก็จะมาตัดสินว่ากริชแห่งเพลิงของปลอมนั้นมันคือของจริงและจะไม่มีใครรู้ได้เลยว่ากริชแห่งเพลงของจริงมันไปอยู่ที่ไหน



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน