ตอนที่ 407 ปิดล้อมถ้ำเสือ
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้อู๋หยางเฉิงก็รู้ว่าเขาไม่สามารถไปข้างนอกได้แล้วในวันนี้และเขาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องเหล่านี้ซึ่งทำให้เขาสับสนอย่างมากเพราะถ้าหากเป็นหวังปิงล่ะก็เขาจะไม่ใช้วิธีนี้เพื่อจัดการกับตัวเองเป็นแน่ แต่นอกเหนือจากหวังปิงแล้วอู๋หยางเฉิงก็คิดไม่ออกว่าจะมีใครอีกที่ทำเช่นนี้ได้
ในความเห็นของอู๋หยางเฉิงนั้นนับตั้งแต่การเสียชีวิตของอู๋หยางเทียนหมิงลูกชายของเขานั้นเขาก็ได้แสร้งทำเป็นว่าตัวเองนั้นน่าสงสารมากจนเย่เชียนไม่ได้จัดการกับเขาและมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เย่เชียนคิดที่จะจัดการกับเขาเพราะไม่เช่นนั้นเย่เชียนก็คงจะจัดการอู๋หยางเทียนฉิงที่ประตูมหาวิทยาลัยตอนนั้นไปแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นนอกจากนี้ก็ยังมีคนจำนวนมากที่อาซูกะจากนากาจิมะระดมพลมาเพื่อสังหารเย่เชียนดังนั้นอู๋หยางเฉิงจึงไม่เชื่อว่าเย่เชียนจะยังมีชีวิตอยู่ได้
ท้ายที่สุดแล้วอู๋หยางเฉิงก็ไม่ใช่อาซูกะนากาจิมะเขาจึงยังรู้เกี่ยวกับเย่เชียนน้อยเกินไป
หลังจากตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวแล้วอู๋หยางเฉิงก็หันหลังกลับเข้าไปในบ้านอย่างไม่เต็มใจ
แน่นอนว่าสถานการณ์ทั้งหมดนี้ถูกจัดเตรียมโดยแจ็คตั้งแต่แรกแล้วเพราะขาได้ส่งคนจำนวนมากไปปิดล้อมบ้านของอู๋หยางเฉิงเอาไว้ เพราะแจ็ครู้ดีว่าอู๋หยางเฉิงจะโทรแจ้งตำรวจในเมืองเซี่ยงไฮ้ ดังนั้นแจ็คจึงโทรไปหาหลี่ฮ่าวและหวังปิงก่อนหน้านี้เพื่อขอให้พวกเขาร่วมมือด้วย ดังนั้นเมื่ออู๋หยางเฉิงติดต่อหลี่ฮ่าวและบอกให้เขาส่งคนมาช่วยนั้นหลี่ฮ่าวจึงตอบสนองกลับไปเช่นนั้น เพราะแน่นอนว่าเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหวังปิงอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงอยู่ฝ่ายเดียวกับหวังปิง
แม้ว่าหวังปิงจะเป็นถึงผู้ว่าการเทศบาลเมืองก็ตามแต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนเดียวในเซี่ยงไฮ้ที่มีอำนาจ เพราะอู๋หยางเฉิงนั้นก็เป็นเหมือนหนามยอกอกในใจของหวังปิงมาตลอดและยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีผู้สนับสนุนที่ทรงอำนาจอยู่เบื้องหลังอู๋หยางเฉิงและมีอิทธิพลอย่างมาก แต่ทว่าหวังปิงก็ไร้พลังเช่นนี้ แต่ทว่าตอนนี้เขามีโอกาสดีๆ เช่นนี้แล้วหวังปิงจึงมีความสุขอย่างมาก
ซึ่งเย่เชียนเองก็โทรไปหาหวังปิงเช่นกันซึ่งหวังปิงเองก็รู้จักบุคลิกของเย่เชียนดีและเนื่องจากเขากำลังจะทำศึกใหญ่ขนาดนี้นั่นก็หมายความว่าครั้งนี้เย่เชียนจะไม่ปล่อยอู๋หยางเฉิงไปอีก จากสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับเย่เชียนนั้นหวังปิงก็ไม่สงสัยเลยว่าครั้งนี้เย่เชียนจะมาในรูปแบบที่แท้จริง
เมื่ออู๋หยางเฉิงเสียชีวิตไปก็จะไม่มีใครในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ต่อต้านเขาอีกต่อไปและเขาก็จะรวมพรรคพวกของเขาในเมืองเซี่ยงไฮ้ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งตราบใดที่หวังปิงทำผลประโยชน์ทางการเมืองได้ดีโดยอาศัยความสัมพันธ์เช่นนี้ล่ะก็เขาก็เชื่อว่าหลังจากการพิจารณาตำแหน่งทางการเมืองอีกครั้งล่ะก็เขาก็อาจจะถูกย้ายไปยังรัฐบาลกลางและหลังจากนั้นเขาก็ถือได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจที่ผง่าผ่าเฉยอย่างแท้จริง
เจ้าหน้าที่รัฐที่เที่ยงธรรมนั้นจะต้องทำประโยชน์ให้กับประชาชนและบ้านเมืองและเขาก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งนั่นเอง และมันก็เหมือนกับเป็นผู้ชายเพราะสิ่งที่เราต้องการคือทุกสิ่งและมันก็ต้องเผชิญกับทุกสิ่ง
การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของเย่เชียนในครั้งนี้แน่นอนว่าเขาไม่สามารถซ่อนมันจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่อยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ได้เลย แต่ทว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ไม่ได้แยแสอะไรเลยเพราะสิ่งที่เขาต้องการก็คือการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เพราะเมื่อเย่เชียนช่วยกวาดล้างคนพวกนี้ออกไปได้มันก็จะทำให้เขาทำอะไรได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้วคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็จะทำสิ่งต่างๆ ในเมืองเซี่ยงไฮ้ได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามก็มีแค่จู้จือและเซียวหวันเท่านั้นเพราะถ้าหากมีคนเคลื่อนไหวมากเกินไปมันก็ไม่มีทางจัดการกับพวกเขาได้เพราะพวกเขาจะรู้ตัวเสียก่อน
ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาตินั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็รู้จักเครือข่ายของเจ้าหน้าที่เหล่านี้เป็นอย่างดีและเขาก็รู้จักบุคคลที่อยู่เบื้องหลังอู๋หยางเฉิงด้วย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากเราต้องการพูดถึงเจ้าหน้าที่ที่ซื่อสัตย์และเที่ยงธรรมล่ะก็บางทีหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็อาจเป็นเจ้าหน้าที่ที่ซื่อสัตย์และเที่ยงธรรมที่สุดจริงๆ เพราะทุกสิ่งที่เขาทำไปนั้นก็เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติล้วนๆ โดยไม่มีความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ยกตัวอย่างเช่นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นดีกับเย่เชียนอย่างมากแต่ทว่ามันก็ไม่ใช่แค่เพราะเขาที่ชื่นชมเย่เชียนเป็นการส่วนตัวแต่มันเพราะเขารู้ว่เย่เชียนจะสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้มากแค่ไหน และถึงแม้ว่าจะมีองค์ประกอบของการใช้ประโยชน์จากคนเหล่านี้อยู่ก็ตามแต่ถ้าให้พูดจริงๆ ล่ะก็ถึงยังไงก็ไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ดีและประโยชน์ของเย่เชียน
หากสิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่เย่เชียนพูดจริงๆ ล่ะก็อู๋หยางเฉิงก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดซึ่งกันและนั่นก็หมายความว่าอู๋หยางเฉิงเป็นกบฏ ซึ่งถ้าหากอู๋หยางเฉิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ ล่ะสิ่งต่างๆ ก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นอย่างมาก ดังนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจึงจำเป็นที่จะต้องรู้เรื่องราวและสถานการณ์ทั้งหมดจากปากของอู๋หยางเฉิงเอง และถ้าหากทุกอย่างเป็นความจริงล่ะก็เขาจะต้องรายงานทางการโดยเร็วที่สุดและแก้ไขมันทันที เพราะเขานั้นไม่รู้เลยว่าอู๋หยางเฉิงจะขายความลับของรัฐและประเทศชาติไปมากแค่ไหน
ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแต่ถึงยังไงมันก็เหมือนเดิมอยู่ดีเพราะเมื่อถึงเวลาอาหารค่ำหวังหูก็ได้สั่งให้ลูกน้องสองสามคนให้ขับรถไปซื้ออาหารจานด่วนจำนวนมากมา เพราะการกระทำที่รอบคอบเช่นนี้นั้นมันจะส่งผลทำให้เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชารู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้ติดตามเจ้านายผิดคนเลย
หลังจากออกจากบ้านของซ่งหลันได้ไม่นานเย่เชียนก็ขับรถไปที่บ้านของอู๋หยางเฉิงและหลังจากที่ไปถึงแล้วแจ็คและหวังหูก็รีบทักทายเขา “ไม่มีใครออกมาเลยใช่มั้ย?” เย่เชียนถามหลังจากลงจากรถ
“ไม่ต้องกังวลไปพี่สอง..ต่อให้พวกนั้นบินไปถึงยังไงก็ออกไปไม่ได้อยู่ดี” หวังหูพูดอย่างมั่นใจ
เย่เชียนก็พยักหน้าเบาๆ เดินไปที่หน้าประตูเหล็กขนาดใหญ่ของบ้านอู๋หยางเฉิง “ทำความเคารพพี่สอง!” หวังหูตะโกนใส่เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา
“ครับพี่สอง!” ทุกคนตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันจนเสียงสั่นสะท้านไปทั่วท้องฟ้า ซึ่งมันเหมือนกับคำสั่งของนายพลยุคโบราณและเหล่าทหารทุกคนก็ตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกันซึ่งมันค่อนข้างเหมือนกองทัพที่ยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณ
“พี่น้องทุกคนเหนื่อยกันหน่อยนะ” เย่เชียนก็พยักหน้าเบาๆ และพูดว่า “ทุกคนเตรียมพร้อมกันเข้าไว้..เมื่อเรื่องต่างๆ ในคืนนี้จบลง..ฉันจะให้ไอ้เสือพาทุกคนไปเลี้ยง”
“ขอบคุณครับพี่สอง!” กลุ่มมาเฟียรุ่นเยาว์ต่างก็ตื่นเต้นกันอย่างมาก เพราะในที่สุดพวกเขาก็ได้ลงพื้นที่เพื่อทำสิ่งต่างๆ และมีความสุขกันอย่างมากในคืนนี้



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน