เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 417

ตอนที่ 417 แบล็กเมล์

ในความเป็นจริงเย่เชียนก็ไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์เช่นนั้นเหมือนกันเพราะแผนก่อนหน้านี้ของเขานั้นก็คือการติดตามเฟิงกั๋วฟู่ไปที่กวางตุ้งและหลังจากนั้นก็เริ่มทำตามแผนของเขา อย่างไรก็ตามเฟิงกั๋วฟู่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีความอดทนเลยแม้แต่น้อยและต้องการที่จะคุกคามเย่เชียนเพื่อหาโอกาสเข้าหาและครอบครองหลินโรวโร่ว ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางที่เย่เชียนจะไม่เห็นและไม่รับรู้ถึงกลอุบายจนเขาไปตกหลุมพรางของเฟิงกั๋วฟู่เช่นนั้นหรอกใช่ไหม ถ้าไม่งั้นแล้วทำไมเย่เชียนถึงต้องทำเช่นนี้?

เฟิงกั๋วฟู่ในฐานะผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีนนั้นไม่ใช่ตำแหน่งที่ไร้ประโยชน์และไม่มีอำนาจแต่อย่างใดซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะเข้าไปพัวพันกับองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสีขาวหรือสีดำ ซึ่งเขาเองก็มั่นใจอย่างมากด้วยสถานะปัจจุบันของเขานั้นสำหรับการฆ่าใครสักคนมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเขาเลย แต่ทว่าน่าเสียดายที่เฟิงกั๋วฟู่นั้นเลือกที่จะท้าทายผิดคนเพราะในสายตาของเย่เชียนแล้วเฟิงกั๋วฟู่นั้นก็เป็นแค่เจ้าของร้านอาหารเล็กๆ ที่ไม่สามารถรับมือกับเขาได้เลยแม้แต่น้อย

ความจริงก็คือเฟิงกั๋วฟู่นั้นเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารแต่ทว่าในสายตาของเย่เชียนแล้วเฟิงกั๋วฟู่ก็เป็นเพียงแค่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารที่อายุมากกว่าเขาก็แค่นั้น

เมื่อเห็นท่าทางที่ดูโกรธเกรี้ยวของเฟิงกั๋วฟู่แล้วเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “หัวหน้าเฟิง..ให้ผมบอกอะไรกับคุณหน่อยก็แล้วกัน..เท่าที่ผมรู้มาน่ะคุณไม่มีอะไรในเมืองเซี่ยงไฮ้เลยไม่ใช่เหรอ? ..แล้วคุณไม่รู้จักชื่อเสียงของผมในเมืองเซี่ยงไฮ้บ้างเลยเหรอ?”

เฟิงกั๋วฟู่ก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะและเขาก็ขมวดคิ้วแน่นและเริ่มคิดในใจว่าคำพูดของเย่เชียนนั้นค่อนข้างชัดเจนเพราะเป็นความจริงที่ว่าบุคคลที่มีชื่อว่าเย่เชียนนั้นเขามีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฟิงกั๋วฟู่ก็ตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์และในทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่ามีบุคคลทรงอำนาจอยู่คนหนึ่งที่มีชื่อว่าเย่เชียนที่เป็นประธานของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปที่สามารถรวมสามองค์กรยักษ์ใหญ่แห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ให้เป็นหนึ่งเดียวได้

“คุณ..คุณคือประธานของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปหรือเปล่า?” เฟิงกั๋วฟู่พูดด้วยความประหลาดใจและประหม่าอย่างมาก

“คุณเพิ่งจะรู้ตัวเหรอ?” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “คุณนี่มันโง่จริงๆ ..ใครๆ ก็รู้ว่ากองทุนแห่งอนาคตน่ะเป็นของเครือน่านฟ้ากรุ๊ป..แค่นั้นยังไม่พอคุณยังกล้าที่จะคุกคามแฟนของผมอีก! ..คุณทำแบบนี้เหมือนคุณกำลังมองหาความตายเลยใช่หรือเปล่า?”

เฟิงกั๋วฟู่ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไปทั้งตัวเพราะถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารอันดับหนึ่งของประเทศจีนก็ตามแต่เมื่อเทียบกับประธานของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปแล้วเขาก็ไม่สามารถเทียบได้เลยแม้แต่น้อยและยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนคนนี้เป็นคนที่สามารถพิชิตแก๊งชิงและหงเหมินกรุ๊ปและสยบตงเซียงกรุ๊ปได้นั้นซึ่งสิ่งนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้เป็นแค่ประธานของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าบุคคลเช่นนี้แล้วตัวเองยังกล้าไปโอ้อวดว่าจะไปฆ่าเขาแบบนี้มันก็เหมือนกับเรื่องตลกเลยไม่ใช่เหรอ? ซึ่งมันเหมือนกับว่าเย่เชียนนั้นสามารถบดขยี้ตัวเองให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวใช่ไหม?

ในขณะนี้ขาของเฟิงกั๋วฟู่ก็อ่อนแรงลงและเขาก็คุกเข่าลงและขอร้องอ้อนวอนว่า “ตอนแรกฉันไม่รู้จักคุณจริงๆ ..ได้โปรดอย่าขุ่นเคืองฉันเลย..โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย!”

เย่เชียนก็เดินไปที่เตียงอย่างช้าๆ และนั่งลงและมองไปที่หน้าของกล้องวงจรปิดและกดปิดหน้าจอลง หลังจากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “หัวหน้าเฟิง..การที่คุณวางแผนและทำการใหญ่แบบนี้ถ้าผมไม่ระวังให้ดีกว่านี้ล่ะก็ผมคงจะถูกคุณคุกคามไปแล้ว..ผมรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่คุณทำแบบนี้”

เฟิงกั๋วฟู่ก็สาปแช่งในใจอย่างลับๆ ว่าเย่เชียนเองไม่ใช่เหรอที่วางแผนซ้อนแผนตั้งแต่เริ่มต้นและปล่อยให้ตัวเองตกหลุมพรางของเขาและตอนนี้เขากลับมาบอกว่าตัวเองเป็นคนทำร้ายเขาเช่นนี้ อย่างไรก็ตามเฟิงกั๋วฟู่ก็ทำได้แค่อย่างลับๆ เพราะเมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเย่เชียนแล้วเฟิงกั๋วฟู่ก็ไม่กล้าที่จะขัดขืนหรือหยิ่งผยองใดๆ เลยแม้แต่น้อย และถึงแม้ว่าเขาจะไม่สบอารมณ์มากแค่ไหนก็ตามแต่เขาก็ไม่ได้โง่ที่จะต่อต้านเย่เชียนในตอนนี้เพราะนั่นมันคือการแสวงหาความตายใช่หรือไม่? เฟิงกั๋วฟู่ก็พูดด้วยรอยยิ้มที่น่าสมเพชว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณเย่ต้องการให้ฉันชดเชยยังไง..โปรดบอกฉันมาได้เลย..ฉันจะไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย”

“ถ้าผมต้องการถือครองทรัพย์สินทั้งหมดของคุณล่ะ?” เย่เชียนพูด

เฟิงกั๋วฟู่ก็ถึงกับผงะไป นี่เป็นการฆ่ากันทางอ้อมชัดๆ? นี่มันไม่ใช่การปล้นเหรอ? “คือ..คือ” เฟิงกั๋วฟู่ก็ลังเล เพราะมีใครบ้างที่ไม่กลัวความตาย? ซึ่งอาจจะมีแต่นั่นไม่ใช่เฟิงกั๋วฟู่คนนี้อย่างแน่นอนเพราะคนอย่างเขาไม่อยากตายเพราะเขายังมีเวลาอีกมากที่จะสนุกและใช้ชีวิตตามที่เขาปรารถนา

เย่เชียนก็ไม่ได้จะโหดเหี้ยมอย่างแน่นอนถึงแม้ว่าเฟิงกั๋วฟู่จะเกลียดเขาแต่เฟิงกั๋วฟู่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการทำร้ายเขา หลังจากนั้นเย่เชียนก็หยิบซองเอกสารออกมาจากเสื้อของเขาและยื่นให้โดยพูดว่า “นี่คือเอกสารการโอนทรัพย์สิน..คุณเซ็นซะ..ผมไม่ได้จะยึดเอาไว้ทั้งหมด..ผมแค่ต้องการให้คุณแบ่งที่ดินในเมืองเซินเจิ้นให้ผม”

เป้าหมายของเย่เชียนในตอนแรกก็คือการใช้เฟิงกั๋วฟู่เพื่อขยายกองกำลังของเขี้ยวหมาป่าที่นั่น ซึ่งเย่เชียนก็ไม่ได้สนใจอุตสาหกรรมอาหารของเฟิงกั๋วฟู่มากนักแต่เย่เชียนนั้นสนใจเกี่ยวกับที่ดินของเขาในเมืองเซินเจิ้นอย่างมาก เพราะเมื่อไหร่ที่เย่เชียนมีสถานที่ในเมืองเซินเจิ้นแล้วเขาก็จะสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการและย้ายกำลังพลไปที่นั่นแล้วเริ่มพัฒนา

เฟิงกั๋วฟู่ก็สั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะที่ดินเหล่านั้นในเมืองเซินเจิ้นนั้นมีมูลค่าหลายสิบล้านหยวนซึ่งก็เคยมีนักลงทุนตั้งหลายคนที่ต้องการซื้อมันจากเขาแต่เขาก็ไม่ยินยอมแต่ทว่าในตอนนี้เขากลับต้องมอบมันให้กับเย่เชียยโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้เขาจึงไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับชีวิตของเขาแล้วเงินหลายสิบล้านหยวนนั้นมันก็ไม่สามารถที่จะไปแลกกับชีวิตได้และตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่เขาก็สามารถหาเงินเหล่านั้นได้อีกหลายสิบล้านและยิ่งไปกว่านั้นแค่เครือร้านอาหารของเขาเองและทรัพย์สินของเขานั้นก็เพียงพอที่จะกินและดื่มไปชั่วชีวิตแล้ว

“อย่าคิดว่าผมข่มขู่รีดไถคุณเลย..เพราะผมน่ะเชื่อว่าหัวหน้าเฟิงเป็นคนฉลาดและรู้จักวิธีเลือกสิ่งที่เหมาะสม..เพราะถึงยังไงคุณก็สามารถได้เรื่อยๆ ..แต่ถ้าคุณตายไปคุณก็จะไม่มีโอกาสได้ใช้เงินหรอกใช่ไหม?” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณไม่มั่นใจคุณก็สามารถมาหาผมอีกครั้งเพื่อมาแก้แค้น..แต่ขอเตือนเอาไว้ก่อนนะว่าหลังจากที่คุณออกจากที่นี่ไปแล้วคุณต้องชั่งน้ำหนักความสามารถของคุณก่อนถ้าคุณคิดจะทำอะไร..เรายังมีโอกาสที่จะร่วมมือกันอยู่นะ..หลังจากทำสิ่งต่างๆ ในมณฑลกวางตุ้งแล้วผมกับคุณก็จะร่วมมือกัน..เรามาเสี่ยงโชคกันดีกว่า”

ซึ่งเย่เชียนนั้นก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินหรืออะไรใดๆ เลยแม้แต่น้อยเพราะเขามีเงินเพียงพอที่จะใช้จ่ายได้ไม่รู้กี่ชั่วอายุคน ซึ่งเงินนั้นก็มีเอาไว้เพื่อเขี้ยวหมาป่าเพื่อช่วยเขี้ยวหมาป่าวางรากฐานที่มั่นคงและไม่สามารถทำลายได้ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นศัตรูกับผู้นำและเบื้องบนของจีนล่ะก็ในเวลานั้นเย่เชียนก็จะมีข้อต่อรองที่ดีนั่นเอง

“ถ้าคุณเย่ต้องการอะไรในอนาคตคุณก็บอกฉันมาได้เลย..ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่” หลังจากเฟิงกั๋วฟู่พูดจบเขาก็เซ็นเอกสารโดยไม่ลังเลใดๆ ซึ่งสถานะของเฟิงกั๋วฟู่ในวันนี้นั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคแต่เป็นวิธีการและความทะเยอทะยานที่จะกล้าเสี่ยงโชค เพราะเขารู้ดีว่าเงินหลายสิบล้านหยวนนั้นก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นแต่ถ้าเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเย่เชียนได้จริงๆ ล่ะก็นับประสาอะไรกับเงินหลายสิบล้านหยวนเพราะมันอาจจะเป็นหลายร้อยล้านก็เป็นได้

ตอนที่ 417 แบล็กเมล์ 1

ตอนที่ 417 แบล็กเมล์ 2

ตอนที่ 417 แบล็กเมล์ 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน