ตอนที่ 491 การตัดสินใจที่ผิดพลาด
หลังจากฟังคำพูดของเย่เชียนแล้วสลาดาร์อาร์ตันก็เกลียดเหล่าผู้นำขององค์กรมากยิ่งขึ้นเพราะถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาล่ะก็สลาดาร์อาร์ตันก็คงจะไม่ถูกลากเข้าไปพัวพันกับเรื่องพวกนี้และถ้าหากพวกเขาส่งคนมาช่วยล่ะก็เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ซึ่งตอนนี้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์กลับมีกองกำลังที่ทรงพลังอย่างยิ่งมาช่วยถึงสองกลุ่มและนั่นก็คือองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและองค์กรนักฆ่าเซเว่นคิลดังนั้นเขาจะเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายได้อย่างไร
คนที่อยู่ในวงการเช่นนี้มีหรือจะไม่รู้จักองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและองค์กรนักฆ่าเซเว่นคิล? และจะมีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าสององค์กรนี้มีพลังและอำนาจขนาดไหน ซึ่งอีกองค์กรคือราชาแห่งโลกทหารรับจ้างและอีกองค์กรคือตำนานแห่งโลกนักฆ่าดังนั้นการร่วมมือของพวกเขาในครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีเลยก็ว่าได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นสลาดาร์อาร์ตันก็นึกไม่ออกเลยว่าเมื่อสององค์กรดังกล่าวร่วมมือกันแล้วจะมีใครที่สามารถเผชิญหน้ากับพวกเขาได้? ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเมื่อทั้งองค์กรผนึกกำลังกันเช่นนี้และต่อให้หากเป็นบุคลากรขององค์กรใดองค์กรหนึ่งออกมาแค่กลุ่มเล็กๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรับมือได้ ไม่เช่นนั้นหน่วยงานระดับนานาชาติในหลายๆ ประเทศและหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติที่ใช้เวลาหลายปีในการตามล่าพวกเขาเช่นนั้นแต่ถึงยังไงก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่ดี
สลาดาร์อาร์ตันก็เขียนเช็คเงินสดอีกฉบับและส่งให้เย่เชียนจากนั้นสลาดาร์อาร์ตันก็ถามว่า “แล้วการโจมตีของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ในคืนนี้เกี่ยวข้องกับสององค์กรนี้ด้วยหรือเปล่า? ”
สลาดาร์อาร์ตันตระหนักถึงอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ในค่ำคืนนี้และรู้แล้วว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์นั้นมีพลังมากขนาดนี้ได้อย่างไร เพราะนอกเหนือจากสององค์กรนี้แล้วในโลกในโลกใบนี้มันจะมีองค์กรที่ทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไรอีก? สลาดาร์อาร์ตันก็คิดว่าถ้าหากในคืนนี้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรเขี้ยวหมาป่าและองค์กรเซเว่นคิลจริงๆ ล่ะก็มันก็ไม่จำเป็นต้องให้เขาต่อต้านอีกต่อไปและเขาก็ควรจะหนีกลับไปโดยเร็วที่สุด เมื่อถึงเวลานั้นต่อให้ผู้นำขององค์กรมาถามเขาและตราบใดที่เขาอธิบายถึงสถานการณ์ดังกล่าวโดยพูดถึงองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและองค์กรนักฆ่าอย่างเซเว่นคิลไปล่ะก็เขาอาจจะไม่ถูกลงโทษเลยก็เป็นได้
“จะพูดแบบนั้นก็ได้” เย่เชียนพูดต่อ “ถึงแม้ว่าครั้งนี้เขี้ยวหมาป่าและเซเว่นคิลจะส่งคนมาก็ตามแต่เย่เชียนและหลินเฟิงผู้นำของทั้งสององค์กรก็ไม่ได้เข้าร่วมการโจมตีในครั้งนี้ด้วย”
ในเวลานี้สลาดาร์อาร์ตันก็ไม่มีความมั่นใจที่จะต่อสู้หรือต้านทานอีกต่อไปแล้วและถึงแม้ว่าผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและองค์กรนักฆ่าเซเว่นคิลอย่างเย่เชียนและหลินเฟิงจะไม่ได้เข้าร่วมก็ตามแต่ถ้าหากพวกเขาทั้งสองออกมาทั้งคู่ล่ะก็มันจะไม่มีโอกาสให้เขารอดเลย นอกจากนี้ทักษะการลอบสังหารอย่างเงียบๆ ขององค์กรเซเว่นคิลนั้นก็เป็นที่รู้จักกันดีและถ้าหากเขายังอยู่ที่นี่นานกว่านี้เขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองนั้นตายไปตอนไหน เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้สลาดาร์อาร์ตันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหน็บหนาวไปถึงสมองราวกับว่าถังน้ำแข็งกำลังวางอยู่บนหน้าผากของเขา
“แล้วราชาหมาป่าเย่เชียนกับตำนานนักฆ่าหลินเฟิงอยู่ที่ไหน?” สลาดาร์อาร์ตันถามอย่างประหม่า
“ข้อมูลนี้ราคามันสูงมาก! ..แต่ผมจะให้ส่วนลดคุณเหลือ 3.8 ล้านยูโรก็แล้วกัน” เย่เชียนพูด
‘มันโหดร้ายมาก!’ หลินเฟิงแอบตะโกนอย่างลับๆ ในใจ เพราะเพียงแค่พูดอย่างไม่เป็นทางการไม่กี่คำเย่เชียนก็สามารถทำเงินจากสลาดาร์อาร์ตันได้หลายล้านยูโรแล้วซึ่งมันเป็นเรื่องที่อุกอาจเกินไป อย่างไรก็ตามกุญแจสำคัญก็ยังคงเป็นเพราะสลาดาร์อาร์ตันสูญเสียสมาธิไปเพราะการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ในคืนนี้และมันเป็นเพราะเขาที่ต้องการรู้สิ่งต่างๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและยิ่งไปกว่านั้นสลาดาร์อาร์ตันก็คิดจริงๆ ว่าเย่เชียนนั้นถูกกำหนดให้ตายก่อนที่จะได้ใช้เงินของเขา
เย่เชียนก็หยิบเช็คเงินสดและยัดลงในกระเป๋าเสื้อของเขาอีกครั้งจากนั้นเขาก็ฉีกยิ้มและมองไปที่สลาดาร์อาร์ตันโดยไม่พูดอะไรสักคำ ซึ่งสลาดาร์อาร์ตันที่กำลังกระวนกระวายก็พูดด้วยความงุนงงเมื่อเห็นเย่เชียนเงียบไป “ทำไมไม่พูดล่ะว่าราชาหมาป่าเย่เชียนและนักฆ่าหลินเฟิงอยู่ที่ไหน? ”
“หือ..ผมไม่ได้พูดไปแล้วหรอกเหรอ..มิสเตอร์สลาดาร์อาร์ตันลืมไปแล้วหรอ?” เย่เชียนพูด
“คุณพูดเมื่อไหร่?” สลาดาร์อาร์ตันถามอย่างหดหู่ อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปชั่วครู่เขาก็ถึงกับผงะและมองไปที่เย่เชียนกับหลินเฟิงด้วยความประหลาดใจและพูดอย่างประหม่าว่า “คุณ…คุณเป็น? ”
“บิงโก! ..ขอแสดงความยินดีคุณคิดถูกแล้ว! ..แต่ผมไม่มีรางวัลให้หรอกนะ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและหลังจากพูดจบเขากับหลินเฟิงก็ขยับตัวอย่างรวดเร็วและเย่เชียนก็บีบคอของสลาดาร์อาร์ตันและแย่งปืนพกของสลาดาร์อาร์ตันมาแล้วจ่อเอาไว้บนหน้าผากของเขา
ในเวลาเดียวกันหลินเฟิงก็ทำสิ่งที่เขาถนัดโดยการใช้ฝ่ามือสับไปที่ท้ายทอยของเหล่ามาเฟียและปลดปืนของแต่ละคนอย่างรวดเร็วและหลังจากนั้นไม่นานมาเฟียทุกคนก็ลงไปนอนอยู่บนพื้น
เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจึงทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของสลาดาร์อาร์ตันไม่มีการเตรียมตัวเลยแม้แต่น้อยและยิ่งไปกว่านั้นทักษะของหลินเฟิงก็ยอดเยี่ยมอย่างมากโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักในการจัดการกับมาเฟียเพียงไม่กี่คนเช่นนี้เขาจึงทำได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเหล่ามาเฟียรอบๆ ได้ยินเสียงปืนพวกเขาจึงรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและเมื่อเห็นว่าสลาดาร์อาร์ตันถูกปืนจ่อหน้าผากอยู่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง “อย่าขยับ! ..วางปืนลง! ..ไม่งั้นหัวของเขาได้เป็นรูแน่!” เย่เชียนใช้นิ้วเกี่ยวไกปืนในมือและพูดกับคนของสลาดาร์อาร์ตัน
มาเฟียเหล่านั้นก็มองไปที่สลาดาร์อาร์ตันและทุกคนก็สูญเสียอาการไปจนหมด ซึ่งนี่ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เย่เชียนพูด “หูหนวกกันรึไงวะ! ..วางปืนของพวกแกลงให้หมด!” สลาดาร์อาร์ตันรีบตะโกนอย่างรวดเร็วและลูกน้องเหล่านั้นก็รีบโยนปืนในมือทิ้งไปทันที
“อย่านะ! ..อย่ายิง! ..ผมได้ทำทุกอย่างตามข้อกำหนดของคุณแล้ว” สลาดาร์อาร์ตันพูดอย่างประหม่า “พวกเราก็ไม่ได้มีความแค้นและความเกลียดชังต่อกันไม่ใช่หรอ..ตราบใดที่พวกคุณปล่อยผมไปผมจะทำตามสิ่งที่คุณขอทั้งหมด!”
“ถ้างั้นก็บอกมาสิว่าคุณจะรับปากกับผมยังไง” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มที่ขี้เล่น


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน