ตอนที่ 500 บุกโจมตีจิ้งจอกหิมะ
แท้ที่จริงแล้วทักษะลับไร้เงาของนักฆ่าจากองค์กรเซเว่นคิลนั้นเป็นสิ่งที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล ลับไร้เงาคืออะไร? นั่นคือการที่เหยื่อนั้นไม่รู้ว่าตัวเองตายเมื่อไหร่หรือตายอย่างไรนั่นเอง นักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลนั้นก็เปรียบเหมือนยมทูตจากนรกเพราะเขาปรากฏตัวต่อหน้าใครล่ะก็คนคนนั้นก็แทบจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตเลยและเขาคนนั้นก็จะต้องตายไปอย่างคาดไม่ถึง
และมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นดั่งตำนานและนั่นก็คือหลินเฟิง
ผู้คนต่างก็ลือกันว่าหลินเฟิงเป็นชายหนุ่มที่สืบเชื้อสายมาจากเทพบุตรแห่งดวงดาวทั้งเจ็ดที่มาพร้อมกับความอุตสาหะและทักษะที่น่าทึ่ง อย่างไรก็ตามมีอยู่เรื่องหนึ่งในใจของหลินเฟิงที่ไม่มีใครอาจรู้ได้ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นหนี้บุญคุณชาวญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นซึ่งความเมตตาในครั้งนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาไม่มีวันตอบแทนได้เลย
อาจจะไม่มีใครสังเกตเห็นแต่เรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในใจของผู้ชายคนนี้นั้นสามารถฉายผ่านสายตาที่เย็นชาของเขาได้ อย่างไรก็ตามมีเพียงเย่เชียนเท่านั้นสามารถมองเห็นได้จากดวงตาของหลินเฟิงว่ามีความเศร้าโศกภายในดวงตาของชายคนนี้แม้ในขณะที่เขากำลังยิ้มเขาก็ไม่สามารถปกปิดความเศร้าโศกจางๆ ได้เลย
เย่เชียนนั้นก็ถือว่าเป็นคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชนมาเหมือนกันดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นความโศกเศร้าภายในดวงตาของหลินเฟิงได้และนั้นก็เป็นเพราะความรู้สึกและความเสียใจและความรู้สึกผิดในความคับแค้นใจที่มันจางหายไปตลอดกาล อย่างไรก็ตามเนื่องจากหลินเฟิงไม่ได้พูดอะไรเย่เชียนจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องถาม
“นายไม่ต้องการให้คนของฉันโจมตีก่อนใช่ไหม?” หลินเฟิงถาม มันไม่มีความขุ่นเคืองอะไรใดๆ ในคำพูดเลยเพราะถ้าเย่เชียนขอให้เขาทำเช่นนี้จริงๆ เขาก็จะเห็นด้วยและยินดี
เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “เปล่าผมแค่ถามเฉยๆ ..ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับทักษะลับไร้เงาอันทรงพลังขององค์กรเซเว่นคิล..แต่ผมไม่เคยเห็นมันด้วยตาของผมเองเลย..ผมก็เลยอยากรู้น่ะฮ่าๆ!”
หลินเฟิงก็เหลือบมองเย่เชียนด้วยหางตาแล้วพูดว่า “มันไม่ได้ลับไร้เงาเหมือนชื่อหรอก..เดี๋ยวนายก็ได้เห็นมันเองแต่อย่าตกใจล่ะ! ..ว่าแต่การโจมตีจะเริ่มเมื่อไหร่? ”
เย่เชียนก็ยกมือขึ้นเพื่อตรวจสอบเวลาบนนาฬิกาข้อมือและพูดว่า “ไม่ต้องรีบ..อีกสักพัก”
เย่เชียนและหลินเฟิงนั้นดูผ่อนคลายมากแต่พวกเขาก็ยังกังวลเล็กน้อยเพราะท้ายที่สุดการต่อสู้ครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและกับองค์กรนักฆ่าเซเว่นคิลและถ้าหากพวกเขาล้มเหลวล่ะก็มันจะเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างมาก ซึ่งเหล่ามาเฟียคูลอฟส์เองก็วิตกกังวลเช่นกันเพราะพวกเขาอยู่ในเมืองมูร์มันสค์มาหลายปีแล้วพวกเขาจึงรู้จักชื่อเสียงขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเป็นอย่างดีและถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องสถานการณ์ของจิ้งจอกหิมะก็ตามแต่ชื่อเสียงของพวกเขานั้นก็ชัดเจนมาก ขนาดพวกเขาที่เคยยิงกราดกลางเมืองก่อคดีฆาตกรรมและวางเพลิงอยู่บ่อยครั้งก็ตามแต่พวกเขาก็หวั่นเกรงเมื่อเผชิญหน้ากับเหล่าทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ
“ทุกอย่างพร้อมแล้ว! ..โปรดรอคำสั่งของผม..เราจะทำการโจมตีพร้อมกันโดนการโจมตีจากทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกและทิศใต้นั้นคือการโจมตีหลอกล่อ..ย้ำ! ..ทั้งสามทิศนี้คือการโจมตีหลอกล่อ..ส่วนทางทิศเหนือคือการโจมตีหลัก! ..จิวเหว่ยคุณสแตนด์บายแล้วรอคำสั่งของผม!” เย่เชียนออกคำสั่งผ่านวิทยุคลื่นสั้นเฉพาะ จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่หลินเฟิงและพูดว่า “พี่หลินบอกให้คนของพี่เตรียมพร้อม..จากนี้ไปนักฆ่าของเซเว่นคิลจะร่วมมือกับพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของผมเพื่อบุกโจมตีวงใน!”
หลินเฟิงพยักหน้าจากนั้นถ่ายทอดคำสั่งของเย่เชียนให้แก่เหล่านักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิล
เวลาประมาณตีหนึ่งสภาพอากาศในมูร์มันสค์นั้นหนาวเหน็บจนทุกคนอดไม่ได้ที่จะลูบคลำเสื้อผ้าของตัวเอง หลังจากรอมานานกว่าสองชั่วโมงมือและเท้าของพวกเขาก็เหน็บชากัน แต่ทว่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าและเหล่านักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลนั้นไม่เป็นอะไรเพราะพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด ดังนั้นความอดทนของพวกเขาจึงค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามมาเฟียเหล่านั้นก็ไม่สามารถอดทนกันได้
อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณของเหล่ามาเฟียนั้นก็ชัดเจนสำหรับทุกคนเพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องทนกับสภาพอากาศเช่นนี้แต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะถอนตัวเลยแม้แต่น้อย
ไฟในฐานปฏิบัติการขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็ค่อยๆ ดับลงและเหลือเพียงไฟจากถนนซึ่งไฟสปอตไลต์เฝ้าระวังก็เข้าสู่สภาวะดับนิ่งและมีเพียงทหารรับจ้างที่ลาดตระเวนบางส่วนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ จากนั้นเย่เชียนก็ยกมือขึ้นและดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือแล้วเขาก็รู้สึกว่ามันใกล้จะถึงเวลาแล้วเขาจึงพูดใส่วิทยุว่า “เตรียมพร้อม! ..โจมตีได้!”
ตามคำสั่งของเปิดการโจมตีอย่างเป็นทางการของเย่เชียนก็ทำให้จรวดจากเครื่องยิงจรวดจำนวนนับไม่ถ้วนโหมกระหน่ำมาจากทุกทิศทางและพุ่งตรงไปยังฐานปฏิบิตการขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะและภายในช่วงเวลาสั้นๆ ฐานปฏิบัติการทั้งหมดของจิ้งจอกหิมะก็ถูกไฟไหม้ดั่งทะเลเพลิง ซึ่งสมาชิกจิ้งจอกหิมะที่หลับกันอยู่ก็ต้องตื่นขึ้นมาด้วยเสียงระเบิดของจรวดทันที ซึ่งในฐานะทหารมืออาชีพนั้นปฏิกิริยาแรกของพวกเขาคือต้องมีคนโจมตีพวกเขาอย่างแน่นอนดังนั้นพวกเขาจึงรีบหยิบปืนขึ้นมาและเดินออกจากห้องไปทีละคนๆ
เบอร์นาร์ดสกี้เองก็เดินออกจากห้องด้วยความตื่นตระหนกและเหลือบมองไปที่ทะเลเพลิงในฐานปฏิบัติการของตัวเองและดวงตาของเขาก็เป็นประกายด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามนี่ก็ไม่ใช่เวลาที่จะโกรธอย่างไร้เหตุผล เมื่อคิดเช่นนั้นเบอร์นาร์ดสกี้ก็จัดระเบียบเหล่าทหารรับจ้างเพื่อดับไฟในขณะที่ส่งคนบางส่วนไปปกป้องคลังแสงและในขณะเดียวกันพวกเขาก็เริ่มตอบโต้เหล่ามาเฟียของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์
ถึงแม้ว่าค่ำคืนนี้จะไม่มีดวงดาวและดวงจันทร์บนท้องฟ้าก็ตามแต่เนื่องจากแสงของไฟที่ลุกลามดั่งทะเลเพลิงนั้นก็ทำให้เกิดเงาสะท้อนของเย่เชียนและคนอื่นๆ จำนวนนับไม่ถ้วนจนเบอร์นาร์ดสกี้ถึงกับสะดุ้งอย่างช่วยไม่ได้เพราะปรากฎว่าเขาถูกศัตรูล้อมรอบเอาไว้และเขาก็ไม่เข้าใจว่าใครที่กล้าท้าทายองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ
พวกนี้คือมาเฟียของคูลอฟส์อังเดรหรือเปล่า? นี่เป็นความคิดแรกของเบอร์นาร์ดสกี้เพราะทันทีที่เขาร่วมมือกับคูลอฟส์อาสเชฟเขาก็ถูกโจมตีอย่างรวดเร็วเว้นแต่ว่ามันจะเป็นศัตรูของคูลอฟส์อาสเชฟที่ทำเช่นนี้ แต่พอคิดไปคิดมาเบอร์นาร์ดสกี้ก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าคนเหล่านี้จะเป็นใครไปได้
นับตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะขึ้นมานั้นงานและภารกิจส่วนใหญ่ที่ทำก็คือการช่วยเหลือกองกำลังของรัฐบาลรัสเซียในการปราบปรามองค์กรก่อการร้ายหรือประเทศอื่นๆ และส่วนที่เหลือก็เป็นงานที่มีลักษณะป้องกันและคุ้มกันเท่านั้น ดังนั้นเบอร์นาร์ดสกี้จึงคิดไม่ออกเลยว่าจะมีใครที่ต้องการแก้แค้นตัวเองเช่นนี้



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน