ตอนที่ 513 วางแผนตัวหมาก
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้าเย่เชียนและหลี่ฮ่าวก็ส่งพ่อของพวกเขาไปที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นโรงพยาบาลแต่ใช้คำว่าสถานบ้านพักคนชราระดับVIPอาจจะเหมาะสมกว่าเพราะแน่นอนว่าเย่เชียนนั้นเป็นคนที่มีหน้ามีตาในเมืองเซี่ยงไฮ้เพราะถ้าไม่เครือข่ายหรือความสัมพันธ์กับบุคคลระดับสูงล่ะก็ยากนักที่จะได้สิ่งเหล่านี้
ในตอนเช้าหมอได้ทำการตรวจร่างกายพ่ออย่างเต็มรูปแบบแต่ผลออกมาไม่ดีนักเพราะสุขภาพทางร่างกายของเขานั้นเสื่อมถอยลงและอวัยวะต่างๆ ได้รับความเสียหายจนถึงระดับที่สุ่มเสี่ยงและตามที่หมอบอกมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่ชายชราคนนี้สามารถอดทนมาได้จนถึงทุกวันนี้และไม่รู้ว่าพลังอะไรที่ทำให้เขาสามารถก้าวต่อไปได้
คนอื่นไม่รู้แต่เย่เชียนนั้นรู้เพราะในใจของเขานั้นเขากังวลอยู่เสมอและรู้โดยธรรมชาติว่าพ่อนั้นต้องการมองดูเขาไปตลอดชีวิตนี่เป็นจุดแข็งที่สนับสนุนให้พ่อของเขานั้นสู้ต่อไป
เย่เชียนก็ทิ้งพ่อไว้ที่โรงพยาบาลซึ่งเย่เชียนก็ออกมาพร้อมกับผู้เด็กหญิงตัวเล็กๆ และขับรถกลับบ้าน เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของเย่หลินนั้นรู้สึกผิดหวังอย่างมากและเห็นได้ชัดว่าเธอรู้ได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เด็กคนนี้โตกว่าเด็กในวัยเดียวกันเพราะเธอมักจะรู้เรื่องต่างๆ มากมายมากกว่าเด็กวัยเดียวกันกับเธอ
สิ่งต่างๆ ในฝั่งของหลี่จื้อเทียนก็ไม่ได้เร่งรีบในขณะนี้ดังนั้นเย่เชียนจะอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ต่ออีกสองสามวันเพราะมันเป็นช่วงเวลาว่างที่หายาก นอกจากไปเยี่ยมพ่อทุกวันแล้วเย่เชียนก็ยังได้อยู่กับหลินโรวโร่วและซ่งหลันอีก ซึ่งในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เย่เชียนกลับมาเย่เชียนก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมายเพราะซ่งหลันนั้นรู้ว่าควรทำอะไร กล่าวได้ว่าซ่งหลันนั้นเป็นเหมือนเพื่อนและพี่สาวคนสนิทที่ดีที่สุดของเย่เชียนซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เย่เชียนและแม้แต่เหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าต่างกฌเคารพซ่งหลันมาก
หลังจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้วซ่งหลันก็รู้ว่าเย่เชียนนั้นจะไม่ปล่อยองค์กรทหารรับจ้างเรดซันและแก๊งยามากุจิไปง่ายๆ อย่างแน่นอนรวมไปถึงสมาคมมังกรดำที่อยู่เบื้องหลังอีกด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินงานต่างๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นในอนาคตนั้นซ่งหลันจึงต้องเร่งพัฒนาธุรกิจของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเองแต่เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วซ่งหลันจึงต้องลงมือทำเอง
กองทุนต่างๆ นั้นก็ค่อยๆ เข้าที่เข้าทางซึ่งหลินโรวโร่วก็ไม่ได้ทำงานหนักเหมือนช่วงแรกอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อใดที่ซ่งหลันไม่อยู่หลินโรวโร่วก็ต้องจัดการกับหลายๆ เรื่องของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปแทน แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เย่เชียนกังวลอะไรทว่าเย่เชียนก็ไม่ได้คาดคิดว่าซ่งหลันนั้นจะให้หลินโรวโร่วเข้ามามีส่วนร่วมกับเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเร็วเช่นนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่ทั้งสองนั้นช่วยเหลือกัน
จิตใจของผู้หญิงมักจะเข้าใจยากซึ่งเย่เชียนก็ไม่รู้ว่าสิ่งนี้ควรเรียกว่าศูนย์กลางของผู้หญิงหรือไม่แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว
ในเวลาว่างเย่เชียนก็ไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยของไอร่อนบลัดเพื่อดูการพัฒนาที่ชัดเจนของบริษัท ซึ่งทำให้เย่เชียนประหลาดใจเพราะภายใต้การบริหารจัดการส่วนบุคคลของแจ็คแล้วธุรกิจของบริษัทไอร่อนบลัดนั้นครอบคลุมไปทั้งภูมิภาคตะวันออกและใต้ของจีนแล้วและประเภทของธุรกิจไม่ได้จำกัดอยู่ที่การรักษาความปลอดภัยของชุมชนและห้างสรรพสินค้าเหล่านั้นอีกต่อไปและยังพัฒนาไปสู่งานรักษาความปลอดภัยของธนาคารและงานต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกินความคาดหมายของเย่เชียนอย่างมาก
แต่เย่เชียนก็รู้อยู่แก่ใจว่านอกจากความสามารถของแจ็คแล้วก็ยังมีการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอีกด้วย เพราะถ้าหากไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนแล้วล่ะก็ไม่ว่าแจ็คจะเก่งและมีความสามารถแค่ไหนก็ตามถึงยังไงคงจะไม่เป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน ซึ่งเย่เชียนก็เข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติว่ารัฐบาลจีนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการซื้อใจเขาและใช้ให้เขาทำงานหนักเพื่อรัฐบาลและเบื้องบนอย่างพวกเขา
นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะอย่างน้อยๆ ตอนนี้เย่เชียนสามารถพัฒนาพลังของเขาไปได้อีกขั้นอย่างสบายใจและเมื่อพลังเพียงพอที่จะทำให้รัฐบาลจีนตกใจแต่ถึงแม้ว่าพวกเขาก็จะไม่กล้าที่จะกำจัดตัวเองง่ายๆ ก็ตามอย่างน้อยๆ มันก็ไม่สามารถทำอะไรกับเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดได้
การฝึกของโจวหยวนที่บริษัทไอร่อนบลัดนั้นก็คืบหน้าไปมากเช่นกันและเย่เชียนเย่เชียนเห็นเขาเด็กคนนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างไปจากเดินอย่างสิ้นเชิงกับกลุ่มอันธพาลและนักเลงข้างถนนที่เขาเคยพบกันครั้งแรก เพราะโจวหยวนนั้นไม่เพียงแค่พัฒนาทักษะการต่อสู้เท่านั้นแต่นิสัยและบุคลิกของเขาก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน ซึ่งถ้าโจวหยวนใส่สูทผูกไทล่ะก็เขาจะดูเหมือนนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจริงๆ
เรื่องบุคลากรของเขี้ยวหมาป่านั้นก็เป็นสิ่งที่เย่เชียนต้องการ ซึ่งการปลูกฝังคนใหม่ๆ ให้เป็นนักฆ่าที่ซ่อนอยู่ในเงาของเขานั้นถ้าหากมันถูกเปิดเผยให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนรู้ล่ะก็มันจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างยิ่ง
หลังจากเรียกบุคลากรทั้งหมดไปที่ห้องประชุมของบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดแล้วเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่โจวหยวนและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจแล้วพูดว่า “ไอ้น้องชาย..นายไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ ..เพราะงั้นจากนี้ไปทุกอย่างในมณฑลกวางตุ้งจะเป็นหน้าที่ของนาย..อย่างไรก็ตามสถานะและตัวตนของนายน่ะจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง..นายคิดว่าไง?”
“ทำไมถึงต้องเปลี่ยนสถานะครับ? ” โจวหยวนถามอย่างว่างเปล่า เพราะเห็นได้ชัดว่าเขานั้นสงสัยอย่างยิ่ง
“ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้ว่านายเป็นคนของฉันและฉันก็ไม่ต้องการให้ใครรู้อดีตของนายด้วย..นายต้องเปลี่ยนตัวตนของนายเพื่อที่คุณจะได้ซ่อนตัวจากพวกเสือและมังกรซึ่งมันจะมีประโยชน์มากสำหรับการพัฒนาของนาย” เย่เชียนพูด จากนั้นเขาก็เหลือบไปมองที่แจ็คและพูดว่า “แจ็ค! ..นายหาวิธีทำให้เขามีตัวตนใหม่ตั้งแต่เกิดจนเรียนจบและทำงานและรวมไปถึงพ่อแม่และครอบครัวที่บ้านและประวัติของเขาด้วย..ซึ่งข้อมูลทั้งหมดต้องเป็นจริงได้และต้องละเอียดยิบ..แล้วตอนนี้สถานะของคนที่ชื่อโจวหยวนก็ตายไปแล้ว..นายมีหน้าที่สร้างภาพลวงตาแห่งความตายให้เขาจากนั้นก็ส่งเขาไปต่างประเทศแล้วนำเขากลับมาจากต่างประเทศด้วย..ขั้นตอนพวกนี้นายมีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า?”
“ไม่มีปัญหาครับบอส! ..มันแค่เรื่องง่ายๆ” แจ็คพูด
เย่เชียนพยักหน้าเบาๆ แบ้วมองไปที่โจวหยวนอีกครั้งและพูดว่า “จากนี้ไปจะไม่มีคนชื่อโจวหยวนในโลกใบนี้อีกแล้ว..นายจะใช้ชื่อว่าโจวจัวนับจากนี้ไป..แจ็คจะจัดการแผนการต่างๆ ในมณฑลกวางตุ้งให้นายเอง..อย่ากังวลไปและนายก็ไม่จำเป็นต้องติดต่อเราโดยตรงในอนาคตเพราะฉันจะส่งหน่วยหมาป่าเพชฌฆาตไปเป็นบอดี้การ์ดของนายและพวกเขาจะต้องรับผิดชอบในการติดต่อเรา..นอกจากนี้ก็จำไว้ว่าตัวตนของนายจะแตกต่างออกไปจากนี้ในอนาคตและไม่ว่านายจะพูดหรือทำตัวยังไงก็ตาม! …” จากนั้นเย่เชียนก็ตบไหล่โจวหยวนเบาๆ แล้วพูดว่า “ฉันเชื่อว่านายทำได้และนายจะไม่ทำให้ฉันต้องผิดหวังอย่างแน่นอน..นายมีคำถามอะไรอีกไหม? ”
“ไม่ครับ! ..ยังไงก็ตามผมเองก็ไม่ได้มีพ่อและแม่มาตั้งแต่แรกแล้ว..ผมเป็นเด็กกำพร้า..เพราะงั้นถ้าผมเปลี่ยนชื่อไปผมก็จะได้บอกลาอดีตของผมไปอย่างสมบูรณ์แบบได้” โจวหยวนพูด


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน