ตอนที่ 529 ต่อรองอย่างแยบยล
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียนแล้วการแสดงออกที่ดูไม่สบอารมณ์ของพนักงานขายก็หายไปในทันทีและเขาก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “คุณหลัวไม่อยู่ที่นี่..ถ้าหากคุณมีธุระอะไรคุณก็สามารถคุยกับผมได้เลย..เชิญเข้ามานั่งข้างในก่อนสิ”
“นี่เป็นคำสั่งซื้อมูลค่าหลายล้านดอลลาร์เพราะงั้นผมจะรอให้ประธานหลัวของคุณกลับมาก่อนดีกว่า” เย่เชียนพูด
พนักงานขายก็ตกตะลึงอย่างมากและเขาเองก็ไม่กล้าที่จะรับผิดชอบคำสั่งซื้บมูลค่านับล้านหยวน ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า “ได้ครับ..ผมจะติดต่อประธานหลัวให้ทันที..พวกคุณสองคนเข้ามานั่งรอข้างในก่อนสิครับ”
เย่เชียนก็พยักหน้าเล็กน้อยและเดินไปออฟฟิศ ซึ่งพนักงานคนนั้นก็ค่อนข้างสุภาพเพราะเขาดึงเก้าอี้และรินชาให้และเขาก็ค่อนข้างนอบน้อม ซึ่งมันไม่น่าแปลกใจเลยเพราะมันเป็นรายการซื้อมูลค่าหลายล้านหยวนและเขาเองก็ทำงานอยู่ที่นี่มานานแล้วดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนอย่างมากว่าคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่เช่นนี้แน่นอนว่าเขาจะต้องนอบน้อมและสุภาพอย่างมากโดยธรรมชาติ
หลังจากรินชาให้เย่เชียนและชิงเฟิงแล้วพนักงานขายก็รีบกดเบอร์โทรศัพท์ของหลัวป้อและบอกถึงเรื่องนี้สั้นๆ ซึ่งแต่เดิมที่หลัวป้อนั้นกำลังนอนหลับอยู่แต่หลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์เขาก็รับสายและหลังจากได้ยินคำพูดของพนักงานขายแล้วเขาก็รีบบอกให้พนักงานขายดูแลและบริการเย่เชียนจากนั้นเขาจะรีบไปหาทันที
หลัวป้อนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองเจิ้งโจวด้วยการอาศัยอำนาจและอิทธิพลของพี่เขยที่เป็นถึงผู้อำนวยการสำนักงานกรมตำรวจส่วนกลางของเมืองเจิ้งโจว แต่ธุรกิจของเขาและวัสดุก่อสร้างก็ห่วยและไร้คุณภาพจึงทำให้ไม่มีใครเป็นลูกค้าซ้ำและมาอุดหนุนเขาซ้ำสอง ซึ่งร้านขายวัสดุก่อสร้างแห่งนี้ในทุกๆ ปีนั้นไม่มีรายได้มากนัก ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงคำสั่งซื้อมูลค่าล้านหยวนในวันนี้เลยซึ่งลูกค้ารายใหญ่เช่นนี้ที่มาพร้อมกับคำสั่งซื้อหลายล้านแล้วแน่นอนว่าเขาจะต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว นั่นหมายความว่าภายในระยะเวลาหนึ่งปีร้านขายวัสดุก่อสร้างแห่งนี้นั้นไม่สามารถทำรายได้ถึงหนึ่งล้านหยวนได้เลย
หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้วหลัวป้อก็เปลี่ยนเป็นชุดสูทและรีบขับรถไปที่ร้านของเขาทันที
เย่เชียนก็จิบชาเล็กน้อยจากนั้นก็ยืนขึ้นและมองไปรอบๆ ทั่วร้านซึ่งเห็นได้ชัดว่าคุณภาพของวัสดุก่อสร้างที่ตั้งโชว์ในร้านนั้นคุณภาพดีมากและพนักงานขายคนนี้ก็พูดถูกเพราะพวกมันถูกเขานำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งทำให้เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเพราะปรากฏว่าหลัวป้อคนนี้ไร้ยางอายและมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างมากโดยการใช้วัสดุก่อสร้างที่นำเข้าจากต่างประเทศเหล่านี้ตั้งโชว์หน้าร้านเพื่อดึงดูดลูกค้าแต่เมื่อพวกมันถูกส่งมอบให้กับลูกค้าแล้วพวกมันทั้งหมดกลับถูกแทนที่ด้วยผลิตภัณฑ์และสินค้าที่ด้อยคุณภาพแทน
“บอสนี่เป็นแค่การเจรจาหรอ..เราจะไม่ทำอะไรสักอย่างเลยหรือไง?” ชิงเฟิงโน้มตัวไปที่ด้านข้างของเย่เชียนและกระซิบถาม
“ไม่ต้องกังวลไป..รอจนกว่าหลัวป้อจะมาก่อน” เย่เชียนพูด
ชิงเฟิงก็ฉีกยิ้มและเมื่อเขาเห็นพนักงานขายโน้มตัวมาเพื่อฟังบทสนทนาระหว่างพวกเขาแล้วชิงเฟิงก็ทำใบหน้าอย่างเคร่งเครียดและพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “นี่คุณกำลังทำอะไร? ..ทำไมถึงคุณไม่โทรหาหัวหน้าของคุณให้รีบมาล่ะ..คุณอยากแอบฟังเหรอ?”
พนักงานขายคนนั้นก็เป็นนักเลงเช่นกันดังนั้นเขาจะยอมให้คนอื่นพูดกับเขาแบบหยาบขนาดนี้ได้อย่างไร แต่ทว่าตอนนี้หัวหน้าของเขาสั่งให้เขาดูแลเย่เชียนกับชิงเฟิงอย่างนอบน้อมดังนั้นเขาจึงต้องกลืนความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดของเขาลงไป
ใช้เวลาไม่นานนักรถของหลัวป้อก็มาหยุดที่หน้าร้านขายวัสดุก่อสร้างและหลัวป้อก็รีบลงจากรถและเดินตรงเข้าไปในร้านขายวัสดุก่อสร้างทันที “หัวหน้าครับนั่นพวกเขา! ” พนักงานขายคนนั้นรีบทักทายหลัวป้อและพูด
หลัวป้อก็พยักหน้าและเมื่อเขามองไปที่เย่เชียนและชิงเฟิงเขาก็ถึงกับผงะไปเล็กน้อยเพราะหลัวป้อรู้สึกว่าเหมือนเขาจะเคยเห็นสองคนนี้ที่ไหนสักแห่งแต่เขาก็จำไม่ได้ แต่ในเวลานี้เขาก็ไม่สามารถคิดและกังวลเรื่องนี้ได้จากนั้นเขาก็รีบก้าวไปข้างหน้าและหยิบบุหรี่จากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้พร้อมกับพูดว่า “ไม่ทราบว่าพวกคุณสองชื่ออะไรครับ? ”
เย่เชียนมองเขาขึ้นและลงจากหัวจรดเท้าและพูดว่า “คุณคือหลัวป้อใช่ไหม..แซ่สกุลของผมคือเย่..และเขาคนนี้คือผู้ช่วยของผม”
เดิมทีนั้นหลัวป้อมักจะปฏิบัติต่อลูกค้าที่ไม่ต้องการซื้อของในร้านของเขาอย่างเดือดดาล แต่ทว่าเย่เชียนนั้นกำลังจะทำการซื้อขายครั้งใหญ่ดังนั้นหลัวป้อจึงต้องสุภาพ “สวัสดีครับคุณเย่..ผมเป็นเจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้างแห่งนี้เอง” หลัวป้อพูดขณะที่เขายื่นมือออกไปพร้อมกับบุหรี่
เดิมทีหลัวป้อรอคอยที่จะจับมือกับเย่เชียนแต่ทว่าเย่เชียนกลับเอาบุหรี่ที่หลัวป้อเพิ่งยื่นให้คีบเข้าปากจากนั้นชิงเฟิงก็จุดไฟให้เย่เชียน ซึ่งเย่เชียนก็สูบบุหรี่พลางเหลือบมองเขาและพูดว่า “มาคุยเรื่องซื้อขายกันเถอะ”
หลังป้อก็ถึงกับตกตะลึงและใบหน้าของเขาก็ดูอึดอัดเล็กน้อยและเห็นได้ชัดว่าใบหน้าของเขานั้นบิดเบี้ยวไป อย่างไรก็ตามเขาก็อดกลั้นมันเอาไว้ชั่วขณะและพูดด้วยรอยยิ้มว่า ‘ได้เลยคุณเย่..เรามาคุยกันสักทีเถอะ!’ หลัวป้อคิดกับตัวเองเช่นนี้และปล่อยให้เย่เชียนหยิ่งไปก่อนและรอให้เย่เชียนเสียเงินของเขาและเริ่มร้องไห้ในภายหลัง
“อืม! ” เย่เชียนพยักหน้าเล็กน้อยเดินไปที่เก้าอี้แล้วนั่งลงส่วนชิงเฟิงเองก็เดินไปนั่งลงอย่างสง่างามพร้อมกับท่ายกขาไขว้ ซึ่งเมื่อเห็นฉากนี้หลัวป้อก็ถึงกับตกตะลึงเล็กน้อยและรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายมาท้าทายเขา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ยังไม่ชัดเจนดังนั้นหลัวป้อจึงไม่สามารถคิดมากได้ เขาจึงนั่งลงขณะสั่งให้ลูกน้องเสิร์ฟชาแล้วพูดว่า “ไม่ทราบว่าคุณเย่ทำธุรกิจอะไรหรือ? ..จะซื้อไปรับเหมาตกแต่งหรือใช้เองครับ? ”
“หัวหน้าของผมซื้อบ้านใหม่และต้องการปรับปรุงต่อเติมใหม่บริษัทและเขาก็ไม่ไว้ใจบริษัทตกแต่งเหล่านั้น..เขาจึงต้องการตกแต่งด้วยตัวเอง” เย่เชียนพูดเบาๆ “หัวหน้าของเรามีธุรกิจที่ใหญ่มาก..เพราะงั้นถ้าเรามีโอกาสเราอาจจะได้ร่วมมือกันในอนาคตก็เป็นได้”
หลัวป้อก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะเป็นเพียงผู้ส่งสารแต่กลับมีหัวหน้าที่ตำแหน่งใหญ่กว่าอยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้ยินประโยคหลังของเย่เชียนแล้วจู่ๆ หลัวป้อก็รู้สึกตื่นเต้นและเขาก็แอบตระหนักถึงกำไรอันมหาศาลอีกด้วย แต่ทว่าหากเขาส่งมอบสินค้าที่ด้อยคุณภาพให้แก่อีกฝ่ายเขาก็กลัวว่าเขาจะไม่มีโอกาสร่วมมือและทำธุรกิจกับอีกฝ่ายในครั้งต่อไปได้อีกและการสูญเสียกำไรก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย ซึ่งถ้าหากเขาส่งมอบสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพล่ะก็เขาจะมีโอกาสมากมายที่จะร่วมมือกันกับเย่เชียนในอนาคตและจะมีโอกาสทำเงินได้มากมายมหาศาล อย่างไรก็ตามเขาก็อยู่ในอุตสาหกรรมนี้มานานดังนั้นเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเมื่อลูกค้าพูดว่าเขามีธุรกิจขนาดใหญ่มากมายและอาจจะได้ร่วมมือกันนั้นจุดประสงค์ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการได้รับส่วนลดเช่นนั้น
“คุณเย่สามารถมั่นใจได้เลยว่าวัสดุทั้งหมดของเรานำเข้าจากต่างประเทศและรับประกันคุณภาพอย่างแน่นอน” หลัวป้อพูด “ผมจะให้ส่วนลดคุณ 10% คุณเย่ว่าไงบ้าง?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน