เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 541

ตอนที่ 541 คำเชิญชวนที่มิอาจปฏิเสธได้

ในความเป็นจริงความสงสัยของเย่เชียนนั้นไม่ได้ไร้เหตุผลเพราะจากการที่อันซือแสดงให้เห็นเมื่อเธอได้ยินเขาพูดถึงชีวิตที่ผ่านมาของเขาก่อนหน้านี้และถึงแม้ว่าเธอจะปกปิดมันไปอย่างรวดเร็วก็ตามแต่ถึงยังไงเย่เชียนก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าการแสดงออกแบบนั้นมันไม่เหมือนกับการแสดงออกของแม่ที่ได้รับฟังเรื่องราวของลูกชายที่ห่างหายไปนานแต่กลับไม่มีความเสียใจหรือแปลกใจมากนักและยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเธอจะรู้มานานแล้วด้วยซ้ำ

ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่อยากสงสัยก็ตามแต่ในใจของเย่เชียนก็โหยหาความรักจากครอบครัวมาเสมอและถึงแม้ว่ามันจะสายไปแล้วก็ตามแต่มันก็คุ้มค่า อาจเป็นเพราะเย่เชียนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมและสังคมจอมปลอมมาโดยตลอดดังนั้นเย่เชียนจึงมีความเกลียดชังในจิตใต้สำนึกจนมีความสงสัยต่อผู้คนที่จู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในชีวิตของเขา

เย่เชียนในปัจจุบันนั้นดูเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จและมีความสุขมากแต่ในความเป็นจริงแล้วมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเขาต้องก้าวไปทีละก้าวเพราะเขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีคนเอามีดแทงหลังเขาและยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังมีอนาคตของผู้คนมากมายที่แบกอยู่บนบ่าของเขาและเขาก็ต้องพิจารณาทุกอย่างอย่างรอบคอบเพราะเมื่อไหร่ที่เขาไม่ระวังเขาก็มีแนวโน้มที่จะล้มลงกับพื้นและเขาจะไม่มีวันลุกขึ้นมาและย้อนกลับไปได้อีกเลย

ไม่ว่ายังไงเย่เชียนก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องนี้จริงหรือเท็จกันแน่

หลังจากสตาร์ทรถและออกจากโรงพยาบาลเย่เชียนก็เตรียมขับรถไปหาหลี่จื้อเทียนเพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการพัฒนาในอนาคตของมณฑลเหอหนานกับเขา อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากเย่เชียนขับรถออกมาจู่ๆ รถสองคันก็มาขวางทางเอาไว้และถ้าเย่เชียนไม่เหยียบเบรกเร็วพอล่ะก็เกรงว่ารถคงจะชนกันไปแล้ว

เย่เชียนเบรกรถอย่างกะทันหันและเงยหน้าขึ้นและเห็นชายหนุ่มสี่คนในชุดสูทเดินลงมาจากรถทั้งสองคันข้างหน้าและทุกคนก็สวมแว่นกันแดดจากนั้นพวกเขาก็ยืนเรียงแถวกันอย่างเรียบร้อยและคนหนึ่งเปิดประตูรถและมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากรถ

เย่เชียนก็แสยะยิ้มและส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และแอบคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ เพียงแต่ว่าเย่เชียนไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะหาตำแหน่งของเขาได้เร็วขนาดนี้และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถและเครือข่ายที่ดีอยู่บ้าง

ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครแต่เป็นเหล่ยเจียงสมาชิกขององค์กรสัมพันธ์มิตร จกานั้เนเย่เชียนก็จัดเสื้อผ้าของเขาให้เรียบร้อยและเปิดประตูรถแล้วเดินออกไปซึ่งเขาไม่ได้มองไปที่เหล่ยเจียงแต่เขาเดินไปดูรถของเขาและมองดูแล้วพึมพำว่า “เฮ้ย..อะไรกันเนี่ย” จากนั้นเย่เชียนก็เงินหน้าขึ้นแล้วมองไปที่คนเหล่านั้นและพูดด้วยน้ำที่ไม่สบอารมณ์ว่า “คุณขับรถเป็นไหมเนี่ย..มันเป็นถนนเลนเดียวแล้วคุณขับแบบนี้คุณอยากตายขนาดนั้นเลยเหรอ..ผมไม่ได้อยากตายพร้อมพวกคุณนะ”

เหล่ยเจียงก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดคิดว่าเย่เชียนจะพูดแบบนี้ เหล่ยเจียงไม่ได้โง่และเขาก็เป็นคนที่มีไอคิวสูงและด้วยสันชาตญาณต่างๆ เขาก็เดาได้ว่าเย่เชียนนั้นเป็นผู้บงการเบื้องหลังฆาตกรที่ไล่ฟันเขาในคืนนั้นและจุดประสงค์โดยแท้จริงก็ไม่จำเป็นต้องพูดซึ่งนั่นก็คือการกระตุ้นความขัดแย้งระหว่างเขากับฮัวซงเจี๋ยนั่นเอง ดังนั้นแน่นอนว่าเย่เชียนก็ต้องรู้จักตัวเองแต่ท่าทีของเย่เชียนในตอนนี้จะไม่ทำให้เหล่ยเจียงหัวเราะอย่างขมขื่นได้อย่างไร

ก่อนที่เหล่ยเจียงจะได้พูดจู่ๆ ลูกน้องทั้งสี่ของเขาก็รีบวิ่งไปที่ด้านหน้าของเย่เชียนและจ้องมองเขาอย่างดุร้าย ซึ่งในฐานะลูกน้องหรือบอดี้การ์ดของเหล่ยเจียงแล้วแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้ใครมารุกรานเหล่ยเจียงอย่างแน่นอน แต่ถ้ายังไม่มีคำสั่งจากเหล่ยเจียงพวกเขาก็จะไม่กล้าที่ทำอะไร ท้ายที่สุดแล้วเหล่ยเจียงก็ได้กำชับพวกเขาอย่างชัดเจนว่าตัวตนของเย่เชียนนั้นไม่ธรรมเขาจึงสั่งเอาไว้ว่าห้ามใครเคลื่อนไหวใดๆ หากยังไม่ได้รับคำสั่งจากเขา

“ทำไม? ..พวกคุณต้องการจะสู้กับผมงั้นเหรอ? ” เย่เชียนพูด “คิดว่าผมกลัวรึไง? ..มาเยอะแค่ไหนผมก็ไม่กลัวหรอก”

เมื่อเห็นฉากนี้เหล่ยเจียงก็ยิ้มอย่างขมขื่นเพราะเขาไม่ได้รู้จักตัวตนของเย่เชียนเป็นอย่างดีและเขาก็นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าคนตรงหน้าเขาจะเป็นถึงCEOของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปแต่กลับดูเหมือนนักเลงข้างถนนเสียมากกว่า ด้วยการโบกมือของเหล่ยเจียงจึงทำให้การเคลื่อนไหวของลูกน้องทั้งสี่ของเขาถอยออกไปจากนั้นเหล่ยเจียงก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ต้องขอโทษด้วยครับคุณเย่ที่ทำให้ตกใจ”

เย่เชียนมองไปที่เหล่ยเจียงขึ้นและลงจากหัวจรดเท้าและแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “อ้าวคุณเหล่ยนี่เอง..นี่หมายความว่าไงคุณต้องการลักพาตัวหรือแบล็กเมล์กันแน่? ”

เหล่ยเจียงก็ไม่สนใจคำยั่วยุของเย่เชียนและเขาก็ยังคงยิ้มแล้วพูดว่า “ผมได้ยินมาว่าคุณเย่มาเยือนเมืองเจิ้งโจวของเราดังนั้นผมจึงอยากเป็นเจ้าภาพและเชิญคุณเย่มาร่วมทานอาหารกันสักหน่อย..ไม่ทราบว่าคุณเย่จะให้เกียรติสละเวลาสักหน่อยได้หรือเปล่า”

“นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมถูกต้อนรับแบบนี้..ถ้าผมไม่รู้จักคุณล่ะก็ผมคงคิดว่าคุณเหล่ยต้องการลักพาตัวผมไปแน่ๆ ” เย่เชียนพูดเบาๆ “ผมเข้าใจความหวังดีของคุณแต่ว่าตอนนี้ผมมีธุระบางอย่างที่ต้องทำ..ถ้างั้นเอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับ”

“มันเป็นการรับประทานอาหารง่ายๆ ไม่ได้ใช้เวลามากนักหรอกครับ..เพราะนอกจากนี้ผมเองก็ยังมีคำถามมากมายที่อยากจะถามและขอคำแนะนำจากคุณเย่..เพราะงั้นผมต้องขอรบกวนคุณเย่หน่อย” เหล่ยเจียงยังคงงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

“หืม..ผมก็บอกแล้วว่าผมมีธุระที่ต้องทำ” เย่เชียนพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ “ผมคิดว่าคุณเหล่ยเองก็น่าจะรู้นะว่าสิ่งที่ผู้คนเกลียดมากที่สุดก็คือการถูกคนอิ่นบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ..ผมต้องขอโทษด้วย”

เหล่ยเจียงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมคิดว่าคุณเย่คงจะเข้าใจผิดเพราะผมไม่ได้บังคับคุณ” หลังจากนั้นเหล่ยเจียงก็ส่งสัญญาณมือให้ลูกน้องทั้งสี่และหลังจากนั้นลูกน้องทั้งสี่คนก็รีบเดินไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบและพูดว่า “คุณเย่ได้โปรด! ”

แม้ว่าน้ำเสียงจะดูสุภาพมากแต่ท่าทางของพวกเขาก็ดูเหมือนการบังคับอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าหากเย่เชียนไม่ไปเกรงว่าพวกคงจะต้องใช้ความรุนแรงที่จะบังคับให้เย่เชียนไป

เย่เชียนเหลือบมองพวกเขาและแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “พวกคุณนี่กล้าจริงๆ ..แต่ว่าคุณคิดเหรอว่าพวกเขาสี่คนจะทำอะไรผมได้? ” หลังจากนั้นเย่เชียนก็ก้าวเท้าหนึ่งถอยหลังไปและกำหมัดทั้งสองไขว้กันแล้วปล่อยออกไปและในทันใดนั้นหนึ่งในลูกน้องของเหล่ยเจียงก็บินออกไปทันที

ตอนที่ 541 คำเชิญชวนที่มิอาจปฏิเสธได้ 1

ตอนที่ 541 คำเชิญชวนที่มิอาจปฏิเสธได้ 2

ตอนที่ 541 คำเชิญชวนที่มิอาจปฏิเสธได้ 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน