ตอนที่ 583 ชายชราป่วยหนัก
เย่เชียนนั้นเชื่อสิ่งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเพราะเย่เชียนรู้ว่ามันไม่มีเหตุผลที่หมาป่าผีไป๋ฮวยต้องหลอกเขา เพราะถ้าหากหมาป่าผีไป๋ฮวยต้องการกำจัดเขามันจะต้องเป็นวิธีการต่อสู้ที่เด็ดขาดในแบบลูกผู้ชายอย่างแน่นอนและไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการสกปรกเหล่านี้เลย
ดังนั้นเนื่องจากหมาป่าผีไป๋ฮวยบอกเป็นนัยว่าอันซือกับเย่เหวินนั้นไม่ใช่ครอบครัวของเย่เชียนนั่นก็หมายความว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะต้องรู้อะไรบางอย่าง แต่คนอย่างหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นเขาไม่ใช่คนที่ชอบพูดมากเกินไปเกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่าง
ซึ่งเย่เชียนนั้นก็มีข้อสงสัยมากมายในใจหลังจากได้ยินคำพูดของหมาป่าผีไป๋ฮวยและความสงสัยของเขาก็มากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้อาจจะไม่ชินไปหน่อยที่จะเรียกอันซือว่า ‘แม่’ แต่เย่เชียนก็ยังฝืนเรียกออกไปแต่เมื่อเย่เชียนได้ยินคำพูดของหมาป่าผีไป๋ฮวยก่อนหน้านี้เย่เชียนก็ไม่สามารถเรียกแบบนั้นได้เลยเขาเพียงแค่ยิ้มอย่างแผ่วเบาแล้วพูดว่า “คุณออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อไหร่..ทำไมคุณถึงไม่บอกให้ผมไปรับคุณ”
“ลูกยุ่งอยู่กับงานหรือเปล่า..อีกอย่างการออกจากโรงพยาบาลมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะงั้นแม่ก็ไม่อยากรบกวนลูก” อันซือยังรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเย่เชียนได้อย่างชัดเจนแต่เธอก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
เย่เชียนก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะเป็นความจริงที่เขาไม่สามารถหาหัวข้อที่เขาจะพูดต่อได้เนื่องจากเขามีความสงสัยอยู่ในใจและมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่เย่เชียนไม่เข้าใจจริงๆ เพราะถ้าอันซือหลอกเขาจริงๆ ล่ะก็เธอพยายามเอาอะไรจากเขาหรือต้องการอะไรกันแน่?
“พี่..นี่เป็นเงินพิเศษที่โรงพยาบาลคืนให้” เย่เหวินลุกขึ้นและหยิบเงินกองหนึ่งออกจากกระเป๋าของเธอแล้วยื่นให้เย่เชียนแล้วพูด
“ไม่เป็นไร..เธอเก็บเอาไว้เถอะยังไงเธอก็ต้องใช้มันอยู่ดี” เย่เชียนพูดเบาๆ โดยไม่เอื้อมมือไปหยิบ
“นั่งลงก่อนสิแม่มีเรื่องจะบอกลูก” อันซือดึงเย่เชียนมานั่งลงข้างๆ เธอแล้วพูด
“มีอะไรหรอครับ” เย่เชียนพูด
“การฝึกฝนเป็นยังไงบ้าง? ..ลูกเจอปัญหาอะไรระหว่างการฝึกบ้างหรือเปล่า..ถ้ามีก็บอกแม่มาเดี๋ยวแม่จะช่วยคิดวิธีแก้ปัญหาให้” อันซือพูดด้วยท่าทางที่ดูกังวลมาก
นี่เป็นสิ่งที่แปลกมากสำหรับเย่เชียนเพราะก่อนหน้านี้อันซือพูดว่าการฝึกศิลปะการต่อสู้แบบโบราณนั้นจะอันตรายมากแต่เย่เชียนก็พัฒนาไปอย่างราบรื่นและไม่พบปัญหาใดๆ เลย อันที่จริงเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะจากพระนิรนามที่วัดหลิงหลงทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนเพราะพลังธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ไหลเวียนเข้าไปในร่างกายของเย่เชียนนั้นไม่เพียงแค่ยับยั้งพลังที่ชั่วร้ายเท่านั้นแต่มันสามารถช่วยให้เย่เชียนสงบลงได้และนั่นคือเหตุผลที่ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น
“ไม่มีครับ” เย่เชียนส่ายหัวและพูดต่อ “การฝึกฝนเป็นไปอย่างราบรื่นมากและตอนนี้ก็ถึงระดับฝึกตนแล้ว”
อันซือถึงกับตกตะลึงและพูดว่า “มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ หนึ่งปีเลยนะที่คนทั่วไปจะไปถึงระดับฝึกตนเพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายในร่างกายแต่ลูกกลับทำได้ในเวลาอันสั้น..อย่างที่คาดเอาไว้ลูกชายของเย่เจิ้งหรานเนี่ยช่างเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้จริงๆ ..แบบนี้จะไม่ทำให้พ่อของลูกต้องเจ็บปวดโดยเปล่าประโยชน์แล้วสินะ”
เย่เชียนก็อย่างมีเล่ห์เหลี่ยมเนื่องจากอันซือและเย่เหวินอาจเป็นตัวปลอมนั่นก็หมายความว่าเย่เจิ้งหรานก็อาจจะไม่ใช่พ่อของเขาเองเช่นกัน “คุณบอกว่าตระกูลเย่น่ะแข็งแกร่งมากเพราะงั้นถ้าผมไม่พยายามอย่างหนักผมคงไม่มีวันแก้แค้นได้หรอก” เย่เชียนพูด
“แม่เชื่อในตัวลูก..เพราะลูกเป็นลูกชายของเย่เจิ้งหรานและลูกก็จะสามารถเอาชนะสมาชิกของตระกูลเย่ทั้งหมดได้อย่างแน่นอน..เมื่อไหรที่เราหวนกลับไปที่ตระกูลเย่ล่ะก็พวกเขาจะต้องเสียใจกับสิ่งที่พวกเขาเคยทำเอาไว้” อันซือพูดอย่างโกรธแค้น และเมื่อเธอพูดเช่นนี้ความโกรธที่ระเบิดออกมาภายในดวงตาของเธอก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ของปลอมจนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นมัน ดูเหมือนว่าอันซือจะเกลียดตระกูลเย่จริงๆ และนั่นหมายความว่าตระกูลเย่มีอยู่จริงและไม่ใช่สิ่งที่อันซือแต่งขึ้นมาเพื่อหลอกลวงเขา
อย่างไรก็ตามนี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เชียนจะเชื่อจริงๆ ว่าอันซือเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดเขา ซึ่งความสงสัยในใจของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
เย่เชียนจะพูดอะไรได้? เย่เชียนทำได้เพียงพยักหน้าเพราะเย่เชียนรู้ว่าถ้าอันซือต้องการหลอกใช้ตัวเองมันก็จะไม่ง่ายนักที่จะบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ และที่อยู่ของตระกูลเย่ในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางแผนที่จะถามแต่หาวิธีสืบค้นอย่างลับๆ หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็เปลี่ยนเรื่องและพูดว่า “ยังไงก็เถอะผมต้องไปจากที่นี่ในอีกไม่กี่วันเพราะยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างรอให้ผมจัดการอยู่..เพราะงั้นผมจะไม่ได้กลับมาอีกสักพัก”
“พี่..ฉันก็อยากไปกับพี่ด้วย..ฉันอยากไปเปิดหูเปิดตาบ้าง” เย่เหวินเดินมาและพูด
“ไม่..ทุกสิ่งที่ฉันทำล้วนอันตรายทั้งนั้น..ฉันไม่อยากให้เธอไปเสี่ยง..นอกจากนี้ถ้าเธอไปใครจะดูแล..แม่ล่ะ..เพราะงั้นเธอควรอยู่ที่นี่นะ” เย่เชียนพูด แต่ท้ายประโยคเย่เชียนยังคงติดคำว่า ‘แม่’ แต่เขาก็ยังฝืนเรียกออกไป
“แม่ไม่เป็นอะไร..แม่ดูแลตัวเองได้แล้ว..ลูกพาเสี่ยวเหวินออกไปเปิดหูเปิดตากับโลกภายนอกเถอะเพื่อที่เธอจะได้มีมีจิตใจที่ชั่วร้ายเหมือนคนงี่เง่าในอนาคต..แม่ว่าเธอจะสามารถเติบโตได้เร็วกว่านี้” อันซือพูดเห็นด้วยกับเย่เหวิน
จนถึงตอนนี้เย่เชียนก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นครอบครัวตนหรือไม่และไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไร ดังนั้นเย่เชียนจะพาเย่เหวินไปด้วยได้อย่างไร? ซึ่งมันชัดเจนมากว่าสิ่งนี้ทำให้พวกเขามีโอกาสติดตามเย่เชียนไปในที่ต่างๆ และนอกจากนี้หากพวกเขาหลอกลวงและหลอกใช้ตนจริงๆ ล่ะก็นั่นหมายความว่าทั้งหมดนี้เป็นการเสแสร้งรวมถึงความบริสุทธิ์ของใสซื่อของเย่เหวินอีกด้วย หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ มันก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเย่เหวินนั้นเป็นคนที่น่ากลัวอย่างมากที่สามารถเสแสร้งเช่นนี้ได้



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน