“พวกแกเป็นใคร ?”
อู่หยางเฉิงขมวดคิ้วขณะพูด เขาไม่รู้ที่มาที่ไปและเจตนาของเย่เชียนกับหลี่เหว่ยยี่เลย แต่เมื่ออู่หยางเฉิงเห็นพวกเขาไม่ละสายตาจากตัวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่น ๆ อยู่ในใจ และมันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ ที่สองคนนี้มาที่นี่ ไม่นานเขาก็รวบรวมสติของเขาได้
“ท่านรองผู้ว่าอู่หยางเฉิง… ท่านจำผมไม่ได้จริง ๆ เหรอ ?” เย่เชียนถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
อู่หยางเฉิงรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของเย่เชียน และคิดว่าชายคนนี้ก็รู้อย่างแน่ชัดว่าตนนั้นเป็นใคร แต่ยังกล้าที่จะมาทำสิ่งเหล่านี้ในตอนกลางดึกแบบนี้อย่างไม่เกรงกลัวตำแหน่งในราชการของเขาเลยแม้แต่น้อย
“ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าแกเป็นใคร ? แกเข้ามาในบ้านของฉันกลางดึกแบบนี้เพื่ออะไร ?” อู่หยางเฉิงถามอย่างประหม่า
“ท่านรองผู้ว่าอู่หยางเฉิง คุณนี่ขี้ลืมเสียจริงนะ คุณเองไม่ใช่หรือที่สั่งให้พวกตำรวจมาจับผม แถมยังบอกให้พวกเขาวิสามัญผมอีก” เย่เชียนตอบอย่างไม่แยแส
“แก… แกคือเย่เชียนเรอะ ?” อู่หยางเฉิงพูดด้วยความหวาดกลัว
อู่หยางเฉิงคาดว่าเย่เชียนคงจะหาวิธีหลบหนีออกจากเมืองและไปกบดานที่ไหนสักแห่งหลังจากที่หนีออกจากคุก ไม่ใช่บุกเข้ามาในห้องของเขาและแสดงตัวอย่างเปิดเผยเช่นนี้ นี่เป็นการยั่วยุและตอบโต้อย่างไม่ต้องสงสัย ในสายตาของเขาตอนนี้ แม้ว่าเย่เชียนจะเป็นแค่คนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แต่ตอนนี้ตัวเขาเองก็ไม่สามารถจะต่อสู้หรือปะทะอะไรกับเย่เชียนได้เลย หลังจากฉุกคิดอยู่ชั่วครู่ อู่หยางเฉิงก็แสร้งทำเป็นพูดว่า
“ถูกต้องแล้ว คำสั่งนั้นน่ะมาจากฉันเอง งานเวิลด์เอ็กซ์โปใกล้เข้ามาแล้ว แต่จู่ ๆ แกก็ดันไปฆ่าข้าราชการคนนึงตาย นี่มันเหมือนเป็นการยั่วยุและท้าทายกับรัฐบาลโดยตรงเชียวนะ ฉันไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้แกเป็นกรณีตัวอย่างให้แก่คนอื่น ๆ เพื่อรักษาความสงบในเซี่ยงไฮ้นี้”
เย่เชียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดูเหมือนว่าอู่หยางเฉิงนี่คงเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
“คุณรู้ดีว่าผมไม่ได้ฆ่าใคร… และผมเองก็ไม่อยากจะเสวนาและยุ่งเกี่ยวกับคุณด้วย” เย่เชียนฉีกยิ้มช้า ๆ ขณะที่มือก็แกว่งไฟล์กับเอกสารไปมา
“ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากผมส่งคลิปวิดีโอนี้ไปยัง CCDI” เย่เชียนพูดต่อ
อู่หยางเฉิงเริ่มตื่นตระหนกตกใจและหวั่นเกรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหากเย่เชียนทำเช่นนั้นจริง ๆ ล่ะก็ ไม่เพียงแต่เขาจะถูกกรรมการตรวจสอบวินัยควบคุมตัวและสอบสวนจนนำไปถึงการกักขังเท่านั้น แต่เขาก็จะต้องสูญเสียตำแหน่งผู้ว่าเทศบาลเมืองไปด้วยอย่างแน่นอน แต่อู่หยางเฉิงก็ยังพยายามทำนิ่งเฉยกับคำพูดของเย่เชียน เพราะเขาเองก็มีทนายที่ทั้งเก่งและมีฝีมือดีหลายคนที่เขาผูกสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ คิดได้ดังนั้น อู่หยางเฉิงก็พูดว่า
“นี่มันก็เป็นแค่เรื่องชีวิตส่วนตัวของฉัน CCDI ก็แค่ต้องตรวจสอบไปตามหน้าที่ นอกจากนี้ด้วยตำแหน่งและพรรคพวกของฉัน การที่จะทำให้เรื่องพวกนี้หายออกไปจาก CCDI มันก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ฉันคิดว่าแกคงไม่ได้เสี่ยงที่จะมาที่นี่เพื่อแค่เจอฉันและบอกเกี่ยวกับสิ่งนี้แค่นั้นหรอก แกบอกมาเถอะว่าจริง ๆ แล้วแกต้องการอะไรกันแน่ ?”
“นี่แกยังกล้าที่จะโอหังและอวดดีอยู่อีกเหรอ ? จะอวดตำแหน่งอะไรกันนักกันหนา เดี๋ยวก็ฆ่าให้ซะหรอก!!!”
หลี่เหว่ยยี่ตะคอกอย่างเดือดดาล แต่คำพูดของเขายังดูคลุมเครือมากนัก เพราะหลี่เหว่ยยี่ไม่ค่อยเก่งภาษาจีนสักเท่าไหร่ เขาอาศัยอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เกิดหรือไม่ก็จงใจพูด ทุกครั้งที่เขาพูดคำว่า ‘เฆี่ยน’ ที่หมายถึงการทรมาน เขามักจะพูดว่า ‘ฆ่า’ แทน จึงทำให้หลาย ๆ คนหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มบ่อยครั้ง
อู่หยางเฉิงสั่นไปทั้งตัว เขาผู้มีตำแหน่งเป็นถึงเลขานุการคณะกรรมการเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้ คงเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างมากถ้าเขาจะต้องมาตายด้วยน้ำมือของเด็กสองคนนี้
แต่ในขณะเดียวกัน อู่หยางเฉิงก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่ฆ่าตน เพราะในตอนที่ตนนอนหลับอยู่ก่อนหน้านี้ พวกเขามีโอกาสถมถืดที่จะฆ่า แต่พวกเขากลับไม่ทำและเลือกที่จะเสวนาเรื่องพวกนี้กับเขาแทน อู่หยางเฉิงรู้ว่าเขาต้องยื้อเวลาให้ได้นานที่สุด และถึงแม้ว่าเขาจะต้องตกลงหรือสัญญาอะไรกับสองคนนี้ในตอนนี้ แต่เมื่อใดที่ถึงรุ่งเช้าของวันรุ่งขึ้น ตำรวจทั้งหมดจะระดมพลตามล่าพวกเขาและจะวิสามัญจับตายพวกเขาในทันที

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน