เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 615

ตอนที่ 615 ป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม

เซี่ยตงไป่ก็ผงะไปครู่หนึ่งและหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่โย่วซวนพูดนั้นดูสมเหตุสมผลและนอกจากนี้เขาก็ยังเข้าใจด้วยว่าความคิดของโย่วซวนนั้นถูกต้องเสมอและถึงแม้ว่ามันอาจจะแตกต่างไปจากของเขาเองแต่เขาก็เชื่อว่าโย่วซวนจะสามารถนำแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงไปสู่ความรุ่งโรจ์อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรอีกและพยักหน้าเห็นด้วย

ทันทีที่เสียงของโย่วซวนจบลงเสียงของรถตำรวจกลุ่มหนึ่งก็ขับมาหยุดที่ด้านนอกบ้าน ซึ่งบางครั้งก็ต้องยอมรับเลยว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศญี่ปุ่นดีกว่าตำรวจของประเทศจีนเช่น ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้สูงกว่าของประเทศจีนมากเพราะถ้าเป็นตำรวจจีนล่ะก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าพวกเขาจะมาเมื่อไหร่

แน่นอนว่าประสิทธิภาพเหล่านี้อาจจะไม่สูงกว่าของประเทศจีนเสมอไปเพราะเมื่อเผชิญกับกองกำลังอันทรงพลังเหล่านั้นการทำงานของตำรวจจะด้อยลงและยิ่งไปกว่านั้นตำรวจทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่นต่างก็ถูกดูแลจัดการโดยรัฐบาลท้องถิ่น ส่วนกรมตำรวจส่วนกลางนั้นก็เหมือนกับของประเทศจีนแต่ทว่าสถานีและกรมตำรวจจะน้อยกว่ามาก

เจ้าหน้าที่ตำรวจมีประมาณสิบคนและทุกคนก็ติดอาวุธเพราะเมื่อได้รับโทรศัพท์จากโย่วซวนแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้ก็รู้ดีว่าคนเหล่านั้นต้องเป็นคนของแก๊งยามากุจิและนอกจากนี้ทั้งสองกลุ่มนี้ยังเป็นสามขั้วอำนาจดังนั้นพวกเขาจึงต้องเตรียมการเผื่อเอาไว้เพราะถ้าไม่ระวังมันก็อาจจะควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้

คราวนี้หัวหน้าตำรวจชุดปราบปรามจลาจลคือฮิโรโนะอันโดะซึ่งเป็นผู้กำกับกรมตำรวจนครบาล ซึ่งหลังจากลงจากรถแล้วเมื่อเห็นฉากที่ทั้งสองแก๊งต่างก็ชักปืนออกมา เมื่อเห็นเช่นนั้นฮิโรโนะก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปจากนั้นไม่นานเขาก็รีบโบกมือให้คนของเขาเพื่ออส่งสัญญาณให้พวกเขาไม่กระทำการอย่างหุนหันพลันแล่นเพราะตอนนี้บรรยากาศระหว่างแก๊งยามากุจิและแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงกำลังตึงเครียดอย่างมากและความประมาทเล็กน้อยอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายที่เลวร้ายอย่างมากเพราะเมื่อใดที่มีใครคนหนึ่งเปิดฉากยิงล่ะก็แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้าไปแทรกแซงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งมันจะทำให้สถานการณ์ยิ่งรุนแรงขึ้น ดังนั้นฮิโรโนะจึงชัดเจนมากว่าเมื่อมีการปะทะกันด้วยปืนระหว่างทั้งสองฝ่ายมันจะทำให้เกิดการต่อสู้เต็มรูปแบบระหว่างแก๊งยามากุจิและแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงและทั้งประเทศญี่ปุ่นก็จะตกอยู่ในความโกลาหลท่ามกลางสนามรบระหว่างแก๊ง

เนื่องจากสามขั้วอำนาจใหญ่ๆในประเทศญี่ปุ่นทำสงครามกันเช่นนั้นแน่นอนว่าทั้งธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ถูกกฎหมายภายใต้องค์กรเหล่านี้จะได้รับผลกระทบไปด้วยหากมีการต่อสู้เต็มรูปแบบระหว่างทั้งสองแก๊งและมีแนวโน้มว่าจะมีผลกระทบในวงกว้างและเกรงว่ากรมตำรวจโตเกียวแห่งเดียวจะไม่สามารถควบคุมเรื่องนี้ได้

ดังนั้นฮิโรโนะจึงรู้ดีว่าถ้าหากตนเข้าไปแทรกแซงล่ะก็ไม่เพียงแต่แก๊งยามากุจิไม่มีได้รับผลกระทบอะไรใดๆเท่านั้นแต่ตัวเองอาจจะถูกเบื้องบนตำหนิเพราะเขาเข้าใจดีว่าแก๊งยามากูจินั้นทรงอำนาจและอิทธิพลเพียงใดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีอยู่หลายครั้งที่พวกเขาต้องหลีกเลี่ยงแก๊งยามากุจิระหว่างที่พวกเขาปฏิบัติการและถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่หลีกเลี่ยงแต่ส่วนใหญ่พวกเขาก็ต้องปล่อยผ่านเพราะมันเป็นแค่เรื่องก่อความวุ่นวายธรรมดา ที่สำคัญกว่านั้นเขาไม่ใช่หนึ่งในนักการเมืองเหล่านั้นดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องไปรุกรานแก๊งยามากุจิจนทำให้ตัวเองต้องเสี่ยงเช่นนั้น

ส่วนแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นฮิโรโนะเองก็รู้ดีว่าแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นก็มีอิทธิพลอย่างมากเช่นกันทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศเพราะองค์กรต่างชาตินั้นมีเพียงแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงเท่านั้นที่สามารถโด่งดังและยิ่งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นได้และกล้าที่จะท้าทายแก๊งยามากูจิอย่างเปิดเผยและกล้าแม้แต่จะลอบสังหารเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการที่จะรุกรานทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตามฮิโรโนะก็เติบโตมาในประเทศญี่ปุ่นและคลุกคลีอยู่ในวงการนี้มาโดยตลอดดังนั้นแน่นอนว่าเขาจะมีความเห็นแก่ตัวของตัวเองและก็มีทัศนคติที่เบี่ยงเบนไปทางแก๊งยามากุจิมากกว่าซึ่งไม่ต้องสงสัยเลย

ในช่วงปีที่ผ่านมาถึงแม้ว่าสถานการณ์ระหว่างแก๊งในประเทศญี่ปุ่นจะตึงเครียดมากเพราะมีการปะทะกันด้วยปืนหลายครั้งไม่ว่าจะระหว่างแก๊งอินาดะ,แก๊งโยชิคาว่า,แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงและแก๊งยามากุจิ แต่สิ่งที่ฮิโรโนะไม่เข้าใจก็คือทำไมแก๊งยามากุจิถึงได้ส่งคนไปที่บ้านของเซี่ยตงไป่เพื่อสร้างปัญหาเช่นนี้ ตามความเข้าใจของเขาแก๊งยามากุจิคงจะไม่โง่ส่งคนมาตายที่นี่หรอกใช่ไหม?นอกจากนี้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการประกาศสงครามกับแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงก็ตามแต่แก๊งยามากุจิก็ควรจะส่งคนมามากกว่านี้ใช่หรือไม่?ดังนั้นเขาจึงเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจว่าแก๊งยามากุจิทำอย่างนี้ด้วยเหตุผลอะไร

แต่มันก็ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้เพราะเขาต้องแก้ไขความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายก่อนและทำให้สถานการณ์เสถียรภาพเสียก่อนไม่เช่นนั้นหากการยิงปะทะปะทุขึ้นมันก็จะไม่มีประโยชน์อีกต่อไปและมันอาจจะเกี่ยวข้องกับทั้งประเทศอย่างควบคุมไม่ได้ ซึ่งในเวลานี้โย่วซวนก็โบกมือให้สมาชิกของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงทั้งหมดลดปืนลงเพราะเขาไม่อยากให้สมาชิกของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงมีปัญหากับตำรวจเหล่านี้

เมื่อเห็นเช่นนั้นฮิโรโนะก็เดินไปที่ด้านข้างของฮาราดะและมองเขาไปด้านข้างจากนั้นจึงหันไปมองเซี่ยตงไป่และดวงตาของเขาก็กวาดไปทั่วๆเพื่อจ้องมองทีละคน ซึ่งเขารู้จักเซี่ยตงไป่,เซี่ยจือยี่และโย่วซวนแต่ทว่าทั้งเย่เชียนและม่อหลงนั้นเขาไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้าคาดตามาก่อนจนเขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นเย่เชียนและเซี่ยตงไป่ยืนข้างๆกันในตำแหน่งเดียวกันดังนั้นเขาจึงคิดว่าตัวตนของเย่เชียนนั้นไม่ธรรมดา เนื่องจากฮิโรโนะคนนี้ต้องอยู่ในถนนสายนี้เขาจึงต้องเข้าใจกฎเกณฑ์และระดับชั้นของสมาชิกของแต่ละแก๊ง ซึ่งในแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงเองก็มีระบบลำดับชั้นที่เข้มงวดและไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ลูกน้องจะยืนอยู่ข้างๆหัวหน้าเช่นนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่งตัวตนของเย่เชียนและเซี่ยตงไป่เท่าเทียมกันหรือเย่เชียนนั้นมีระดับที่สูงกว่า ดังนั้นสิ่งนี้จึงทำให้ฮิโรโนะสับสนงุนงงอย่างมากและพยายามอย่างหนักที่จะนึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีหน้าตาเหมือนเย่เชียนในใจของเขาและพยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเย่เชียน

อย่างไรก็ตามข้อมูลของเย่เชียนนั้นเป็นความลับระดับสุดยอดในทุกๆประเทศ ตัวอย่างเช่นในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นข้อมูลของเย่เชียนจะถูกจัดเก็บเอาไว้ในไฟล์ลับสุดยอดในคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ของ CIA และ FBI เท่านั้น ดังนั้นองค์กรรัฐบาลอื่นๆจะไม่มีข้อมูลของเย่เชียนเลยแม้แต่น้อย

ดังนั้นฮิโรโนะจึงคิดว่าการที่แก๊งยามากุจิส่งคนไปถึงหน้าบ้านของเซี่ยตงไป่อย่างโง่เขลาเช่นนี้ก็เพื่อไปหาชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาคนนี้ใช่ไหม?

เมื่อเห็นฮิโรโนะจ้องมองเขาเย่เชียนก็ยิ้มจางๆโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆและมองเขาด้วยท่าทางขี้เล่น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการแสดงออกของเย่เชียนจะดูธรรมดามาก แต่ฮิโรโนะเองก็ก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจแห่งความตายจากร่างกายของเย่เชียนซึ่งจิตสังหารและเจตนาฆ่านั้นดูรุนแรงอย่างผิดปกติและนี่เป็นออร่าที่ทหารผ่านศึกสามารถมีได้เท่านั้น ซึ่งความแข็งแกร่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าชายผู้นี้ได้ผ่านชีวิตและความตายมามากมายนับไม่ถ้วน เมื่อคิดเช่นนั้นความหนาวเหน็บที่อธิบายไม่ได้ก็ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของฮิโรโนะและเข้าสู่จิตใจของเขาโดยตรงจนทำให้เขาสั่นไปทั้งตัวอย่างควบคุมไมได้

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อทำให้อารมณ์และจิตใจของเขาคงที่แล้วฮิโรโนะก็มองไปที่ฮาราดะแล้วพูดว่า “คุณฮาราดะiu [สั่งให้ลูกน้องของคุณเก็บปืนไปซะ” จากนั้นเขาก็มองไปที่เซี่ยตงไป่และพูดว่า “คุณเซี่ยด้วยครับรบกวนให้คนของคุณเก็บปืนด้วย” จากนั้นเขาก็พูดเบาๆ “กรมตำรวจโตเกียวของเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจนนำไปสู่สงครามกลางเมือง”

ในเมื่อโย่วซวนเรียกตำรวจเหล่านี้มาดังนั้นเซี่ยตงไป่จึงโบกมือและสั่งให้คนของเขาทั้งหมดเก็บปืนกลับไป เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้วเขาก็รู้สึกว่าการตัดสินใจของโย่วซวนนั้นถูกต้องเพราะถ้าหากตำรวจไม่มามันก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะยุติความจัดแย้งกับแก๊งยามากุจิจนทำให้เกิดสงคราม ด้วยความแข็งแกร่งของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงในปัจจุบันนั้นยังไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากับแก๊งยามากุจิทั้งหมดได้ ยิ่งแกว่านั้นแม้แต่ในสมัยที่แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงยังรุ่งเรืองก็ไม่สามารถรับมือกับแก๊งยามากุจิทั้งหมดได้อยู่ดีเพียงแค่ว่าแก๊งยามากุจินั้นต้องรับมือกับแก๊งต่างๆทั่วประเทศมันจึงนำไปสู่การปะทะกันอย่างไม่เป็นทางการและการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มเล็กๆที่ไม่ใช่ศึกชี้ขาดของแก๊ง

ตอนที่ 615 ป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม 1

ตอนที่ 615 ป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม 2

ตอนที่ 615 ป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน