ตอนที่ 707 ยึดอำนาจ ตอนที่ 5
ฟูมะฮายาคุจินั้นไม่ใช่คนโง่หากเขาไม่สามารถเห็นข้อเท็จจริงได้อย่างชัดเจนในเวลานี้ก็แสดงว่าเขาเป็นผู้นำที่ไร้ประโยชน์จริงๆ แต่เขานั้นไม่ได้คาดหวังว่าทุกอย่างจะเป็นเหมือนกับที่เย่เชียนพูดออกมาทุกอย่างว่าเป็นแผนการสมรู้ร่วมคิดของนากาซาวะเคโกะกับดันโซบายาชิ โดยการแฝงตัวเข้ามาทำให้ระหว่างตระกูลฟูมะกับตระกูลฮัตโตริขัดแย้งกันจากนั้นก็จะกำจัดทั้งสองตระกูลไปพร้อมๆกัน
ฟูมะฮายาคุจินั้นไม่ได้กลัวความตายแต่ตอนนี้หลานชายสุดที่รักของเขากำลังตกอยู่ในกำมือของคนอื่น ซึ่งถ้าหากคาเอดะเป็นอะไรไปล่ะก็ความหวังทั้งหมดที่ฟูมะฮายาคุจิคาดหวังเอาไว้ก็จะพังทลายเพราะท้ายที่สุดแล้วหลานชายคนนี้ก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยโดยคาเอดะที่สามารถดูแลบริษัทฟูมะกรุ๊ปได้ตั้งแต่อายุยังน้อยและสามารถพัฒนาได้เป็นอย่างรุ่งโรจน์ซึ่งทำให้เขาเอ็นดูหลานชายคนนี้มาเสมอ ดังนั้นตัวเขาเองจะเป็นหรือตายมันก็ไม่สำคัญแต่เขาจะปล่อยให้หลานชายของเขาตายไปแบบนี้ไม่ได้ไม่เช่นนั้นความหวังทั้งหมดของเขาคงจะพังทลายไปต่อหน้าต่อตาและตระกูลฟูมะก็คงจะต้องสิ้นสุดเพียงเท่านี้เป็นแน่
เขาเสียใจที่เขาหยิ่งผยองเกินไปจนไม่ยอมฟังคำพูดของเย่เชียนไม่เช่นนั้นสถานการณ์ในปัจจุบันก็คงจะไม่เป็นเช่นนี้ส่วนเรื่องฮัตโตริชิฮิโระกับเย่เชียนนั้นเขาก็สามารถจัดการในภายหลังก็ย่อมได้ แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ใดๆเกิดขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามปาฏิหาริย์นั้นอยู่ที่ไหน? เมื่อคิดเช่นนั้นฟูมะฮายาคุจิก็อดไม่ได้ที่จะหันไปหาเย่เชียนที่อยู่ข้างๆเพราะนี่อาจเป็นความหวังเดียวของเขาใช่ไหม? อย่างน้อยๆความสงบเสงี่ยมบนใบหน้าของเย่เชียนก็ทำให้เขาต้องสงสัยว่าเย่เชียนนั้นมีความมั่นใจอย่างสมบูรณ์ที่จะออกจากที่นี่ไปได้และเกรงว่าสิ่งเหล่านี้อยู่ในการคำนวณของเย่เชียนเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วเย่เชียนจะยอมช่วยเขาให้รอดหรือไม่?
ฮัตโตริชิฮิโระนั้นไม่ได้มีความคิดเหมือนกับฟูมะฮายาคุจิเพราะเขารู้ว่าวันนี้เขาอาจจะไม่ได้รอดชีวิตกลับไปดังนั้นเขาจึงคิดแค่ว่าถ้าหากเขาต้องตายเขาก็จะต้องดึงฟูมะฮายาคุจิลงนรกไปกับเขาด้วย
หลังจากฟังคำพูดของดันโซบายาชิแล้วนากาซาวะเคโกะก็วางร่างของคาเอดะเอาไว้แล้วพูดอย่างมีความสุขว่า “ผู้อาวุโสดันโซในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว..ถ้าคุณมาช้ากว่านี้ฉันเกรงว่าฉันคงจะไม่รอด..ตาเฒ่าพวกนี้ต้องการจะฆ่าฉันในตอนนี้”
การแสดงออกที่เสแสร้งแกล้งทำของนากาซาวะเคโกะนั้นก็ทำให้เย่เชียนถึงกับขนลุกอย่างไม่รู้ตัวเพราะเมื่อเห็นหญิงสาวที่แสดงละครต่อหน้าชายชราเช่นนี้เย่เชียนจึงรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างมาก
“ไม่ต้องกลัวไปหรอกที่รักฉันอยู่ที่นี่แล้ว” ดันโซบายาชิพูด “ไม่ต้องกังวลไปเดี๋ยวฉันจัดการที่เหลือเอง” ขณะที่ดันโซบายาชิพูดเขาก็กิดนากาซาวะเคโกะไว้ในอ้อมแขนของเขาและเหลือบมองไปที่คาเอดะที่นอนอยู่บนพื้นและพูดอย่างประชดประชันว่า “หึ..นายน้อยรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งของสำนักนินจาอิงะงั้นเหรอ..ช่างน่าขันสิ้นดีที่ถูกทหารรับจ้างกระจอกๆชนะ..มันเสื่อมเสียเกียรติของนินจาจริงๆ”
“ผู้อาวุโสดันโซทำไมคุณถึงกล้าพูดแบบนั้นล่ะ” เย่เชียนแสร้งพูดอย่างหดหู่ใจ “ถึงแม้ว่าเราจะเป็นทหารรับจ้างแต่เราก็ไม่ใช่นักเลงกระจอกๆคอยให้ใครดูถูกหรอกนะ”
“จริงเหรอ?” ดันโซบายาชิก็หัวเราะเยาะและพูดว่า “คุณเย่ช่างสงบเสงี่ยมจริงๆ..คุณไม่กลัวว่าผมจะฆ่าคุณงั้นเหรอ?”
“คุณไม่ได้บอกว่าคุณจะนำตัวผมไปให้สมาคมมังกรดำหรอกเหรอ..ผมไม่คิดว่าคุณจะกล้าฆ่าผมหรอก” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ลูกสาวของชิบะชิเงโอะรองผู้นำของสมาคมมังกรดำก็ยังตกอยู่ในกำมือของผม..ถ้าคุณฆ่าผมเธอก็ต้องตายตามไปด้วยและมังกรดำจะตำหนิและลงโทษคุณอย่างแน่นอนในตอนนั้น..ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้ดีกว่าใครนะ”
คิ้วของดันโซบายาชิก็ขมวดเข้าหากันและเขาก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เย่เชียนพูดออกมานั้นเป็นความจริง เพราะถ้าเขาฆ่าเย่เชียนล่ะก็เองชิบะโชโกะลูกสาวคนเดียวของชิบะชิเงโอะก็ต้องถูกฆ่าไปด้วยและสิ่งนี้มันจะเป็นผลเสียต่อดันโซบายาชิอย่างมากและมันจะทำลายความสัมพันธ์ของเขากับสมาคมมังกรดำไป ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมมังกรดำล่ะก็ดันโซบายาชิก็คงไม่มีความมั่นใจที่จะกำจัดเหล่าสมาชิกของตระกูลฟูมะและตระกูลฮัตโตริเป็นแน่ นอกจากนี้เขาก็ประกาศศักดิ์ดาอย่างโจ่งแจ้งแล้วดังนั้นแน่นอนว่าเหล่าสมาชิกของตระกูลฟูมะกับตระกูลฮัตโตริคงไม่ปล่อยเขาไปใช่ไหม? ยิ่งไปกว่านั้นหากปราศจากการคุ้มครองของสมาคมมังกรดำแล้วมันก็มีแต่ความตายเท่านั้น
ดันโซบายาชิก็พูดว่า “คุณพูดถูก..ผมจะไม่ฆ่าคุณแต่ชีวิตของคุณก็อยู่ในกำมือของผมอยู่ดี..ผมจะไม่ปล่อยให้คุณมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน..ผมรับปากเลยว่าคุณจะตกนรกเหมือนตายทั้งเป็น”
เย่เชียนพูดพลางสบถเล็กน้อยว่า “เหรอ?..ขอโทษทีนะผมเคยถูกCIAของสหรัฐอเมริกาควบคุมตัวและเค้นความลับมาแล้วเพราะงั้นผมจะไปกลัวพวกคุณได้ยังไง..แต่ก็นะดูแลผมให้ดีด้วยเพราะร่างกายของผมไม่ค่อยดีนัก..ถ้าผมทนไม่ได้และตายไปล่ะก็นั่นคงจะเป็นโชคร้ายของคุณ” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “อย่างไรก็ตามผมขอแนะนำผู้อาวุโสดันโซว่าอย่าเพิ่งภูมิใจจนเกินไปเพราะสงครามมันยังไม่จบและเรายังไม่รู้ว่าใครจะชนะและใครจะแพ้..คุณคิดว่าผมพูดถูกมั้ยคุณนากาซาวะเคโกะ?”
นากาซาวะเคโกะก็ฉีกยิ้มเพราะเห็นได้ชัดว่าเย่เชียนพูดเป็นนัยๆถึงเธอและเธอก็เข้าใจความหมายจากคำพูดของเย่เชียนได้เป็นอย่างดีแต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะรู้สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ ดังนั้นเธอจึงสับสนว่าเย่เชียนรู้แผนการของเธอได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเรื่องก็ดำเนินมาถึงจุดนี้แล้วและไม่มีทางที่จะหยุดได้และไม่มีโอกาสให้ย้อนกลับและทำได้เพียงแค่เดินหน้าต่อไปเท่านั้น ซึ่งเดิมทีนากาซาวะเคโกะเองก็ไม่คิดที่จะปล่อยเย่เชียนรอดชีวิตออกไปจากที่นี่อยู่แล้วไม่เช่นนั้นมันจะเป็นปัญหาที่ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆหลังจากที่ปล่อยเสือขึ้นภูเขา
ดันโซบายาชิก็ยิ้มอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไรใดๆ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขายังไม่รู้เรื่องราวต่างๆและไม่ได้มีข้อสงสัยใดๆต่อนากาซาวะเคโกะ เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ผมได้ยินมานานแล้วว่าราชาหมาป่าเย่เชียนมีไหวพริบที่ยอดเยี่ยมและฉลาดมาก..แต่ผมอยากจะรู้จริงๆว่าวันนี้คุณหนีรอดกลับไปได้ยังไงภายใต้การล้อมอันหนักหน่วงของเหล่านินจาตระกูลดันโซ”
“ฮ่าๆ..ผมขอขอบคุณเกี่ยวกับคำชม..แต่ว่าผมไม่ได้วางแผนที่จะกลับออกไปมือเปล่าหรอก” เย่เชียนแสยะยิ้มแล้วพูด



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน