เย่เชียนหัวเราะแห้ง ๆ แล้วพูดกับแจ็คว่า “แหะ ๆ ๆ ผู้หญิงคนนี้ชอบพูดอะไรไร้สาระไปเรื่อยแหละ… นายอย่าไปสนใจเธอเลย”
เอาเข้าจริงฉินหยูนั้นต้องการที่จะรู้จักที่มาที่ไปของเย่เชียนมาก เธอไม่เชื่อเลยว่าเขาเป็นแค่บอดี้การ์ดของจ้าวหยาเท่านั้น แต่ก็แน่นอนว่าคนอย่างฉินหยูจะไม่ซักไซ้ไล่เรียงกับเย่เชียนให้ต้องลำบากใจกัน เธอจึงพยักหน้าน้อย ๆ แล้วหันกลับไปสนใจกับงานจัดแสดงโชว์เครื่องประดับต่อ
เย่เชียนจ้องเขม็งไปที่แจ็คอย่างดุเดือดและพูดเบา ๆ ว่า “นายอย่าคิดทำอะไรโง่ ๆ นะ ที่นี่คือประเทศจีน หากอะไร ๆ ผิดพลาดขึ้นมา แผนการทั้งหมดของพวกเราก็จะพังพินาศไปทั้งหมด”
“บอส… บอสกลายเป็นคนขี้กลัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ? ไม่ต้องห่วงหน่า… เราได้วางแผนเอาไว้หมดแล้ว ผมเอาหัวเป็นประกันเลยว่าเราจะสามารถอยู่ในประเทศจีนได้โดยไม่ต้องหลบซ่อนและทางสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ NSB จะไม่มีทางหาพวกเราพบ” แจ็คพูดอย่างสบาย ๆ และฉีกยิ้มมั่นใจ
เย่เชียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “นายอย่าดูถูก NSB จนเกินไป… พวกเขาไม่ได้โง่นะ ขืนเราทำอะไรโจ่งแจ้งเกินไปพวกเขาจะรู้แน่ แต่ก็เอาเถอะ… ถ้านายยังยืนยันอย่างงั้น ฉันก็จะไม่พูดอะไรอีก… ฉันน่ะรู้ฝีมือนายดี แค่ต้องระวังอย่าให้มันโจ่งแจ้งเกินไปก็แค่นั้น”
แจ็คหัวเราะอย่างซุกซนและพยักหน้า จากนั้นก็ตอบว่า “ฮิฮิ รับทราบครับโผม!” พูดจบเขาก็พับแล็ปท็อปของเขาลงแล้วลุกขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะเดินจากไปนั้น เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เลยโน้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างหูของเย่เชียน
“บอส… พี่สะใภ้เขามีอะไรมากกว่าที่ตาเห็นนะ… อย่าปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้ล่ะ”
เย่เชียนยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้ว่าเด็กคนนี้คงไม่พลาดที่จะสืบค้นข้อมูลภูมิหลังของฉินหยูมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้เขาก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีอีกด้วย แจ็คเป็นเด็กหนุ่มอัจฉริยะที่มีความสามารถทางคอมพิวเตอร์เป็นเลิศ เพราะฉะนั้นหากเขาต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับใครสักคน มันก็ไม่ยากเกินความสามารถของเขาเลย เพียงแต่ในตอนนี้เย่เชียนยังไม่มีโอกาสถามถึงรายละเอียดจากเขา
อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร เพราะเขาสามารถถามข้อมูลทั้งหมดจากแจ็คได้หลังจากงานในคืนนี้จบลง
เมื่อการจัดแสดงเครื่องประดับใกล้จะสิ้นสุดลง เสียงของพิธีกรก็ดังขึ้นมาจากบนเวที เขาประกาศว่าเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายที่กำลังจะถูกนำขึ้นมาบนเวทีแห่งนี้มีชื่อว่า ‘ดวงดาวแห่งความรัก’
ผ้าม่านฉากหลังของเวทีถูกปิดลงช้า ๆ ขณะที่นางแบบชาวจีนที่สวมสร้อยคออันเลอค่าก็เดินขึ้นไปบนเวทีอย่างเฉิดฉาย สร้อยคอเส้นนี้ถูกออกแบบโดยแมรี่ ซึ่งเธอต้องการที่จะออกแบบมันมาสำหรับกุลสตรีทางตะวันออก สร้อยคอเส้นนี้ไม่เพียงแต่สามารถดึงความสง่างามอันอ่อนโยนของกุลสตรีที่ดีออกมาได้ แต่ยังสามารถเสริมสร้างเสน่ห์ของพวกเธอได้อีกด้วย
แม้แต่เย่เชียนที่ไม่รู้เรื่องเครื่องประดับมากนักก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน เขาออกปากชมและยอมรับว่าแมรี่นั้นช่างเข้าใจความแตกต่างระหว่างผู้หญิงตะวันออกกับผู้หญิงตะวันตกเป็นอย่างดี
เยี่ยมจริง ๆ เมื่อใส่สร้อยคอเส้นนี้มันสามารถเผยให้เห็นเสน่ห์เฉพาะตัวของกุลสตรีตะวันออกได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เครื่องประดับชิ้นนี้คงจะสวยจริง ๆ เพราะการแสดงออกที่เยือกเย็นและสง่างามของฉินหยูนั้น ในที่สุดก็เปลี่ยนไป การปรากฏตัวของ ‘ดวงดาวแห่งความรัก’ ทำให้เธอเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้นและร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านเพราะความงดงามของมัน
เย่เชียนรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ เขามองปราดเดียวก็รู้ว่าฉินหยูสนใจสร้อยคอเส้นนี้เป็นอย่างมาก
และแล้ว การจัดแสดงเครื่องประดับก็สิ้นสุดลง หลังจากหยุดพักครึ่งชั่วโมง การประมูลก็จะเริ่มต้นขึ้น…
“เจ๊หยู… เจ๊ก็มาด้วยเหรอ ? อ้าว…! แล้วนายมาอยู่นี่ได้ไง ?”
เสียงผู้หญิงที่เหมือนเสียงของนกอินทรีดังขึ้นขณะที่เย่เชียนและฉินหยูกำลังเดินไปที่ห้องนั่งเล่นที่อยู่ในห้องถัดไปเพื่อพักผ่อน
เย่เชียนหันหน้าไปมองและไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นจ้าวหยายืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเขาเห็นเธอ เขาก็ยิ้มจาง ๆ แล้วพูดว่า “อ้าว! คุณภรรยาตัวน้อย เธอก็มาที่นี่ด้วยงั้นเหรอ ?”
“นี่ไอ้คนขี้โกง! นายเรียกใครว่าภรรยากันยะ ?” จ้าวหยาตอกกลับอย่างโกรธเคือง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน