ตอนที่ 723 ศิลปะการต่อสู้ผสมผสานโยคะ ตอนที่ 1
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เชียนคนเหล่านั้นก็มองมาที่เขาอย่างว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจสิ่งที่เย่เชียนพูด อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่กล้ากระทำการใดๆอีกต่อไปหลังจากได้เห็นพลังของเย่เชียน เพราะภายในชั่วพริบตาพวกเขาเกือบจะมองไม่เห็นการโจมตีของเย่เชียนเลย ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ที่มั่นใจของเย่เชียนแล้วพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะผลีผลามเคลื่อนไหวใดๆ
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูด “หืม..พวกแกไม่เข้าใจภาษาจีนเลยด้วยซ้ำแต่ยังกล้าออกมาทำตัวกร่างอีก” จากนั้นเย่เชียนก็ไปมองหลินเฟิงและพูดว่า “พี่หลินช่วยแปลให้ด้วย..การสื่อสารกับคนพวกนี้มันยากมาก”
หลินเฟิงก็แสยะยิ้มและแปลคำพูดของเย่เชียนเป็นคำต่อคำ หลังจากที่ได้ฟังแล้วคนเหล่านั้นก็มองหน้ากันและบางคนก็ไม่รู้ว่าเย่เชียนกำลังหลอกพวกเขาหรือเย่เชียนนั้นมีอิทธิพลจริงๆ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเพราะในกรณีนี้ถ้าหากพวกเขาตัดสินใจพลาดมันก็ไม่สามารถแก้ไขได้อีก ซึ่งถ้าหากพวกเขาทำให้คนเหล่านี้ขุ่นเคืองล่ะก็พวกเขาก็จะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“มองอะไร?..ออกไปซะ..ไม่งั้นฉันจะส่งพวกแกไปพบเทพแห่งความตายทีละคนเอง” เย่เชียนจ้องมองพวกเขาโบกมือและทำท่าโจมตีจนคนเหล่านั้นไม่กล้าที่จะลังเลอีกต่อไปและพวกเขาก็ตัดสินใจรีบวิ่งหนีและไม่พูดอะไรใดๆอีก
หลังจากเห็นคนเหล่านั้นวิ่งหนีไปดีห์ราห์ก็หันไปมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “ขอบคุณ!” ถึงแม้ว่าดีห์ราห์จะไม่ได้รู้สึกขอบคุณในสายตาของเขามากนักแต่มันก็เป็นเพียงมารยาทเท่านั้น
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มพลางคิดว่าเด็กคนนี้ค่อนข้างหยิ่งผยองจากนั้นเขาก็หันไปเหลือบมองที่ไป๋ฮวยและไป๋ฮวยก็เข้าใจแล้วก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วพูดว่า “จำฉันได้มั้ย?..ให้ฉันแนะนำนะนี่คือเย่เชียนส่วนคนนี้หลินเฟิง”
“สวัสดีครับคุณเย่..คุณหลิน!” ดีห์ราห์พูดทักทายอย่างสุภาพ จากนั้นเขาก็เหลือบมองไป๋ฮวยและพูดว่า “ผมขอขอบคุณอีกครั้งนะครับ..ก่อนหน้านี้ถ้าไม่ใช่เพราะคุณผมคงไม่รอดแล้ว”
ไป๋ฮวยก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ต่อให้ไม่มีฉันก็เถอะถึงยังไงนายก็หนีไปได้ด้วยทักษะของนายอยู่ดี..แต่หลังจากนี้ไปนายคงหนีไม่พ้นอีกแล้วเพราะถ้าพวกมันมาตามตัวถึงที่นี่พวกมันคงจะไม่ปล่อยนายไปอีกแน่..แล้วนายจะทำยังไงต่อ?”
“ผมต้องทำยังไงดี..พวกมันเป็นนักเลงท้องถิ่นของที่นี่..ผมทำได้แค่อดทนกับมันตอนนี้เพราะตราบใดที่ผมชนะการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ผมก็ได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจของพวกมันอีก..ถึงยังไงผมก็ต้องอดทนจนกว่าผมจะคว้าแชมป์ในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้!” ดีห์ราห์พูดอย่างหนักแน่นพร้อมกับสีหน้าของความแน่วแน่ที่เปล่งออกมาจากดวงตาของเขานั้นเกินคำบรรยาย
“ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดีแต่นายเคยคิดบ้างไหมว่าถ้านายไม่สามารถชนะการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ได้มันจะเป็นยังไง?..นอกจากนี้ถึงแม้ว่านายจะชนะการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แต่นายจะทำยังไงต่อล่ะ?..คนเหล่านั้นไม่กล้าทำอะไรนายเพราะนายเป็นแชมป์ของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้งั้นเหรอ?” เย่เชียนพูด
ดีห์ราห์ก็ถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์แล้วพูดว่า “ดูจากการแต่งกายของคุณแล้วคุณต้องเป็นคนรวยและมีอิทธิพลมากใช่มั้ย?..ผมเป็นแค่คนธรรมดาเพราะงั้นผมไม่สามารถไปเทียบอะไรกับคุณได้หรอก..บางทีคุณอาจคิดว่าคุณจะได้เป็นแชมป์การแข่งขันและมันอาจไม่สำคัญสำหรับคุณ..แต่สำหรับผมแล้วมันสำคัญมากเพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของผมได้..ซึ่งเงินรางวัลมันก็เพียงพอแล้วสำหรับผมที่จะใช้ชีวิตไปทั้งชาติและเพียงพอสำหรับครอบครัวของผม..พวกคนรวยอย่างคุณไม่มีทางเข้าใจชะตากรรมของชนชั้นล่างแบบเราหรอก..คราวนี้ผมไม่ลังเลเลยที่จะลักลอบเข้าประเทศญี่ปุ่นเพียงเพื่อชิงแชมป์การแข่งขันศิลปะการต่อสู้..ผมอยากที่จะชนะและถึงแม้ว่าผมจะรู้ดีว่ามันอาจจะมีปัญหาในอนาคตแต่ผมก็เชื่อว่าตราบใดที่ผมไม่เหน็ดเหนื่อยไม่ท้อถอยล่ะก็ผมจะได้รับสิ่งที่ต้องการอย่างแน่นอน”
“จริงเหรอ?” เย่เชียนฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “บางทีนายอาจไม่รู้เกี่ยวกับการแข่งขันศิลปะการต่อสู้เหล่านี้..ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกนายให้นะว่านายไม่ใช่คนเดียวที่ต้องการคว้าแชมป์เพราะการแข่งขันศิลปะการต่อสู้มันเกี่ยวข้องกับการแข่งขันระหว่างหลายๆฝ่ายหลายๆประเทศ..ทั้งการพนันใต้ดินและการแข่งขันทางธุรกิจ..วงการนี้มันโหดร้ายเพราะมันอาจจะมีคนมาลอบสังหารนายนอกสังเวียนก็เป็นได้..สิ่งที่เรียกว่าแชมเปี้ยนหรือรองชนะเลิศล้วนสามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงได้ในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ขนาดใหญ่แบบนี้..นายคิดว่านายสามารถเปลี่ยนมันได้ด้วยความแข็งแกร่งของนายเหรอ?”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “เอาล่ะ..ตอนนี้ถ้าคู่แข่งของนายรู้ตัวตนของนายและรู้เรื่องของนายล่ะก็พวกเขาสามารถไปแจ้งตำรวจและส่งตัวนายกลับประเทศได้..บางทีผู้จัดงานการแข่งขันอาจจะตัดสิทธิ์นายออกจากการแข่งขันเพราะนายเป็นคนที่ไม่มีสถานะทางกฎหมายและในกรณีนี้นายจะมีโอกาสคว้าแชมป์ได้อยู่อีกเหรอ”
ดีห์ราห์ก็ถึงกับแน่นิ่งไปแลเขาก็ต้องยอมรับว่าเย่เชียนนั้นกำลังพูดความจริง ซึ่งการแข่งขันไม่จำเป็นต้องเป็นรอบชิงชนะเลิศจริงๆเพราะรอบชิงชนะเลิศที่แท้จริงอยู่ใต้เวทีและถ้าหากคู่แข่งของเขารู้เรื่องของเขาล่ะก็เขายังจะยืนอยู่บนเวทีเพื่อแข่งขันได้อยู่อีกหรือไม่? มันควรจะเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย? อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นโอกาสเดียวของเขาและโอกาสเดียวที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของเขา เมื่อเขาคิดว่าเขายังมีแม่รออยู่ที่บ้านแบบนี้แล้วเขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร? ถึงแม้จะมีความหวังเพียงเล็กน้อยแต่เขาก็ต้องยึดมั่นเอาไว้จนถึงที่สุด
ดีห์ราห์ก็มองไปที่เย่เชียนแล้วถามว่า “คุณมาหาผมเป็นพิเศษหรือคุณแค่บังเอิญผ่านมา?”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน