ตอนที่ 752 ปล่อยวาง
ถังซูหยานก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “บางครั้งจิตใจของคนเราก็สำคัญกว่าผลลัพธ์ที่แท้จริง..แค่เธอมีความคิดแบบนั้นมันก็เพียงพอแล้วที่จะขอบคุณและมันก็ไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะช่วยหรือเปล่า” หลังจากหยุดไปขณะชั่วขณะเธอก็พูดต่อ “เอาล่ะนี่ก็ดึกมากแล้วเธอกลับไปพักผ่อนเถอะ..ทำสมาธิให้ดีและหวังว่าเธอจะแสดงได้ดีในสนามการประลองศิลปะการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้”
“คุณไม่อยากรู้หรอว่าชายชุดดำนั้นเป็นใคร?” เย่เชียนถามด้วยความสงสัย
เมื่อได้ยินเช่นนั้นถังซูหยานก็ยิ้มจางๆแล้วพูดว่า “มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะเป็นใครและฉันเองก็ไม่ได้อยากรู้เหมือนกัน..ถ้าไม่ใช่งานครบรอบวันเกิดแปดสิบปีของผู้อาวุโสเขาคงจะไม่มาที่นี่หรอก..ต่อให้เขาจะไม่เต็มใจยอมรับก็ตามแต่เขาจะไม่มีโอกาสอีกครั้งในอนาคต”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “คุณหญิงรองช่างใจดีจริงๆ..ในสังคมสมัยนี้คนอย่างคุณหายากอย่างมาก..ถ้าเป็นไปได้ ผมหวังว่าคุณจะสามารถรักษาทัศนคติแบบนี้เอาไว้ได้ตลอดไปนะครับ”
“เมื่อเธออายุเท่าฉันบางทีเธออาจจะเปิดใจกว้างเหมือนฉันก็ได้และเธอจะไม่ยึดติดกับสิ่งเหล่านั้นอีกต่อไป” ถังซูหยานพูด
เย่เชียนตอบกลับว่า “ผมเองก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็โค้งคำนับแล้วพูดว่า “ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณหญิงรอง..คุณเองก็พักผ่อนเยอะๆนะครับ” จู่ๆเย่เชียนก็หันกลับมาหลังจากเดินไปเพียงไม่กี่ก้าวจากนั้นก็เงยหน้ามองถังซูหยานแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหญิงรองครับวันนี้ผมมีความสุขมากที่ได้พูดคุยกับคุณ..ถ้ามีโอกาสคราวหน้าผมก็อยากจะคุยกับคุณอีก”
“ฉันก็ด้วย” ถังซูหยานพูด
จากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มอย่างมีความสุขแล้วเดินออกไป
เมื่อเห็นร่างของเย่เชียนค่อยๆหายไปในความมืดแล้วถังซูหยานก็จ้องมองอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานจากนั้นเธอก็เหลือบมองไปที่เสี่ยวฉุยแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ..พวกเราเองก็ควรจะไปพักผ่อนกันได้แล้ว”
“คุณหญิงรองคะคุณคิดว่าชายหนุ่มคนนี้แตกต่างจากแม่ของเขาหรือเปล่า..เขาดูเหมือนคุณชายรองจริงๆ..คุณหญิงรองสังเกตเห็นแววตาของเขามั้ย?..ทั้งสองช่างเหมือนกันจริงๆ..ถ้าเป็นฉันล่ะก็ฉันก็คงจะปฏิบัติต่อเขาเหมือนลูกชายเช่นกัน” เสี่ยวฉุยพูด
“มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ..พวกเขาคล้ายคลึงกันจนหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะคิดแบบนั้น” ถังซูหยานพูด ถึงแม้ว่าคำพูดของเธอจะดูผ่อนคลายมากแต่เธอก็มีความคิดเช่นเดียวกับเสี่ยวฉุยอยู่ในใจของเธอ เพียงแต่เธอนั้นรู้อยู่แก่ใจว่าลูกชายของเธอนั้นเผชิญหน้ากับสิ่งที่เลวร้ายและไม่มีข่าวคราวใดๆเลยหลังจากที่เขาหายตัวไปหลายปีและโอกาสรอดก็มีน้อยอย่างมาก อย่างไรก็ตามหัวใจของเธอก็ยังคงมีความคาดหวังเช่นเดียวกับที่เย่เชียนคาดหวังให้ครอบครัวของเขานั้นยังมีอยู่จริงๆ
หลังออกจากศาลากลางบ่อน้ำมาแล้วเย่เชียนก็กระโดดข้ามกำแพงไปอย่างเงียบๆและกลับไปที่ห้องพักของเขา ซึ่งทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปเขาก็พบว่าอันซือนั้นนั่งรออยู่ข้างในแล้วใบหน้าของเธอก็ดูมืดมนและน่ากลัว ส่วนเย่เหวินก็ยืนอยู่ข้างๆอย่างระมัดระวังและประหม่า เมื่อเห็นเย่เชียนเข้ามาเธอก็รีบขยิบตาให้เย่เชียนทันที
“แกไปไหนมา..ทำไมแกถึงกลับมาดึกดื่นป่านนี้?” อันซือถามอย่างเย็นชา
“เอ่อ..ผมออกไปเดินเล่นมาน่ะอยู่แต่ในห้องมันอึดอัด” เย่เชียนพูดต่อ “ว่าแต่แม่รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่า..ถ้าแม่รู้สึกไม่ค่อยสบายก็ให้เสี่ยวเหวินพากลับไปพักผ่อนก่อนก็ได้
“แกกำลังซ่อนอะไรจากแม่หรือกลัวที่จะเจอหน้าแม่งั้นเหรอ?” อันซือพูดด้วยใบหน้าที่จริงจังอย่างมาก
“เปล่าครับ” เย่เชียนพูดต่อ “ผมแค่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพของแม่ก็แค่นั้น..พรุ่งนี้เป็นครบรอบวันเกิดแปดสิบปีของผู้อาวุโสตระกูลเย่เพราะงั้นเราไม่สามารถเสียมารยาทได้”
“ฉันรู้” อันซือพูด “พรุ่งนี้จะมีการแข่งขันการประลอง..แกจำที่แม่บอกได้มั้ยว่านี่เป็นโอกาสที่ดีเพราะงั้นแกก็อย่าทำให้แม่ผิดหวังล่ะ..หลังจากที่แม่รอมานานหลายปีเพียงเพื่อรอวันนี้วันเดียวเท่านั้น..ฉันต้องการให้ลูกหลานและคนของตระกูลเย่ได้รู้ซึ้งเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำ” จากนั้นเธอก็หันไปเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “เอาเถอะนี่มันก็ดึกมากแล้วแกควรไปพักผ่อนและรักษาสมาธิเอาไว้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้..อย่าทำให้แม่ต้องผิดหวังล่ะ”
หลังจากพูดจบอันซือก็ลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอกจากนั้นเย่เชียนก็ขยิบตาให้เย่เหวินซึ่งเธอก็รีบเดินตามและประคองอันซือเดินกลับไปที่ห้องของเธอ
หลังจากที่อันซือและเย่เหวินจากไปเย่เชียนก็ปิดประตูและสูดลมหายใจเข้าลึกๆและไม่รู้ว่าทำไมเพราะทุกๆครั้งที่เย่เชียนอยู่กับอันซือเย่เชียนก็มักจะรู้สึกเครียดและกดดันอย่างมากไม่เหมือนกับตอนที่เขาอยู่กับถังซูหยาน ซึ่งในตอนนี้เย่เชียนรู้สึกว่าเขากับถังซูหยานเป็นเหมือนลูกชายกับแม่เสียมากกว่าส่วนเขากับอันซือนั้นเป็นเหมือนคนแปลกหน้า


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน