ตอนที่ 850 จิตวิญญาณหม่าป่า
สภาพอากาศในทะเลทรายไม่เหมาะกับทุกๆคนและถึงแม้ว่าเย่เชียนจะผ่านการฝึกฝนมามากมายแต่ก็ยังยากต่อการปรับตัวให้เข้ากับทะเลทรายอยู่ดี นี่คือภูมิต้านทานของร่างกายมนุษย์และไม่เกี่ยวข้องกับความสามารถหรือความกล้าหาญของเย่เชียนแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นภารกิจแรกที่แท้จริงของเขาและยังเป็นภารกิจที่ยากและอันตรายมากและจะต้องเกิดความตึงเครียดความกังวลในใจของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อตอนที่เขาอยู่ที่ฐานบัญชาการกลางเขี้ยวหมาป่าเขาก็ได้ยินเกี่ยวกับสนามรบทุกๆรูปแบบมาหลายครั้งว่าสนามรบแต่ละที่นั้นโหดร้ายแค่ไหน แต่เขาไม่เคยสัมผัสมันด้วยตัวเองจริงๆและตอนนี้มันก็ถูกวางอยู่ตรงหน้าของเขาจริงๆและคงจะเป็นการโกหกถ้าหากบอกว่าเขาไม่ประมาท
หมาป่านั้นไม่ว่ามันจะได้รับการเลี้ยงดูมาแบบไหนตั้งแต่ยังเป็นเด็กและไม่ว่ามันจะไร้ความสามารถและขี้ขลาดแค่ไหนก็ตามแต่โดยธรรมชาติของหมาป่าแล้วเมื่อจิตวิญญาณของมันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจริงๆศัตรูทั้งหมดที่อยู่ข้างหน้ามันก็คือเศษเสี้ยวของเนื้อในปากของมันเท่านั้น เขี้ยวที่แหลมคมของมันจะฉีกร่างของศัตรูทั้งหมดและกรงเล็บของมันจะเจาะหัวใจของศัตรูอย่างน่าอนาถ
เย่เชียนนั้นเป็นหมาป่าและสามารถฉีกทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและเมื่อหมาป่าในร่างของเขาตื่นขึ้น โลกก็ถูกลิขิตให้สั่นสะเทือนเพราะเขา จากวินาทีนี้ชีวิตของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงและในที่สุดชื่อของเขาก็ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่จารึกเอาไว้ในโลก..ราชาหมาป่าเย่เชียน!
เย่เชียนก็ก้าวไปข้างหน้าและเดินไปยังแอชบี้และมองไปที่เขา เมื่อเผชิญหน้ากับเขาเย่เชียนนั้นดูอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับชายร่างกายใหญ่และสูงดั่งภูเขา อย่างไรก็ตามต่อหน้าคนเช่นนี้เย่เชียนไม่ได้แสดงความกลัวเลยแม้แต่น้อยด้วยดวงตาที่ไร้ความกลัวของเขาทำให้ผู้คนที่เห็นอดไม่ได้ที่จะคิดอย่างลับๆว่า ‘ทำไมเขาถึงยืนอยู่ที่นั่นได้อีก!’ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าเหมือนกับหมาป่าและเจตนาฆ่าที่รุนแรงดูเหมือนจะฉีกชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามออกเป็นชิ้นๆ
เมื่อเผชิญกับดวงตาของเย่เชียนแล้วจู่ๆแอชบี้ก็หวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูกและความกลัวนี้ก็กัดกินหัวใจของเขาและไม่ว่าเขาจะพยายามตั้งสติมากแค่ไหนมันก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์และดูเหมือนในสายตาของเย่เชียนแล้วเขาไม่ใช่คนที่สมบูรณ์อีกต่อไปแต่เป็นกองเนื้อที่ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยโดยเย่เชียน
เมื่อเห็นการแสดงของเย่เชียนแล้วไจแอนท์ก็อดยิ้มไม่ได้หันไปมองไป๋ฮวยและคนอื่นๆแล้วพูดว่า “น้องชายคนนี้ไม่ธรรมดาขจริงๆ..แค่สีหน้าก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ศัตรูรู้สึกหวาดกลัว..ฉันเชื่อว่าในอนาคตความสำเร็จของเขาจะสูงกว่าพวกนายและฉันมาก”
ไป๋ฮวยก็พยักหน้าและพูดว่า “ฉันเห็นด้วย!”
อู๋เต๋อ,ไจแอนท์และเจสันก็หันไปเหลือบมองเย่เชียนจากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ พวกเขาก็ไม่ได้คิดว่าความสำเร็จของเย่เชียนนั้นจะไม่สามารถไปสูงกว่าพวกเขาเพราะอย่างน้อยๆเย่เชียนต้องฝึกฝนอีกเป็นเวลานานเพราะแม้แต่ดาบก็ต้องลับให้คมเสียก่อนเพื่อที่จะคมและแข็งแกร่งอย่างแท้จริง
ในขณะนี้ไป๋ฮวยไม่ได้คาดหวังว่าเขาและเย่เชียนจะไปถึงขั้นระดับดังกล่าวได้ในวันนี้ อย่างไรก็ตามเขาก็จะไม่เสียใจกับการทำเช่นนี้เพราะในหัวใจของเขาเย่เชียนคือเพื่อนและน้องชายของเขาและไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไรหรือสิ่งต่างๆจะเปลี่ยนไปแบบไหนถึงยังไงนี่ก็เป็นความจริงที่ลบล้างไม่ได้
เมื่อเบรนเดนตะโกนว่า “เริ่มได้” เย่เชียนกับแอชชี่ก็พุ่งเข้าหากันซึ่งเย่เชียนนั้นมีความดื้อรั้นในสายเลือดของเขาเหมือนกับพ่อของเขา ถ้าเขาฟังคำพูดของไป๋ฮวยและโจมตีแอชบี้จากช่วงล่างมันจะราบรื่นกว่ามากอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าแอชบี้จะเป็นทหารหน่วยรบพิเศษและได้รับการฝึกการต่อสู้แบบมืออาชีพมาแล้วก็ตามแต่หลักสูตรการต่อสู้ของต่างประเทศยังไม่ค่อยเน้นการฝึกการใช้ช่วงล่างมากนัก ดังนั้นช่วงล่างจึงเป็นจุดอ่อนของพวกเขาและแน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะโจมตีช่วงล่างได้สำเร็จและยิ่งไปกว่านั้นความสูงของแอชบี้นั้นก็สูงและแข็งแรงและแม้แต่น้ำหนักของร่างกายก็เพียงพอที่จะสร้างสมดุลช่วงล่างให้แข็งแกร่งมันจึงไม่ง่ายเลยที่จะโจมตีช่วงล่างของเขา
อย่างที่เย่เชียนพูดถ้าเขาต้องการเหยียบอีกฝ่ายให้จมดินเขาก็ต้องทำให้อีกฝ่ายมั่นใจอย่างมากว่าเขาจะแพ้แล้วค่อยตอกย้ำทีหลัง ตอนนี้เบรนเดนดูผ่อนคลายและไม่แยแสเพราะฝีมือของแอชบี้ในกองทัพนั้นยอดเยี่ยมที่สุดและเขาก็เชื่อมั่นว่าภายใต้ฝีมือของแอชบี้แล้วเย่เชียนจะไม่มีวันชนะได้เลย
ยกเว้นไป๋ฮวยสมาชิกเขี้ยวหมาป่าคนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะกังวลและถึงแม้ว่าพวกเขาจะเคยเห็นทักษะการต่อสู้ของเย่เชียนแล้วแต่เห็นได้ชัดว่าสภาพร่างกายในปัจจุบันของเย่เชียนยังสู้ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ ซึ่งเย่เชียนนั้นจะต้องไม่แพ้ไม่เช่นนั้นองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะต้องมีจุดยืนอย่างยากลำบากในอนาคตแต่สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้คือเชื่อในตัวเย่เชียนเท่านั้น
“ปัง!” แอชบี้โจมตีไหล่ของเย่เชียนด้วยหมัดและร่างกายของเย่เชียนก็พุ่งออกไปราวกับว่าวที่แตกหักและล้มลงอย่างแรงกับพื้นและมีเสียง “กรึก” เสียงกระดูกไหล่ที่กระทบกับพื้น
ไจแอนท์และคนอื่นๆก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกหัวใจสลายอย่างกะทันหันจากนั้นพวกเขาต้องการรีบเข้าไปช่วยเย่เชียน อย่างไรก็ตามไป๋ฮวยก็ยื่นมือออกมาเพื่อหยุดพวกเขาเอาไว้และพูดว่า “ถ้าเขาล้มลงเขาก็ควรลุกขึ้นด้วยตัวเองไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถยืดหยัดได้อีกตลอดชีวิต”
ไจแอนท์และคนอื่นๆก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วก็หยุด ถึงแม้ว่าไป๋ฮวยจะอายุพอๆกับเย่เชียนแต่เขาก็เริ่มออกทำภารกิจตั้งแต่อายุ 12 ปีแล้วและผลงานของไป๋ฮวยก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเลยแถมยังเหนือกว่าพวกเขาเลยด้วยซ้ำ สำหรับพวกเขาแล้วพวกเขานั้นชื่นชมไป๋ฮวยอย่างจริงใจและถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยชอบความเป็นส่วนตัวและนิสัยสันโดษของไป๋ฮวยนักแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างพวกเขาก็เชื่อไป๋ฮวยในเวลานี้
“ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะออกมาแล้ว..พวกคุณแพ้” เบรนเดนยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วพูดเพราะตามที่คาดไว้เหล่าทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นไม่ได้เก่งอย่างที่เขาคิดจริงๆ
“มันยังไม่จบ!” เย่เชียนยืนขึ้นอย่างช้าๆและคว้าแขนขวาด้วยมือข้างหนึ่งแล้วบิดอย่างแรงและเพียงได้ยินเสียงกระดูกลั่นและแขนที่เหมือนจะหักก็ถูกบิดกลับเข้าไปอีกครั้ง “ผมยังยืนอยู่ได้แล้วแบบนี้จะนับว่าผมแพ้ได้ยังไง..เมื่อกี้ผมก็แค่เผลอและมันจะไม่เกิดขึ้นอีก” เย่เชียนพูดอย่างเย็นชา


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน