เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 976

ตอนที่ 976 ผู้ชายในหอพักสตรี

เด็กที่มาจากครอบครัวที่ยากจนจะมีปัญหากลัวโลกภายนอกเมื่อพบปะผู้คนและเข้าเมืองใหญ่ๆ เย่เชียนแต่ก่อนก็เหมือนกันเพราะเมื่อเห็นว่าเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียนสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดังๆ และกินกับดื่มอย่างอิ่มหนำสำราญเขาก็ย่อมมีความอิจฉาริษยาและความรู้สึกที่คิดว่าตัวเองต่ำต้อยอยู่ในใจ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเย่เชียนรู้ดีว่าพ่อของเขาลำบากยากเย็นดังนั้นเขาจึงไม่กล้าขออะไรมากเกินไปและเขาก็รู้สึกขอบคุณมากกว่าเดิมอีกด้วย

ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันมันไม่มีความยุติธรรมในสังคมอย่างแท้จริงและสำหรับคนอย่างเย่เชียนที่ปีนขึ้นจากด้านล่างของสังคมนั้นเขาก็เคยชินกับการได้เห็นสิ่งต่างๆ ในโลกภายนอกมานานและเขาก็เข้าใจมันมากขึ้นว่าในโลกนี้ไม่มีความยุติธรรมอยู่จริงและถ้าคุณไม่ประสบความสำเร็จนั่นก็แสดงว่าความพยายามของคุณยังไม่เพียงพอเพราะโลกนี้ไม่มีข้าวให้กินฟรีและถ้าอยากได้อะไรก็จะไม่ได้เสมอไป ถ้าเกิดมาจนต้องยอมจ่ายแพงกว่าคนอื่นและเหน็ดเหนื่อยและพยายามมากกว่าคนอื่น การอิจฉาคนอื่นนั้นเป็นการหลอกตัวเอง

ในความคิดของเยว่เหอตูนั้นห้องดังกล่าวหรูหราเกินไปสำหรับเขาและเขาก็ไม่กล้านั่งลงเหมือนเย่เชียน ซึ่งในขณะที่ยืนอยู่มือและเท้าของเขาก็ยังคงสั่นเล็กน้อยและน่าจะเป็นเพราะเขากำลังประหม่าอยู่

คนที่นั่งอยู่ด้านในสำนักงานเป็นชายชราคนหนึ่งสวมแว่นสายตาที่มีท่าทางดูใจดีและเขาไม่มีความเย่อหยิ่งเหมือนอาจารย์คนก่อนหน้านี้แต่เป็นชายชราที่ดูใจดีและเป็นมิตรมาก เมื่อมองไปที่เยว่เหอตูแล้วชายชราก็ถามว่า “เอ็งมีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่าพ่อหนุ่ม?”

“ผม..ผมเป็นนักศึกษามารายงานตัวครับ” เย่วเหอตูพูดอย่างประหม่า “ผม..ผมชื่อเยว่เหอตู”

สีหน้าของชายชราดูมึนงงเล็กน้อยจากนั้นเขาก็รับเอกสารจากเยว่เหอตูแล้วเปิดออกและพูดว่า “ตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยของเรานั้นถ้านักศึกษาใหม่ไม่มารายงานตัวเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์นับจากวันเปิดเทอมภาคเรียนก็จะถือเป็นการสละสิทธิ์โดยปริยาย..เอ็งมาสายเกินหนึ่งเดือนซึ่งหมายความว่าเอ็งได้สละสิทธิ์ไปแล้วพ่อหนุ่ม!”

ร่างกายของเยว่เหอตูก็สั่นสะท้านราวกับสายฟ้าฟาดจากท้องฟ้าสีครามและเขาก็ไม่สามารถฟื้นจากความตกใจได้ เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ขัดจังหวะและนั่งดูอยู่เงียบๆ “อาจารย์ครับคือครอบครัวผมมีปัญหาเพราะงั้นผมก็เลย..ผมเลยมาสาย..ผมขอโอกาสสักครั้งเถอะนะรับ..ทั้งครอบครัวยังหวังให้ผมเรียนจบที่มหาวิทยาลัยเพื่อมอบชีวิตดีๆ ให้กับพวกเขา..ถ้าผมทำไม่ได้ล่ะก็ความหวังทั้งครอบครัวก็จะพังทลายไป..เพราะงั้นอาจารย์ครับผมขอร้องล่ะครับ”

“ฉันเข้าใจความรู้สึกของเอ็งดีแต่มหาวิทยาลัยของเรามีกฎระเบียบที่ชัดเจนมาก” ชายชราพูดต่อ “ถ้าเอ็งมาสายเกินหนึ่งเดือนนั่นก็แสดงว่าเอ็งสละสิทธิ์และไม่อยากที่จะเรียน..ซึ่งทางมหาวิทยาลัยของเรามีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดสำหรับนักศึกษาที่ลงทะเบียนสมัครเรียนในแต่ละปีและมีจำนวนเยอะมาก..นั่นหมายความว่าถ้าเอ็งไม่มาตามเวลาที่กำหนดก็เท่ากับสละสิทธิ์ให้คนอื่นมาแทนยังไงล่ะ!”

น้ำตาที่วิตกกังวลของเยว่เหอตูกำลังจะร่วงหล่นแต่ความพยายามอย่างแรงกล้าก็ได้ยับยั้งน้ำตาของเขาและป้องกันไม่ให้มันร่วงหล่นอีก จากนั้นเขาหยิบธนบัตรที่ยับยู่ยี่ออกมาและพูดว่า “นี่คือค่าเล่าเรียนแต่ยังขาดอีกสองพันหยวนและผมจะรีบหามาให้โดยเร็วที่สุด..ผมขอโอกาสที่จะได้เรียนเถอะครับ”

หลังจากทำงานในแวดวงการศึกษามาหลายปีนั้นชายชราคนนี้ก็ได้เห็นเด็กจำนวนมากที่มาจากครอบครัวที่ยากจนเช่นนี้ในทุกๆ ปีและมหาวิทยาลัยซีจิงก็จะคัดเลือกนักศึกษาดีเด่นบางส่วนจากนักศึกษาที่ยากจนเพื่อยกเว้นค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมและสนับสนุนการศึกษา ซึ่งเขาก็รู้ดีว่าการศึกษาสำหรับเด็กเหล่านั้นจากครอบครัวที่ยากจนนั้นคืออะไร “ถ้าเอ็งมารายงานก่อนหน้านี้ทางมหาวิทยาลัยก็จะยกเว้นค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการเข้าเรียนให้ตามเกรดของเอ็งตอนจบเทอมการศึกษาแต่ตอนนี้มันยากจริงๆ” ชายชราขมวดคิ้วแล้วพูด

“ชีวิตของใครไม่มีอุปสรรคบ้างในโลกใบนี้..การให้โอกาสแก่ผู้อื่นก็เหมือนกับการให้โอกาสตัวเองเช่นกัน” เย่เชียนพูดเบาๆ “มหาวิทยาลัยเป็นสถานที่สำหรับสอนและให้ความรู้แก่ผู้คนเพราะงั้นผมคิดว่ามหาวิทยาลัยควรให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพราะนั่นคือแก่นแท้ของการสอนชาติจีนของเรา”

ชายชราอึ้งไปครู่หนึ่งเพราะในฐานะที่เป็นคณบดีมหาวิทยาลัยซีจิงแล้วตงเสวี่ยจินผู้นี้ก็ได้เห็นนักศึกษาที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากมายรวมทั้งนักศึกษาที่โดดเด่นหลายคนซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมบางอย่างในประเทศจีน อย่างไรก็ตามเขาบอกได้เลยว่าไม่มีเด็กคนไหนที่พูดแบบเย่เชียนมาก่อนดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะหันความสนใจไปที่เย่เชียน

เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นซองเอกสารให้แล้วพูดว่า “ผมเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ย้ายใหม่..ชื่อเย่เชียนครับ”

ตงเสวี่ยจินก็หยิบซองเอกสารขึ้นมาดูและยืนยันว่าเอกสารถูกต้อง จากนั้นจึงมองเย่เชียนจากหัวจรดเท้าแล้วพูดว่า “ในประวัติบอกว่าเอ็งอายุยี่สิบเอ็ดแต่ฉันคิดว่าเอ็งดูไม่เหมือนคนอายุยี่สิบเอ็ดเลย”

เย่เชียนก็แสร้งยิ้มอย่างเขินอายแล้วพูดว่า “หน้าผมดูแก่ไวน่ะ..อายุจริงๆ ของผมก็แค่ยี่สิบเอ็ดเท่านั้นเอง” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “ถึงแม้ว่ากฎระเบียบของมหาวิทยาลัยจะกำหนดเอาไว้แบบนั้นแต่ในฐานะคณบดีของมหาวิทยาลัยซีจิงแล้วผมเชื่อว่าคุณเองก็อยากเห็นนักศึกษาที่การเรียนโดดเด่นอย่างเยว่เหอตูอยู่ในมหาวิทยาลัยใช่มั้ย? ..การกีดกันสิทธิ์ในการศึกษาของผู้อื่นเป็นเรื่องที่แย่มาก”

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตงเสวี่ยจินก็พูดว่า “เอาล่ะเอ็งไปหาซื้อหนังสือเรียนก่อนแล้วฉันจะเรียกประชุมกับคณบดีคนอื่นๆ ของมหาวิทยาลัยเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้..ไม่ต้องกังวลไปเดี๋ยวฉันจะช่วยพูดให้เอง..ท้ายที่สุดแล้วทางมหาวิทยาลัยจะคำนึงถึงสภาพของครอบครัวเอ็งด้วยว่าเหมาะสมกับเหตุผลดังกล่าวหรือเปล่า”

ตอนที่ 976 ผู้ชายในหอพักสตรี 1

ตอนที่ 976 ผู้ชายในหอพักสตรี 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน