บทที่ 100 ตอนนี้เราทุกคนคือครอบครัว
สวี่หยางขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะมองไปทางหวงหมิ่น
เพราะอีกฝ่ายคล้ายกับไม่ได้เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้
“น่าสมเพช!”
สวี่หยางพึมพำ เพียงพริบตาเขาก็มาอยู่ข้างกายหลินหวั่นชิง
หลินอวี้กับเสิ่นม่านอวิ๋นต่างวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
ถ้าพิษดังกล่าวไม่มีวิธีรักษา หมายความว่าหลินหวั่นชิงกำลังจะตาย
“เป็นเพราะข้า เป็นเพราะข้าที่ประมาท เดิมทีข้าคิดว่าคนผู้นั้นอ่อนแอ ข้าก็เลยอยากเก็บเครื่องรางเอาไว้ ไม่คิดว่า…”
เสิ่นม่านอวิ๋นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด มือเรียวปาดน้ำตาจากหางตา
“พี่ม่านอวิ๋น ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอก ในการต่อสู้แบบนี้ย่อมไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะงั้นไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองหรอก”
หลินหวั่นชิงเอ่ยคำอย่างอ่อนแรงขณะสายลมพัดผ่าน เนื่องจากนางอ่อนแอเกินไป ทำให้ร่างกายสั่นสะท้าน “หนาวเหลือเกิน!!”
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะรักษาเจ้าเอง” สวี่หยางมีสีหน้าสงบ
ล้อกันเล่นหรือไร เขาถึงขั้นสามารถจัดการกับพิษของผู้บำเพ็ญมารได้ ดังนั้นพิษเช่นนี้จึงไม่ใช่ปัญหา
หลินหวั่นชิงเปี่ยมด้วยความเชื่อใจพลางพยักหน้า “รบกวนแล้ว”
“เหตุใดเจ้าต้องสุภาพกับข้าด้วย?”
ขณะสวี่หยางเอ่ยคำ เขาได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณธาตุไม้เพื่อไปหล่อเลี้ยงจุดตันเถียนของหลินหวั่นชิง
ในเวลาเดียวกัน เขาคลายมืออีกข้างแล้ววางบนข้อมือของเสิ่นม่านอวิ๋นซึ่งได้รับบาดเจ็บ
บาดแผลของเสิ่นม่านอวิ๋นฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ผิวของหลินหวั่นชิงกลับมาเปล่งปลั่งอย่างรวดเร็ว
“ฟู่…”
สวี่หยางปาดเหงื่อจากหน้าผาก การต่อสู้กับการรักษาเมื่อครู่กินพลังไปไม่น้อย
โชคดีที่สำเร็จ
เสิ่นม่านอวิ๋นรีบหยิบขวดยาบำรุงลมปราณออกมาแล้วให้สวี่หยางกับหลินหวั่นชิงดื่มคนละขวด
นางเองก็ดื่มเข้าไปหนึ่งขวด
หลินอวี้มองกองหุ่นเชิดด้วยสายตาเศร้าโศก
“อวี้เอ๋อร์ เก็บหุ่นเชิดและชิ้นส่วนทั้งหมด เดี๋ยวข้าซื้อตัวใหม่ให้เจ้าในภายหลัง”
สวี่หยางเอ่ยคำขณะพาหลินหวั่นชิงกับเสิ่นม่านอวิ๋นไปหาหวงหมิ่น
สมกับเป็นผู้บำเพ็ญมนุษย์ แม้ขาทั้งข้างจะหักและโลหิตไหลทะลักเช่นนี้ แต่หวงหมิ่นก็ยังไม่ตาย นางยังคงจ้องมองเขาด้วยสายตาเคียดแค้น
เพียะ!!
สวี่หยางออกแรงเหวี่ยงมือ พลังวิญญาณก่อตัวเป็นฝ่ามือก่อนจะตบเข้าที่หน้าของหวงหมิ่นอย่างแรง
“บางครั้งข้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกผู้ดีมีเงินอย่างเจ้าถึงมีชีวิตรอดมาได้นานเพียงนี้!”
“เจ้ากล้าตบข้าหรือ!?”
หวงหมิ่นกุมหน้าซึ่งเต็มไปด้วยโลหิต ทันใดนั้นหัวใจของนางพลันสั่นสะท้านเมื่อเห็นสายตาเย็นเยือกและเต็มไปด้วยจิตสังหารของสวี่หยาง
ในตอนนี้ นางตอบสนองและตระหนักได้ว่าตนเองไม่ต่างจากปลาบนเขียง
ยิ่งกว่านั้น สวี่หยางคล้ายกับครอบครองความเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลับบางอย่างที่สามารถล้างพิษหลินหวั่นชิงได้อย่างง่ายดาย นั่นหมายความว่าข้อต่อรองเพียงหนึ่งเดียวของนางได้หายไปแล้ว
“สวี่หยาง นี่มัน นี่มันเรื่องเข้าใจผิด…”
หวงหมิ่นตอบสนองพลางรีบตะโกน “ข้าไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เจ้า ข้า…”
“หุบปาก เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ พูดตามตรง ข้าไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเจ้า แล้วเหตุใดถึงต้องส่งคนมาฆ่าด้วย?”
หวงหมิ่นต้องการแก้ตัว แต่เสิ่นม่านอวิ๋นรีบสาวเท้าพร้อมหยิบขวดหยกออกมา
“ไม่ต้องพูด นี่คือผงที่มีฤทธิ์กัดกร่อน หากโรยใส่ตัว ผิวพรรณเนื้อหนังของเจ้าก็จะสึกกร่อนทีละน้อย ความเจ็บปวดแบบนี้ไม่มีใครทานทนได้หรอก!”
สวี่หยางขมวดคิ้ว เสิ่นม่านอวิ๋นมีของแบบนี้ได้อย่างไร?
หลังจากขบคิด เขาก็รู้สึกโล่งอก
เสิ่นม่านอวิ๋นเคยต่อสู้เพื่อไต่เต้าจากระดับล่างมาก่อน จึงเป็นธรรมดาที่นางจะมีไพ่ตายติดตัว
ไม่ช้า ขณะผงกัดกร่อนถูกโรยบนบาดแผลของหวงหมิ่น นางก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วสวี่หยางก็ได้ข้อมูลที่ต้องการ!
“อย่างนี้นี่เอง เพราะห่วงว่าหวงเสี่ยวเหมยจะมาแก้แค้นก็เลยมาฆ่าข้าที่เป็นพยานสินะ”
สวี่หยางหรี่ตา “พี่ชายของเจ้าทราบเรื่องนี้หรือไม่!”
“รู้สิ แน่นอนว่ารู้อยู่แล้ว ทั้งสามคนที่ส่งมาฆ่าเจ้าต่างเป็นคนสนิทของพี่ชายทั้งสิ้น หากเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะพูดถึงเจ้าแต่ด้านดีเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ทำอะไร!”
หวงหมิ่นยังคงดิ้นรนเอาตัวรอดเป็นครั้งสุดท้ายขณะมองสวี่หยางอย่างมีหวัง
“กัดให้ตาย!!”
สวี่หยางสั่งหนูสุ่ยหลิง มันกระโจนเข้าใส่หวงหมิ่นแล้วฉีกทึ้งช่วงคอจนโลหิตทะลักออกมา
“พี่ชายข้า… พี่ชายข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ เจ้า…”
หวงหมิ่นจับจ้องสวี่หยาง แต่ในไม่ช้านางก็สิ้นลมหายใจ

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน