บทที่ 104 หนึ่งปีผ่าน… ภัยคุกคามจากหวงเหวินหลิน
“สหายเต๋าสวี่ไม่ต้องสุภาพก็ได้!” หวงเหวินหลินยิ้มบางขณะเหลือบมองหลินอวี้และเสิ่นม่านอวิ๋นที่กำลังยุ่งอยู่หลังร้าน จากนั้นจึงมองมาทางสวี่หยาง “ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อจะซื้อของบางอย่างเท่านั้น”
“ไม่มีปัญหา”
“ข้าต้องการโอสถวิญญาณทั้งหมดที่เจ้ามี”
หวงเหวินหลินชี้ไปที่โอสถวิญญาณบนชั้นวางด้านข้าง
มูลค่าของพวกมันอย่างน้อยก็ประมาณหนึ่งพันหินวิญญาณ
สวี่หยางพลันประหลาดใจ เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยแทนที่จะรู้สึกยินดี
การกระทำของหวงเหวินหลินในครั้งนี้มีความหมายว่าอย่างไร?
ทว่าเขายังคงแสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมา “คุณชายหวงต้องการทั้งหมดเลยงั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว”
“ได้ ได้ ภรรยา เหตุใดยังไม่มาห่อของอีก!”
“เข้าใจแล้ว”
“คุณชายหวง พวกเราไปคุยรายละเอียดในห้องด้านในดีหรือไม่ ไม่ต้องห่วง ข้ารับปากว่าท่านจะต้องพึงพอใจกับราคาอย่างแน่นอน”
“แน่นอน ข้าเชื่อในตัวเจ้า”
หวงเหวินหลินยิ้มบางขณะเดินเข้าไปที่ห้องด้านใน ส่วนสวี่หยางกุลีกุจอรินชาให้
ทันทีที่นั่งลง หวงเหวินหลินก็เอ่ยอีกครั้ง “นอกเหนือจากการพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อขายแล้ว ข้ายังมีเรื่องที่จะพูดกับสหายเต๋าสวี่อยู่อีก มันเกี่ยวกับการรื้อถนนหยางหลิ่วเมื่อไม่กี่วันก่อน ในตอนนั้นน้องสาวของข้าไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรจนฆ่าคนไปสองชีวิต เท่าที่ข้าสืบทราบมา พวกเขาคือพ่อแม่ของศิษย์จากสำนักชิงหยางนามว่าหวงเสี่ยวเหมย”
“เรื่องนี้ทุกคนทราบกันดี!” สวี่หยางถอนหายใจ “คุณหนูหวงหมิ่นหุนหันพลันแล่นเกินไป เหตุใดนางต้องทำแบบนี้ด้วย ถ้ามีอะไรอยากจะพูดก็ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้ เฮ้อ! ว่าแต่ ท่านพบคุณหนูหวงหมิ่นหรือยัง?”
“นางตายแล้ว”
“ตายหรือ?” สวี่หยางประหลาดใจ “หะ… เหตุใดคนดีเช่นนี้ต้องตายด้วย?”
สิ้นคำ เขาก็ตะโกนไปทางประตู “ภรรยา คุณหนูหวงหมิ่นตายแล้ว!”
“หา ตายแล้วหรือ ต้องเป็นฝีมือพวกโจรน่ารังเกียจเป็นแน่” เสิ่นม่านอวิ๋นตะโกนตอบ
หวงเหวินหลินโบกมือพลางเอ่ยคำ “ข้าจะต้องตรวจสอบอย่างแน่นอนว่าใครกันแน่ที่เป็นคนฆ่าน้องสาวข้า แต่ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อคุยเรื่องพ่อแม่ของหวงเสี่ยวเหมยต่างหาก ตอนนี้น้องสาวข้าตายแล้ว ในฐานะผู้เป็นพี่ชาย ข้าผิดเองที่อบรมสั่งสอนไม่ดีพอ ข้าจึงอยากมาไถ่โทษแทนนาง!”
“สหายเต๋าหวงหมายความว่า…”
“เมื่อสหายเต๋าหวงเสี่ยวเหมยกลับมา ข้าจะขอโทษแทนน้องสาวพร้อมชดใช้ตามที่นางต้องการ!”
สวี่หยางเข้าใจทันที ตอนนี้หวงหมิ่นตายแล้ว หวงเสี่ยวเหมยจึงไม่สามารถแก้แค้นได้ ถึงกระนั้นเขาก็ยังเต็มใจที่จะชดใช้
“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวข้าจะส่งจดหมายไปบอกหวงเสี่ยวเหมยให้”
“ขอบคุณมาก”
หลังจากนั้น เสิ่นม่านอวิ๋นก็เข้ามาในห้องพร้อมกับส่งรายการของให้
โอสถวิญญาณมูลค่าหนึ่งพันห้าร้อยหินวิญญาณถูกห่อให้กับหวงเหวินหลิน
เขาจ่ายเงินก่อนจะออกไปทันที
“กล้ามาก!!” เสิ่นม่านอวิ๋นรู้สึกยินดีขณะเอ่ยคำ “สามี หวงเหวินหลินผู้นี้ช่างโง่เขลานัก ด้วยสถานะของเขาย่อมไม่มีทางเหลียวแลโอสถวิญญาณธรรมดาเหล่านี้ใช่หรือไม่?”
สวี่หยางมีสีหน้าเคร่งขรึม “ไม่ นี่คือการหยั่งเชิง!”
“การหยั่งเชิงหรือ??”
“ใช่ ประการแรกถามความเห็นของข้าเกี่ยวกับเรื่องที่หวงหมิ่นฆ่าพ่อแม่ของหวงเสี่ยวเหมย ประการที่สองถามข้าคิดเห็นอย่างไรกับการตายของนาง หวงเหวินหลินระแวดระวังเป็นนิสัย เขาต้องสงสัยว่าข้าเป็นคนฆ่านางไม่ผิดแน่”
“ถ้าเกิดเขาสงสัยขึ้นมาจะทำอย่างไร?”
สวี่หยางหลับตาพลางครุ่นคิดอย่างหนัก
ผ่านไปสักพัก เขาก็ลืมตาขึ้น
“ช่วงนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าห้ามออกไปไหนเด็ดขาด!”
“นอกจากนี้ ซื้อเสบียงให้พร้อมแล้วพัฒนาการบำเพ็ญอย่างสุดความสามารถ”
“หากหวงเหวินหลินมีท่าทีจะเล่นงานขึ้นมา เช่นนั้นพวกเรา… ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากไปเท่านั้น!”
เสิ่นม่านอวิ๋นตกตะลึง “ไปจากที่นี่หรือ?”
“ใช่ ไปจากที่นี่”
…
หลังจากนั้น สวี่หยางจึงพับเรื่องการกลั่นยาสร้างรากฐานเอาไว้
จากนั้นเขาก็เริ่มหาซื้อยันต์ ศัสตราศักดิ์สิทธิ์ กระดานค่ายกลและของอย่างอื่นที่อยู่ระดับดีที่สุด
เพียงพริบตาก็ถึงช่วงสิ้นปี
เมืองสวีเจียฟางทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก
บริเวณที่เดิมเป็นถนนหยางหลิ่วก็กลายเป็นทุ่งฝึกสัตว์อสูรขนาดใหญ่
มีทั้งม้าวิญญาณ สุนัขวิญญาณและไก่วิญญาณ
สัตว์อสูรบางส่วนเลี้ยงไว้เพื่อกิน
บางส่วนเลี้ยงไว้เพื่อขายและใช้ในการต่อสู้
ห่วงโซ่อุตสาหกรรมอุดมสมบูรณ์ดังกล่าวทำให้ตระกูลหวงมีแหล่งรายได้สำคัญ
นอกจากนี้ มันยังนำมาซึ่งผลประโยชน์มหาศาลต่อตระกูลสวีเช่นกัน
ผู้บำเพ็ญมนุษย์ทั้งหลายที่มาซื้อสัตว์วิญญาณจะพักอาศัยในเมืองสวีเจียฟาง เพียงแค่หนึ่งปี จำนวนคนที่สัญจรไปมาก็เพิ่มขึ้นสามถึงสี่ส่วน
ในวันนี้ สวี่หยางไม่ได้เปิดร้าน

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน