บทที่ 108 เกาะหงเยี่ย บ้านชิงเฟิง
[เนื่องจากครอบครัวกลับมาพบหน้ากัน ทำให้หลิวอวี้ผู้เป็นภรรยาของท่านรู้สึกมีความสุขและปลอดภัย ทำให้ได้รับคะแนนพิเศษ 50 แต้ม กับระยะเวลาการบำเพ็ญสิบปี]
[เนื่องจากครอบครัวกลับมาพบหน้ากัน ทำให้เสิ่นม่านอวิ๋นผู้เป็นภรรยาของท่านรู้สึกมีความสุขและปลอดภัย ทำให้ได้รับคะแนนพิเศษ 50 แต้ม กับยันต์แสงทองขั้นสูงระดับสอง]
[เนื่องจากครอบครัวกลับมาพบหน้ากัน ทำให้หลินหวั่นชิงผู้เป็นภรรยาของท่านรู้สึกมีความสุข ทำให้ได้รับคะแนนพิเศษ 30 แต้ม กับโอสถวิญญาณกลั่นกายาส่วนหนึ่ง]
สวี่หยางตกตะลึง!!
“ข้าเข้าใจแล้ว หลังแยกจากหลินหวั่นชิงมาหลายปี พอได้กลับมาพบหน้ากันก็ทำให้ภรรยามีความสุข เพราะงั้นข้าถึงได้รับรางวัลพิเศษหรือ??”
รางวัลในครั้งนี้นับว่าดียิ่ง
ไม่ต้องพูดถึงอื่นไกล ของชิ้นแรกคือระยะเวลาการบำเพ็ญสิบปี
หลังจากได้รับรางวัลนี้ ภาพการบำเพ็ญเป็นเวลาสิบปีก็ปรากฏขึ้นในใจของสวี่หยาง
ราวกับกำลังฝึกฝนในอีกมิติหนึ่ง ทำให้การบำเพ็ญพัฒนาอย่างก้าวกระโดด กลิ่นอายซึ่งอยู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับแปดก็ยิ่งมั่นคง
ทว่าถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาก็ยังไม่มีการพัฒนา
มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เนื่องจากรากฐานแย่เกินไป ทำให้เขาเพิ่งจะได้สัมผัสจุดคอขวด
“อีกไม่กี่ปีข้าอาจจะพัฒนาก็ได้”
สวี่หยางถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาไม่รีบร้อน
ด้วยไพ่ตายที่มีในมือ ทำให้เขาสามารถรับมือกับขอบเขตสร้างรากฐานธรรมดาได้ อีกทั้งตอนนี้ตนเองยังมียันต์แสงทองอยู่กับตัว
สุดท้าย เขามองโอสถวิญญาณกลั่นกายา
โอสถวิญญาณนี้ใช้เพื่อเสริมสร้างร่างกายยามอาบน้ำ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาโครงสร้างร่างกายและเพิ่มรากฐาน นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ราคาตลาดอย่างน้อยอยู่ที่ประมาณเจ็ดถึงแปดร้อยหินวิญญาณ ซึ่งหากเป็นตลาดเล็ก ๆ บางแห่งก็ไม่มีขาย
…
“ไม่นึกเลยว่าจะเช้าเร็วขนาดนี้ ข้าต้องกลับไปฝึกฝนอย่างหนักเพื่อก้าวสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับเก้าโดยไว”
หลินหวั่นชิงโน้มตัวมาแตะหน้าผากของสวี่หยาง
“สหายเต๋าสวี่ คืนนี้ให้ข้ากลับมาอีกหรือไม่? เมื่อคืนยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ เพราะงั้นคืนนี้ข้าต้องให้บทเรียนกับเจ้าอย่างแน่นอน”
สวี่หยาง “…”
นับวันหลินหวั่นชิงยิ่งอาจหาญ
ถึงกับกล้ามาท้าทายข้างั้นหรือ?
สวี่หยางเอ่ยคำ “ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยกลับมาตัดสินแพ้ชนะกันก็ยังไม่สาย”
สิ้นคำ เขาหยิบโอสถวิญญาณกลั่นกายาออกมา
มันถูกบรรจุในขวดหยกงดงาม ทันทีที่นำออกมา สีหน้าของหลินหวั่นชิงก็เปลี่ยนไป “โอสถวิญญาณอะไรหรือ? กลิ่นดูไม่ธรรมดาเลย”
ทันทีที่หยิบออกมา กลิ่นหอมเข้มข้นก็กำจายไปทั่วจนทำให้รู้สึกสดชื่น
“โอสถวิญญาณใช้ในการเสริมสร้างร่างกายยามอาบน้ำ เจ้าเคยได้ยินมาก่อนหรือไม่??”
หลินหวั่นชิงหยิบมันขึ้นมาแล้วเปิดฝาขวด จากนั้นเอ่ยคำด้วยความประหลาดใจ “เป็นโอสถวิญญาณจริงด้วย! ตระกูลข้าเคยซื้อโอสถวิญญาณประเภทนี้มาจากสำนักเล่นแร่แปรธาตุต่างแดน ตอนแรกข้าเองก็อยากซื้อเหมือนกัน แต่เงื่อนไขค่อนข้างจำกัด!”
ดวงตาเป็นประกายของนางเจิดจ้าร้อนแรงจนอดไม่ได้ที่จะสูดดมอีกครั้งแล้วเอ่ยถาม “สหายเต๋าสวี่ เจ้าไปทำอะไรมา? เจ้าได้ของดีเช่นนี้มาอย่างไรหรือ?”
“ความลับสวรรค์มิอาจแพร่งพราย!”
สวี่หยางยิ้มพลางตีบั้นท้ายของหลินหวั่นชิง “ไปเตรียมถังไม้ใบใหญ่กับน้ำร้อนมา พวกเราจะอาบน้ำด้วยกันเพื่อบำรุงรากฐานให้มั่นคง”
“ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” หลินหวั่นชิงจูบแก้มของสวี่หยางอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น
นางจะมีความสุขขนาดนี้ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ตนเองคาดไม่ถึงว่าสามีจะสร้างความประหลาดใจได้ขนาดนี้
สำหรับผู้บำเพ็ญ ทรัพยากรคือสิ่งสำคัญยิ่ง นางเชื่อว่าหลังจากการฝึกร่างกายครั้งนี้ก็จะช่วยย่นระยะเวลาการเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับเก้าได้อย่างน้อยสามถึงห้าปี
หลินอวี้และเสิ่นม่านอวิ๋นตื่นเต้นเช่นกันหลังจากทราบเกี่ยวกับโอสถวิญญาณกลั่นกายา
ยิ่งเป็นหลินอวี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในฐานะมนุษย์ โอสถวิญญาณกลั่นกายาสามารถทำให้นางมีภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยทั้งหลายและยืดอายุขัยได้!
สำหรับเสิ่นม่านอวิ๋น มันสามารถช่วยพัฒนาพละกำลังให้ได้
ด้วยเหตุนี้ หลินอวี้จึงออกไปซื้อถังไม้ที่สามารถจุคนได้สี่คน
เสิ่นม่านอวิ๋นต้มน้ำร้อน ส่วนหลินหวั่นชิงเทโอสถวิญญาณบางส่วนลงไปในน้ำแล้วคนให้เข้ากัน
ผ่านไปสักพัก หลินอวี้ก็กลับมาพร้อมกับนำถังไม้ขนาดใหญ่ออกมาจากถุงเก็บของ
หลังจากเทน้ำร้อนแล้ว ภรรยาทั้งสามก็สวมชุดตัวในก่อนจะลงไปในถังไม้
สวี่หยางแช่น้ำสักพักแล้วเปิดขวดแล้วเทโอสถวิญญาณลงไปในถังไม้ภายใต้สายตาทั้งสามคู่ที่เป็นประกาย ทันใดนั้น โอสถบริสุทธิ์ก็กระเพื่อมอยู่ใต้ผิวน้ำ
ทั้งสี่เริ่มใช้วิชายุทธ์ตัวเองเพื่อดูดกลืนพลังของโอสถเข้าไป
โอสถวิญญาณที่เป็นรางวัลในครั้งนี้มีปริมาณถึงหนึ่งขวดเต็ม อย่าว่าแต่ผู้บำเพ็ญเซียนสามคนกับมนุษย์หนึ่งคนในตอนนี้เลย ต่อให้ที่นี่มีผู้คนมากกว่านี้ พลังรักษาก็ยังมีเพียงพอ
ดังนั้น ทั้งสี่จึงดูดกลืนพลังของโอสถได้อย่างง่ายดาย พวกเขารู้สึกถึงพลังของโอสถที่ทำงานในร่างกาย รากฐานกำลังเติบโต ทำให้ทุกคนล้วนเผยสีหน้ามีความสุขออกมา
“ผิวของข้าถึงกับขาวและเนียนนุ่มขึ้น”
หลินอวี้ชูแขนที่ขาวประหนึ่งรากบัวขึ้นขณะอ้าปากด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
หลินหวั่นชิงอธิบายด้วยรอยยิ้ม “โอสถวิญญาณกลั่นกายามีผลเช่นนี้เอง ครั้งหนึ่งสมาชิกในตระกูลข้าก็ทำแบบเดียวกัน แล้วผิวที่เดิมเป็นสีเข้มก็กลายเป็นสีขาวราวหิมะ! ว่ากันว่าโอสถวิญญาณนี้มีประสิทธิภาพกับผู้บำเพ็ญหญิงโดยเฉพาะ”
เมื่อเสิ่นม่านอวิ๋นได้ยินเช่นนี้ นางก็หัวเราะแล้วเอ่ยคำ “เช่นนั้นข้าก็ขอแช่ตัวสักหน่อย สหายเต๋าสวี่ เจ้าคิดว่าใครงดงามที่สุดในหมู่พวกข้า?”
สวี่หยาง “…”
ยอดเยี่ยมมาก นี่มันคำถามหาเรื่องโดยแท้!
ไม่ว่าจะตอบอย่างไรก็ทำให้ผู้อื่นขุ่นเคือง
“ใครงดงามที่สุดหรือ? อื้ม ข้าขอตรวจสอบสิ่งนี้อย่างละเอียดแล้วกัน ม่านอวิ๋น เริ่มจากเจ้าก่อนเลย”
สิ้นคำ สวี่หยางดำน้ำลงไป แล้วเสิ่นม่านอวิ๋นก็อุทานออกมา
“ไอ้หยา…”
แม้ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ช้า ใบหน้างดงามของเสิ่นม่านอวิ๋นก็แดงระเรื่อ
ฉากนี้ทำให้หลินอวี้กับหลินหวั่นชิงหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน ไม่ช้าพวกนางก็มาอยู่ด้านหลังสวี่หยาง
น้ำกระเพื่อมเป็นระลอกคลื่นกระฉอกปริ่มขอบถัง
…
หลังจากปลุกปล้ำพัลวัน เวลาก็มาถึงช่วงบ่าย
หลินหวั่นชิงรีบกลับไปที่ตระกูลเพื่อทำบางอย่าง
หลังจากสวี่หยางสวมเสื้อผ้าในสภาพจิตใจแจ่มใส เขาก็พาภรรยาไปเกาะหงเยี่ย
เกาะหงเยี่ยมีชื่อเสียงในเรื่องต้นไม้ใหญ่ที่มีใบไม้สีแดงขึ้นอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาว เกาะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้สีแดง หากมองจากระยะไกลจะดูเหมือนกับถูกห้อมล้อมโดยเปลวไฟสีแดงร้อนแรง
เกาะมีขนาดใหญ่มากจนเทียบเท่ากับเมืองเป่ยไห่เลยทีเดียว

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน