เข้าสู่ระบบผ่าน

ย่างก้าวสู่วิถีเซียน นิยาย บท 113

บทที่ 113 ใบ้น้อย

สวี่หยางย่อมปฏิเสธการคุ้มกันของอีกฝ่าย

เมื่อออกจากที่นี่ เขาก็ไม่ได้ไปขายของต่อ

กลับกัน เขาจ่ายยี่สิบหินวิญญาณเพื่อเข้าฟังดนตรีในหอดนตรี

ขณะฟังดนตรี เขาก็เฝ้าสังเกตร้านที่ตนเพิ่งออกมาไปพลาง

ครึ่งชั่วยามจากนั้น

หลังแน่ใจว่าไร้ผู้ใดตามมาจากที่ร้าน สวี่หยางจึงออกจากหอดนตรี เลือกร้านที่สองเพื่อขายของต่อ

ในวันนั้นเขาก็แวะทั้งสิ้นสี่ร้าน ขายสินค้าต่างชนิดและต่างจำนวนให้แต่ละแห่ง

และทำรายรับได้เกินสี่พันหินวิญญาณ

“เอาละ ทีนี้โอสถส่วนใหญ่ที่มีก็ถูกขายไปแล้ว”

มีหินวิญญาณเหล่านี้ อารมณ์ของสวี่หยางก็ผ่อนคลายลงมาก

ไม่ทันรู้ตัว เวลาก็ล่วงมาถึงยามบ่าย เขายกมือแตะท้อง รู้สึกหิวเล็กน้อย

ชายหนุ่มไปที่แผงลอยแห่งหนึ่งและตั้งใจสั่งเกี๊ยวมากิน

แต่เกินคาด ขณะเดินผ่านตลาด เขาก็สังเกตเห็นคู่พี่ชายน้องสาว เกาผิงและเกาหยวนนั่งขายสมุนไพรอยู่ที่แผงลอยแห่งหนึ่ง ข้างกายมีสมุนไพรวิญญาณคุณภาพไม่ค่อยดีนักวางอยู่นิดหน่อย

สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ ดูก็รู้ว่าไปเก็บมาจากป่า เต็มไปด้วยมลทินมากมาย

หากใช้ทำโอสถ คุณภาพของตัวโอสถเองก็จะถูกกระทบไปด้วย คนทั่วไปจึงไม่ซื้อสมุนไพรเหล่านี้หากไม่จำเป็น

“อ้าว สหายเต๋าสวี่ เจ้ามาที่นี่ทำไมหรือ?”

เกาหยวนเห็นสวี่หยางเดินมาไกล ๆ ก็เอ่ยทักขึ้นยิ้ม ๆ

“มาหาซื้อยันต์น่ะ ผ่านทางมาเจอพอดี”

สวี่หยางตอบกลับเรียบ ๆ เมื่อมองจากที่นี่ก็พบว่ากิจการแผงลอยในขณะนี้ไม่น่าดีนัก

เขาจึงไม่ถามว่ากิจการเป็นเช่นไร

“สหายเต๋าสวี่ ยามนี้เจ้าไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วหรือ?”

ก่อนหน้านี้ เกาหยวนสังเกตว่าบ้านพักที่สวี่หยางเคยเช่าเปลี่ยนผู้อยู่ จึงเดาว่าเขาน่าจะออกจากเมืองเป่ยไห่ไปแล้ว!

ไม่คาดเลยว่าวันนี้จะได้พบกันอีก

สวี่หยางพยักหน้า “ตอนนี้ข้าอยู่ที่เกาะหงเยี่ย เปิดร้านค้าเล็ก ๆ น่ะ”

“ที่นั่นสมาคมหู่เวยเป็นใหญ่ สหายเต๋าสวี่ระวังพวกเขาด้วย”

สีหน้าของเกาหยวนเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าเคยถูกสมาคมหู่เวยเอาเปรียบมาก่อน

หลังเสวนาอยู่ชั่วครู่ เกาหยวนก็พูดขึ้นอีกครั้ง “สหายเต๋าสวี่ อีกสักพักข้าจะไปเสี่ยงโชคที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เจ้ามีความเห็นเช่นไร?”

“ช่วงนี้ข้าง่วนแต่กับเรื่องโน้นเรื่องนี้ เกรงว่าคงไม่มีเวลา” สวี่หยางปฏิเสธอย่างสุภาพอีกครั้ง

เกาหยวนดูหงอยไปทันที

หลังเสวนากันอีกนิดหน่อย สวี่หยางก็ขอตัวลา เมื่อเขาจากไปเกาผิงอดกล่าวไม่ได้ “พี่ชาย สวี่หยางขี้กลัวเกินไปแล้ว ทำอย่างกับเราจะลวงไปทำร้าย เหลือจะพูดจริง ๆ”

“คนเขาเรียกระวังตัวต่างหาก! น้องสาว ข้าบอกเจ้าได้ว่าสวี่หยางมีความสามารถมากนะ”

“เหอะ ๆ พี่ชาย พูดผิดพูดใหม่ได้นะ ความสามารถมาก? แต่ไม่กล้าตามเราไปล่าสมบัติเนี่ยนะ ความสามารถมากอะไร?”

เกาผิงดูเหยียดหยาม

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดเขาจึงไม่ตามเรามา?”

“ทำไม? ไม่ใช่เพราะขลาดเขลาหรือ?”

เกาหยวนส่ายหัว “ไม่ใช่น่ะสิ! เพราะเขามีโอกาสไม่ขาดมือต่างหาก! เขาจึงไม่เห็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในสายตา!”

“อะไรนะ? ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มีวารีวิญญาณตั้งมากมาย สรรพคุณอัศจรรย์เพียงนี้ แต่เขามีโอกาสอื่นไม่ขาดมือ? จะเป็นไปได้เช่นไร?”

“น้องสาว เจ้าพูดเองว่าโอกาสนั้นงามมาก แต่เหตุใดสวี่หยางจึงไม่สนใจ? เจ้าคิดว่าสวี่หยางขลาดเขลาจริง ๆ หรือ? อย่าลืมนะว่าครั้งหนึ่ง สวี่หยางเคยล่วงเกินตระกูลหวงเพื่อรับร่างพ่อแม่ของหวงเสี่ยวเหมย ในความคิดข้า เขาไม่ใช่คนขลาดเขลา ครั้งนี้ที่ปฏิเสธเรา ก็เพราะเขารู้สึกว่าผลประโยชน์ไม่ใหญ่หลวงพอเท่านั้นเอง”

เกาหยวนถอนใจ “พอแล้ว เราไปกันเองนี่แหละ”

สวี่หยางกินเกี๊ยวพลางหาวัตถุดิบทำยาสร้างรากฐานไปทั่ว

แล้วเขาก็พบสองชิ้นจริง ๆ

เมื่อนับดูยามนี้ วัตถุดิบทำยาสร้างรากฐานก็ได้มาแล้วหกส่วน

ยามตะวันเจียนลับ สวี่หยางก็กลับร้าน

ขณะที่เพิ่งมาถึงประตูร้านนั้นเอง

“เถ้าแก่สวี่ วันนี้เจ้าไปไหนมา เหตุใดให้ภรรยาสองคนเฝ้าร้านลำพัง ไม่กลัวสมาคมหู่เวยมาสร้างความลำบากแก่พวกนางหรือ?”

ฟ่านเสียวอวี่ เถ้าแก่เนี้ยร้านเสื้อผ้าซึ่งตั้งอยู่เยื้องกันเอ่ยทัก

“ออกไปซื้อของเข้าร้านน่ะ” สวี่หยางกล่าวจบ เขาก็เดินเข้าร้านไป

เขาพยักหน้าให้ภรรยาทั้งสอง

ฟ่านเสียวอวี่ผู้นี้ว่างอยู่พอตัว ช่วงที่ไม่มีอะไรทำก็ชอบมาหาพวกเขา

นางเปิดร้านเสื้อผ้าแท้ ๆ แต่กลับดูไม่เหมือนคนตัดเสื้อเป็น อาภรณ์ส่วนใหญ่ในร้านซื้อมาจากข้างนอก และมีเสื้อผ้ามือสองอยู่มากมาย

บางทีเขาก็สงสัยจริง ๆ ว่าร้านนางไปหาเสื้อผ้ามือสองจากที่ใดตั้งมากมาย?

ผู้ที่ทำให้สวี่หยางนึกสงสัยก็คือใบ้น้อยในร้านของนาง กล่าวกันว่าเสื้อผ้าในร้าน ใบ้น้อยล้วนเป็นผู้เย็บชุน ส่วนฟ่านเสียวอวี่ปกติแล้วไม่ทำอะไร รับหน้าที่เพียงขายให้ลูกค้า

สวี่หยางเดาว่าฟ่านเสียวอวี่น่าจะมีคนสนับสนุนอยู่

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน