ตอนที่ 19 ทำร้ายภรรยา
เหอฉยงเหลียนกล่าวว่า “อวี้เอ๋อร์กับข้ามาที่นี่เพื่อช่วยทำความสะอาดในช่วงบ่าย ซึ่งเดิมก็ไม่มีอะไรจนกระทั่งหวงเสี่ยวไฉมา ตอนอวี้เอ๋อร์กำลังกวาดพื้นบังเอิญกวาดขยะไปโดนเขาเข้า แล้วหวงเสี่ยวไฉ… ก็ตบหน้าอวี้เอ๋อร์แล้วด่านางว่าขยะที่ไม่สามารถฝึกตนได้ เป็นพวกดวงตามืดบอดที่มองไม่เห็นวิถี จากนั้นก็เขี่ยขยะไปที่เท้าของนาง!”
“ตอนนั้นข้ารีบเข้าไปดึง…”
หวงเสี่ยวไฉคือน้องชายของหวงเสี่ยวเหมยผู้เป็นเพื่อนสมัยเด็กของร่างเดิม!
เดิมทีครอบครัวของหวงเสี่ยวเหมยมีชีวิตที่ยากลำบาก แต่หลังจากนางเข้าศึกษาที่สำนักชิงหยาง พวกเขาจึงได้รับความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย ทำให้สภาพการเงินดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ไม่นานมานี้หวงเสี่ยวไฉแต่งงานกับผู้บำเพ็ญหญิงซึ่งอยู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับหนึ่ง พ่อแม่จึงบอกทุกคนว่าเขาเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล
และเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของร่างเดิมกับหวงเสี่ยวเหมยผู้เป็นเพื่อนสมัยเด็ก ทำให้พวกเขาตัดความสัมพันธ์กับนางเพราะสวี่หยาง บ่อยครั้งก็มาเยาะเย้ยชายหนุ่ม ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวเลวร้ายลง
ตอนนี้เขาแต่งงานกับหลินอวี้แล้ว หวงเสี่ยวไฉจึงดูถูกนางโดยอ้างว่าทำให้เขาไม่พอใจ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพียงการอวดเบ่งเท่านั้น
“สามี ข้าไม่เป็นไร ข้าผิดเองที่ไม่รู้จักระวังให้ดี”
ใบหน้าของหลินอวี้เต็มไปด้วยความสำนึกผิด
“เสิ่นม่านอวิ๋นทราบเรื่องนี้หรือไม่?”
สวี่หยางถาม
“ตอนนั้นเสิ่นม่านอวิ๋นบังเอิญออกไปซื้อของพอดี น้องอวี้เอ๋อร์กลัวมีปัญหาเลยไม่พูดอะไร พร้อมกำชับข้าว่าอย่าบอกเจ้าเด็ดขาด”
สวี่หยางกุมมือของหลินอวี้อย่างอ่อนโยนขณะเชยคางนางขึ้น ทำให้เห็นรอยฝ่ามือกับรอยช้ำบริเวณใบหน้าด้านขวา
ต้องทราบก่อนว่าหลินอวี้เป็นเพียงมนุษย์ ส่วนหวงเสี่ยวไฉเป็นผู้บำเพ็ญขอบเขตกลั่นลมปราณระดับสอง ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียน บาดแผลที่หลินอวี้ได้รับจึงดูรุนแรงมากขึ้นหลายเท่า
“สามี ข้าไม่เป็นไร…”
“ขนาดนี้แล้วจะเรียกว่าไม่เป็นไรได้อย่างไร?” สวี่หยางพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา “เรื่องไม่จบแค่นี้แน่! ข้าจะทวงความยุติธรรมกับหวงเสี่ยวไฉให้เอง อยากรู้นักว่าภายภาคหน้ายังจะมีใครกล้ามารังแกเจ้าอีก”
หลินอวี้เริ่มวิตกกังวล “สามีไม่จำเป็นต้องทำเพื่อข้าก็ได้”
“ไม่ได้!”
สวี่หยางยื่นคำขาด
“มีอะไรหรือ?”
เสิ่นม่านอวิ๋นเดินเข้ามาด้วยความสงสัยก่อนจะขมวดคิ้ว “สวี่หยาง เจ้าไม่ได้รังแกภรรยาใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่!” หลินอวี้รีบเอ่ย
สวี่หยางอธิบายเรื่องราวโดยสังเขปให้อีกฝ่ายฟัง ทำให้เสิ่นม่านอวิ๋นรู้สึกเดือดดาลเช่นกัน “เจ้าหวงเสี่ยวไฉกระทำการอุกอาจเกินไปแล้ว!”
“ข้าจะไปคิดบัญชีกับเขาเอง”
สวี่หยางมองเสิ่นม่านอวิ๋น “ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เข้ามาห้าม”
เสิ่นม่านอวิ๋นส่ายหน้า “ข้าเชิญหวงเสี่ยวไฉมาเพราะเห็นแก่พี่สาวที่อยู่สำนักชิงหยาง แต่ครั้งนี้เขาทำเกินไป ข้าพร้อมจะสนับสนุนเจ้า”
ในไม่ช้า แขกจากข้างนอกก็ถยอยมาทีละคน ซึ่งหวงเสี่ยวไฉก็มาพร้อมกับภรรยาของเขา
ภรรยาของเขามีพลังอยู่ที่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับหนึ่ง รูปร่างธรรมดา ใบหน้าเต็มไปด้วยสิวเสี้ยน หากผู้หญิงคนนี้เป็นมนุษย์ย่อมไม่อยู่ในสายตาอีกฝ่ายแน่นอน
แต่เพราะร่างกายนี้มีรากฐานวิญญาณ ถึงทำให้ผู้หญิงคนนี้โดดเด่นขึ้นมา
“พี่หวงพาภรรยามาด้วย”
“ไม่ได้เจอหน้าพี่หวงเพียงสองสามวัน แต่การฝึกตนก็พัฒนาขึ้นอีกแล้ว”
ทันทีที่หวงเสี่ยวไฉปรากฏตัว ผู้คนทั้งหลายต่างแย้มยิ้มพลางเข้ามาทักทาย
ตอนนี้มีใครไม่ทราบบ้างว่าหวงเสี่ยวเหมยผู้เป็นลูกสาวของตระกูลหวงได้เข้าสำนักชิงหยางและกลายเป็นศิษย์นอก แม้การเป็นศิษย์นอกจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าสามารถเข้าสู่สำนักชั้นในได้ย่อมหมายความว่านางจะมีโอกาสสร้างรากฐานได้ในภายภาคหน้า!
แนวคิดที่ว่าเป็นอย่างไรหรือ?
ยอดฝีมือขอบเขตสร้างรากฐาน คือคนที่สามารถเปิดดินแดนวิญญาณ สร้างครอบครัวและกลายเป็นบรรพชนได้!
หมายความว่าพวกเขาสามารถเดินทางออกไปท่องโลกกว้างได้
หวงเสี่ยวไฉพยักหน้าเพื่อตอบรับคนรอบข้างขณะเพลิดเพลินกับคำชม
ทันใดนั้น เขาก็เห็นใบหน้าของคู่อริ “สวี่หยางหรือ?”
เขาครุ่นคิดสักพักก่อนจะลอบแสยะยิ้ม หากสวี่หยางฉลาดพอก็ควรแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงอย่างไรมันก็ไม่มีค่าพอจะหาเรื่องเพียงเพื่อภรรยามนุษย์คนหนึ่ง
แต่คาดไม่ถึง สวี่หยางกลับเดินตรงมาหาเขา
“สวี่หยาง เจ้าคิดจะทำอะไร?”
สวี่หยางพลันตบหน้าอีกฝ่ายโดยที่หวงเสี่ยวไฉเองก็ไม่ทันตั้งตัว
เพียะ!
หวงเสี่ยวไฉล้มกระแทกกับพื้น พร้อมแก้มที่บวมขึ้นจนเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นเช่นนี้ ภรรยาของเขาซึ่งอยู่ข้างกายก็ตกตะลึงขณะมองสวี่หยางด้วยความหวาดกลัว
“สวี่หยาง เจ้ากล้าตบข้าหรือ!” หวงเสี่ยวไฉเงยหน้าขึ้นพลางจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่าย
“หวงเสี่ยวไฉ เป็นเพราะเจ้ากล้ามาทำร้ายภรรยาข้าตอนที่ข้าไม่อยู่ ข้าเลยสั่งสอนเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น!”
“เจ้ามันรนหาที่ตายเสียแล้ว! รู้หรือไม่ว่าพี่สาวของข้าเข้าศึกษาที่สำนักชิงหยาง เชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถขอให้นางจัดการเจ้าได้ ระดับการฝึกตนในตอนนี้ของนางมากพอจะทำให้เจ้ากระเด็นไปไกล”
“เหอะ ก็ให้นางลองดูเสียสิ!”
“ได้ ได้!!!” หวงเสี่ยวไฉหัวเราะด้วยความเกรี้ยวกราด “สวี่หยาง วันนี้เจ้าทำให้ข้าขุ่นเคือง คิดว่าตัวเองมีพลังขอบเขตกลั่นลมปราณระดับสามแล้วจะเก่งกาจสามารถนักหรือ? ข้าก็เหมือนกัน!”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน