บทที่ 39 เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร?
โถงประมูลเต็มไปด้วยเสียงอึกทึก
สวี่หยางเฝ้าดูความวุ่นวายอย่างเงียบงัน
เท่าที่เขาทราบ คุณภาพของยาแบ่งออกเป็น ไม่สมบูรณ์ ธรรมดา ยอดเยี่ยม หนึ่งเส้นวิถี สองเส้นวิถี สามเส้นวิถี!
สิ่งที่เรียกว่าเส้นยาคือระลอกพลังที่ถูกสร้างขึ้นจากอากาศธาตุเมื่อมีการสร้างยาที่มากเกินไป
ชั้นระลอกพลังงานนี้จะก่อตัวเป็นเส้นยา
เส้นยาไม่เพียงแสดงถึงคุณภาพของยาเท่านั้น แต่ยังสามารถกำหนดส่วนผสมยาได้อย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้พลังการรักษาของมันระเหยออกไป
กล่าวกันว่ายาที่มีสามเส้นวิถีสามารถเก็บรักษาไว้ได้หลายพันปี
โดยทั่วไปแล้ว ยาส่วนใหญ่ที่ขายข้างนอกอยู่เพียงขั้นยอดเยี่ยมเท่านั้น
แต่ในครั้งนี้ ยาสร้างรากฐานกลับอยู่เพียงขั้นธรรมดา จึงทำให้ผู้คนผิดหวังเป็นจำนวนมาก
สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับสวี่หยาง ถึงอย่างไรเขายังห่างไกลจากขอบเขตสร้างรากฐาน ดังนั้นจึงไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจของพวกนี้
หลังจากนั้น เขากับเสิ่นม่านอวิ๋นก็ออกจากที่นี่ก่อน
เมื่อเดินออกจากประตูด้านซ้าย บริกรก็เข้ามาพาพวกเขาไปที่ห้องหนึ่ง
ภายในห้องดังกล่าวปรากฏสาวงามคนหนึ่งที่รอมาได้พักใหญ่ สิ่งที่นางถืออยู่คือกระบี่อัสนีประกายม่วง
“ยินดีด้วยที่สหายเต๋าทั้งสองท่านได้รับกระบี่อัสนีประกายม่วง แม้กระบี่เล่มนี้จะอยู่เพียงขั้นต่ำระดับหนึ่ง แต่ก็เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังอัสนีเมื่อทำการร่ายรำ สายฟ้าซึ่งปรากฏออกมาจะเป็นสีม่วง เพราะงั้นมันถึงได้รับชื่อดังกล่าว!”
สาวงามยิ้มกว้าง เนื่องจากมันคือกระบี่ของสตรี ดังนั้นนางจึงมอบมันให้กับเสิ่นม่านอวิ๋น
เสิ่นม่านอวิ๋นรับมันไว้ หลังจากสัมผัสสักพักก็บังเกิดความยินดี
วัสดุและค่ายกลภายในกระบี่เล่มนี้ถือว่าดีมาก มันดีกว่าที่นางเคยใช้ก่อนหน้านี้ถึงสองส่วน!
หลังจากยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดปกติ สวี่หยางก็มอบหินวิญญาณสี่ร้อยสิบก้อน
ทั้งสองเดินผ่านประตูหลัง เมื่อมาถึงประตูก็ถอดหน้ากากออกแล้วก้าวออกไป หลังจากทั้งสองเดินไปสักพักจึงค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“รีบกลับไปขัดเกลากระบี่ที่ได้มากันเถอะ”
“ได้ สหายเต๋าสวี่ ขะ… ขอบคุณ”
เสิ่นม่านอวิ๋นเดินตามหลังขณะเอ่ยคำออกมาอย่างแผ่วเบาแล้วกุมมือชายหนุ่มเอาไว้ ตอนนี้นางรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง
“นี่ ข้าไม่ชินกับการที่เจ้าพูดแบบนั้นเลย!” สวี่หยางเอ่ยคำด้วยรอยยิ้ม
เสิ่นม่านอวิ๋นตกตะลึงสักพัก จากนั้นกลอกตาแล้วเอ่ยคำ “สหายเต๋าสวี่ ถ้าเจ้าไม่ให้ข้าพูดขอบคุณ เช่นนั้นเจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร?”
“นั่นเพื่ออะไร?”
เสิ่นม่านอวิ๋น “…”
เสิ่นม่านอวิ๋นพบว่าด้วยคารมคมคายในช่วงนี้ ทำให้นางเสียเปรียบยามสนทนากับสวี่หยาง ดังนั้นตนเองจึงตัดสินใจเมินอีกฝ่ายไปเสีย
ทั้งสองไม่ได้กลับบ้านทันที สวี่หยางมาหาเถ้าแก่สวีเพื่อขายเสาวรสหลายสิบผลก่อน
ตอนนี้การเงินค่อนข้างขัดสน เขาจึงต้องเสี่ยงขายจำนวนมากในคราวเดียว
ทว่าเขาเชื่อใจเถ้าแก่สวี ขณะทำการขายก็มีการเอ่ยถึงเรื่องที่จะเปิดร้าน พร้อมบอกอีกว่าอยากซื้อของเสียหน่อย ทำให้อีกฝ่ายบอกว่าเดี๋ยวลดราคาให้
เมื่อสวี่หยางรวบรวมหินวิญญาณและกำลังจะไป เถ้าแก่สวีก็เอ่ยคำ “สหายเต๋าสวี่ เคล็ดปลูกถ่ายวิญญาณของเจ้าไม่เลว หากไปเปิดร้านหรือทำอะไรเทือกนั้นคงน่าเสียดายแย่ ซ้ำยังส่งผลต่อเวลาทำนาด้วย คงดีกว่าถ้าเจ้าเข้าร่วมกับตระกูลสวี”
“หากต้องการอิสระก็ไม่ต้องเข้าร่วมตระกูลสวีก็ได้ แค่ทำงานร่วมกันก็พอ”
“หากทำแบบนี้ ข้อแรก เจ้าจะปลอดภัยมากขึ้น!!”
“ข้อสอง หากอยู่ที่นี่เจ้าจะเป็นสมาชิกของตระกูลสวี ไม่มีใครสามารถรังแกได้ ภายภาคหน้าก็ไม่จำเป็นต้องระแวดระวังอีกต่อไป”
“ข้อสาม เจ้าจะสามารถซื้อทรัพยากรของตระกูลสวีอย่างยารวมปราณหรือแม้กระทั่ง… ยาสร้างรากฐานผ่านช่องทางพิเศษได้!”
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เถ้าแก่สวีก้าวเข้าสู่ตระกูลสวีไปครึ่งก้าวแล้ว
แม้จะแซ่สวีเหมือนกัน แต่เขามาจากที่อื่น
หัวใจของสวี่หยางกระตุก ร่วมมือหรือ??
“ร่วมมืออย่างไรหรือ?” สวี่หยางถามด้วยความสงสัย



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน