บทที่ 48 จับเป็นสวีจื่อรั่วแล้วฆ่า…
“สวัสดี สหายเต๋า ถ้าต้องการอะไร แจ้งข้าได้เลย”
ชายหนุ่มร่างผอมตรงเข้ามาหาสวี่หยาง
สวี่หยางเหลือบมองนายหน้าร่างเตี้ยจ้ำม่ำอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะมองชายหนุ่มร่างผอม “ก่อนหน้านี้ข้าสะดุดตาสถานที่หนึ่ง คราวนี้ข้าพาภรรยามาดูด้วยอีกรอบ”
“เข้าใจแล้ว สถานที่ไหนหรือ?”
สวี่หยางบอกตำแหน่งเสร็จสรรพ ผ่านไปสักพักก็มาถึงสถานที่ซึ่งเรียกว่าถนนเมืองชั้นใน
“สหายเต๋าสวี่ช่างตาแหลมนัก ด้านหลังร้านนี้มีทุ่งวิญญาณขั้นกลางระดับหนึ่ง ไม่เพียงผู้คนสามารถอยู่อาศัยได้เท่านั้น แต่ยังมีปราณวิญญาณอุดมสมบูรณ์จนเหมาะแก่การฝึกตนอีกด้วย เพียงแต่ราคาก็ไม่ใช่น้อย ตกอยู่ที่สองร้อยสิบหินวิญญาณ”
ชายหนุ่มร่างผอมเข้าใจแล้วว่าเหตุใดศิษย์พี่ถึงไม่เต็มใจที่จะรับต้อนสวี่หยาง
เมื่อไม่กี่วันก่อน ศิษย์พี่บอกว่าเขาได้พาลูกค้ามาดูสถานที่นี้ หลังจากพยายามอยู่เนิ่นนานกลับโดนบอกว่าไม่มีปัญญาเช่า
เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธไม่น้อย ต้องเป็นบ้านแบบไหนถึงจะมีปัญญาเช่าหรือ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ชายหนุ่มร่างผอมก็รู้สึกจนใจ เขาคิดว่ามันเสียเวลาจริงแท้
แต่ด้วยผู้มาเยือนเป็นแขก ตามจรรยาบรรณ เขาจึงพยายามสุดความสามารถที่จะแนะนำสวี่หยาง
ภรรยาทั้งสองก็มองรอบ ๆ อย่างสนใจ
เห็นได้ชัดว่าบ้านที่นี่ดีมากด้วยเครื่องเรือนในบ้านคุณภาพดีพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
น้ำในบ่อน้ำที่อยู่ตรงหน้าก็ใส เจือปราณวิญญาณเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการใช้น้ำจากบ่อเพื่อรดพืชวิญญาณย่อมให้ผลดีกว่า
“สหายเต๋า สถานที่นี้อยู่ใกล้เมืองชั้นในและทำเลค่อนข้างปลอดภัย เรียกได้ว่าทุกอย่างเหมาะเจาะยิ่งนัก ไม่ทราบว่าเจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
แม้สวี่หยางจะดูเหมือนไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าที่นี่ แต่พ่อค้านายหน้ายังคงถาม
“ลดราคาอีกหน่อยได้หรือไม่? มันยังแพงเกินไป” สวี่หยางเอ่ยคำ “ข้าเห็นว่ามีสถานที่หลายแห่งในละแวกนี้ที่ว่างอยู่ แสดงว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนเช่าใช่หรือไม่?”
สวี่หยางหันมาถาม
นายหน้าร่างผอมเข้าใจก่อนจะพยักหน้า “ช่วงนี้ร้านค้าบางแห่งสู้ค่าเช่าไม่ไหว ช่วยไม่ได้นี่นะ ตระกูลผู้บำเพ็ญเซียนทั้งสองกำลังต่อสู้กัน ทำให้ส่งผลกระทบต่อการค้าที่นี่ค่อนข้างมาก แต่ในอนาคตอันใกล้ ผู้บำเพ็ญจำนวนมากจากตระกูลหวงจะมาที่นี่ แล้วผู้บำเพ็ญธรรมดาบางส่วนก็จะมาด้วยเหมือนกัน อีกไม่ช้ามันจะกลายเป็นเส้นทางปลอดโปร่ง ข้ากล้าพูดเลยว่าในอีกสองสามเดือนข้างหน้าการค้าจะต้องกลับมาคึกคักแน่”
ความจริงแล้ว ธุรกิจของสวี่หยางไม่มีทางขาดทุน
นั่นเพราะพืชวิญญาณของเขาสามารถเติบโตได้อย่างแน่นอนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด!
ใช่แล้ว มันคือการพึ่งพาอาศัยครั้งใหญ่ที่สุดของเขา หากไม่มีค่าใช้จ่าย การทำเงินย่อมเป็นเรื่องง่ายดาย
หลังจากแสดงสีหน้าครุ่นคิด เขาก็มาที่ลานบ้านเพื่อถามหลินอวี้กับเสิ่นม่านอวิ๋นว่าคิดอย่างไร
ทั้งสองคนบอกว่าใช้ได้ แต่ราคาแพงเกินไป
“เอาอย่างนี้ สองร้อยหินวิญญาณต่อเดือน ถ้าเป็นไปได้ข้าจะยอมเช่าสามเดือนก่อน”
สวี่หยางถามนายหน้าร่างผอม
ในความเป็นจริง นายหน้าร่างผอมคิดอยู่แล้วว่าสวี่หยางจะต้องปฏิเสธ แต่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลง
สิ่งนี้ทำให้เขาตกตะลึงชั่วขณะจนไม่สามารถตอบสนองได้พักใหญ่
ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักบางอย่างได้ก่อนจะเอ่ยคำด้วยความประหลาดใจ “สหายเต๋าบอกว่า หินวิญญาณสองร้อยก้อนหรือ??”
“อะไร ไม่ได้หรือ?” เสิ่นม่านอวิ๋นเอ่ยคำ “พวกข้าต่อราคามากเกินไปหรือไร?”
“ถ้ายังไม่ได้อีก พวกข้าคงต้องไปดูที่อื่นแทน” หลินอวี้สำทับ
“อา ไม่ ไม่ ไม่…”
ชั่วขณะนั้นเองที่นายหน้าร่างผอมกระตือรือร้น เขาจะไม่เต็มใจได้อย่างไร เรื่องแบบนี้นานทีปีหนถึงจะเจอสักครั้ง
การทำธุรกิจ การต่อราคาเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการต่อราคาสิบหินวิญญาณก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร
เหตุผลที่เขาสูญสิ้นความสงบเป็นเพราะประหลาดใจเกินไป เดิมทีตนเองคิดว่าการขายจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่สวี่หยางกลับตัดสินใจในทันที
‘ศิษย์พี่หนอศิษย์พี่ เจ้าก็ทำพลาดเป็นเหมือนกันสินะ!!’
เขารู้สึกยินดี ค่าเช่าสามเดือนเท่ากับหกร้อยหินวิญญาณ ค่าตอบแทนการขายอยู่ที่ 5 แต้ม หมายความว่าตนเองจะได้หินวิญญาณถึง 30 ก้อน!
หากสวี่หยางต่อสัญญาเช่าครั้งต่อไป เขาจะยังคงได้รับค่าตอบแทนการขายซึ่งนับว่ายอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!
“สหายเต๋า หินวิญญาณสองร้อยก้อนถือว่ารับได้ พวกเรากลับสำนักงานนายหน้ากันก่อน เดี๋ยวข้าจะจัดการเรื่องการส่งมอบให้ หากต้องการความช่วยเหลืออะไรก็บอกมาได้เลย”
ค่าตอบแทนการขายมากขนาดนี้ ย่อมเป็นธรรมดาที่เขาจะให้บริการเป็นอย่างดี
“อืม ข้าต้องการข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ในละแวกนั้น ถึงอย่างไรช่วงนี้ก็ต้องระวังให้มากหน่อยเป็นธรรมดา!”
“อีกอย่าง…”
หลังจากบอกคำขอแล้ว เขาก็กลับไปที่สำนักงานนายหน้า
ตอนนี้นายหน้าร่างเตี้ยจ้ำม่ำลุกขึ้นชงชาด้วยท่วงท่าเกียจคร้าน
เดือนนี้เขาเก็บเกี่ยวได้ไม่น้อย แค่เช่าบ้านเปล่าก็ได้หินวิญญาณถึงห้าก้อน
เมื่อเห็นว่าข้างนอกเริ่มมืดแล้ว เขาจึงเตรียมปิดสำนักงานก่อนเวลา
“อื้ม ปิดสำนักงานแล้วไปฟังเพลงดีกว่า”
ตอนนี้เองที่นายหน้าร่างผอมกลับมา
“ศิษย์น้อง เจ้าเพิ่งกลับมาหรือ ผู้ปลูกถ่ายวิญญาณคนนั้นทำให้เสียเวลามากขนาดนี้เลยหรือ?”
เขาส่ายหน้าและเตรียมออกไป “เช่นนั้นฝากเจ้าปิดสำนักงานที ข้าขอตัวกลับก่อน”
เมื่อมาถึงประตู เขาก็เห็นสวี่หยางกับภรรยาเดินตามหลังมา
“ศิษย์พี่ สหายเต๋าสวี่บอกว่าจะเช่าเป็นเวลาสามเดือน”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน