เข้าสู่ระบบผ่าน

ย่างก้าวสู่วิถีเซียน นิยาย บท 56

บทที่ 56 สวี่หยาง เจ้าไม่เป็นอะไรเลย

“ตัวบัดซบ”

เมื่อสวีจ่านซึ่งอยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ก็รู้สึกเสียใจและโทษตัวเองที่ประมาท ไม่ได้เตรียมตัวให้ดีจึงถูกตลบหลังเช่นนี้

แรงระเบิดเมื่อครู่นี้ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หากต้องต่อสู้อีกตอนนี้ ก็เกรงว่าเขาคงใช้พลังได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ

แม้ว่าผู้เฒ่าสวีอันอู๋จะอยู่ในสภาพที่ดีกว่า แต่ก็ได้รับบาดเจ็บไม่ต่างกัน เขาโบกแขนเสื้อ ชั้นปราณวิญญาณก่อร่างเป็นแสงสีแดงป้องกันตัวเอง จากนั้นเขาก็หยิบกระบี่ออกมา แล้วจ้องมองกู่พานเจียงเขม็ง

“กู่พานเจียง แม้ว่าเจ้าจะลอบโจมตีได้สำเร็จ แต่พวกข้าก็ไม่ได้ล้มง่าย ๆ หรอกนะ”

สวีจื่อรั่วถอยหลังเล็กน้อย รู้สึกเสียใจมากที่จี้หยกแตกไปแล้ว “กู่พานเจียง ตระกูลสวีของข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี ให้ของที่ดีที่สุด เพื่อให้เจ้าพึงพอใจ เหตุใดเจ้าถึงทรยศ? ตระกูลโจวสัญญากับเจ้าว่าอะไร? เจ้าก็รู้ดีว่ามีความแค้นเคืองระหว่างเจ้ากับตระกูลโจวมาก่อน แต่เจ้าก็ยังเลือกอยู่ข้างพวกนั้น”

นางต้องการถ่วงเวลา เพื่อให้สวีจ่านและสวีอันอู๋สามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

“ตระกูลสวีปฏิบัติต่อข้าอย่างดี แต่อายุขัยของข้าน้อยลงทุกที สองปีก่อน ข้าขอให้ตระกูลซื้อยายืดอายุขัยให้ข้า แต่กลับถูกปฏิเสธ ข้าจึงคิดหาทางซื้อด้วยตัวเอง แล้วตระกูลโจวก็สัญญาว่าจะซื้อมันให้ข้า แลกกับการเป็นหนอนบ่อนไส้อย่างไรเล่า”

กู่พานเจียงพูดเย้ยหยันเสียงเย็น “สวีอันอู๋ สวีจ่าน พวกเจ้าได้รับบาดเจ็บแล้ว หากยอมวางอาวุธลงตอนนี้ ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป ส่วนคุณหนูใหญ่ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าเช่นกัน เพราะตระกูลโจวต้องการตัวเจ้า นี่จะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่”

เมื่อเห็นหญิงสาวโฉมสะคราญ กู่พานเจียงก็พูดน้อยลง

“เจ้าอย่าลืมว่าตอนนี้ค่ายกลป้องกันเปิดใช้งานอยู่” ใบหน้าของสวีจื่อรั่วเย็นชา ขณะกัดฟันพูด

“ตั้งแต่ข้าตัดสินใจเปิดเผย ข้าก็ได้เลือกทางเลือกของตัวเองไว้แล้ว! เอาละ ออกมาได้แล้ว”

เขามองไปยังที่พักของตนที่อยู่ไม่ไกล ปราณวิญญาณอันทรงพลังสองจุดแผ่ซ่านออกมาจากที่นั่น

ยอดฝีมือขอบเขตกลั่นลมปราณระดับเก้าสองคน!!

“โจวเซี่ยง อู๋หย่งปิง”

สวีจ่านจำคนเหล่านั้นได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมาก “กู่พานเจียง เจ้ากล้าซ่อนคนจากตระกูลโจวสองคนไว้ที่นี่”

โจวเซี่ยง ผู้เป็นทายาทสายตรงของตระกูลโจว อยู่ในขอบเขตกลั่นลมปราณระดับเก้า

อู๋หย่งปิง ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลโจว อยู่ในขอบเขตกลั่นลมปราณระดับเก้าเช่นกัน!

ทันทีที่ทั้งสองคนปรากฏตัว สถานการณ์ก็พลิกกลับ

“เจ้าให้พวกข้าสองคนซ่อนตัวอยู่ในห้องปรุงยาของเจ้า ช่างเป็นความคิดที่ดีจริง ๆ” โจวเซี่ยงหัวเราะ ไม่พูดให้มากความ โจมตีสวีจ่านทันที

“ข้าจะจัดการกับสวีอันอู๋เอง” อู๋หย่งปิงขว้างศัสตราศักดิ์สิทธิ์ทรงกลมชิ้นหนึ่งออกไป ศัสตราศักดิ์สิทธิ์หมุนคว้างไปในอากาศ แล้วฟันเข้าที่คอของสวีอันอู๋

“อืม ฆ่าสองคนนั้นซะ จะได้ปิดค่ายกลแล้วออกไปที่นี่สักที” กู่พานเจียงพยักหน้า ใช้ยันต์โจมตีไปทางสวีจื่อรั่ว แล้วตะโกนบอกอู๋หย่งปิง “อย่าปล่อยให้เขาควบคุมค่ายกล ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถออกไปได้”

ค่ายกลนี้ควบคุมโดยสวีอันอู๋ ซึ่งหมายความว่าเขาเป็นผู้ติดตั้งมัน

ดังนั้น ตราบใดที่สวีอันอู๋ไม่สามารถหลบหนีได้ ค่ายกลก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้

“เข้าใจแล้ว” อู๋หย่งปิงพยักหน้า แล้วโจมตีสวีอันอู๋รุนแรงยิ่งขึ้น

ทันใดนั้นเอง

สวีจื่อรั่วพ่นลมหายใจเย็นชา หยิบยันต์สีเหลืองอ่อนออกมา จากนั้นลมเย็นยะเยือกก็พัดไปทางกู่พานเจียง

ลมเย็นยะเยือกนั้นหลอมรวมกันในอากาศ แล้วกลายเป็นมังกรน้ำแข็ง ทำให้ผมและคิ้วของกู่พานเจียง ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำค้างแข็ง

“คุณหนูใหญ่ช่างแข็งแกร่งเสียจริง!”

ในแง่ของทักษะการต่อสู้ เห็นได้ชัดว่ากู่พานเจียงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางเลย แต่เขาก็มีไพ่เด็ดมากมาย ดังนั้นทั้งสองจึงใช้ทักษะการต่อสู้ที่สูสีกัน

แต่เมื่อยันต์ในมือหายไป กู่พานเจียงก็เริ่มวิตกกังวลเล็กน้อย

“พวกเจ้ารีบ ๆ หน่อย!”

“อึก!”

ทันทีที่พูดจบ สวีจ่านก็ร้องออกมา ชายร่างใหญ่ถูกดาบแทงทะลุหัวใจ ล้มลงกับพื้น

“ผู้อาวุโสสวีจ่าน!”

สวีจื่อรั่วตะโกนด้วยความเศร้าโศก

โจวเซี่ยงส่งเสียงแปลกประหลาด ก่อนหันการโจมตีไปทางสวีจื่อรั่ว

ในเวลาเดียวกัน ผู้บำเพ็ญหลายสิบคนที่ไม่ถูกวางยาก็ใช้ยันต์เพื่อช่วยให้สวีจื่อรั่วหลบหนีออกจากวงล้อม

บางคนถึงกับตะโกนขอให้สวีจื่อรั่วช่วยผู้อาวุโสสวีอันอู๋

ตอนนี้มีเพียงสวีอันอู๋เท่านั้นที่ยังไม่เพลี่ยงพล้ำ และใช้พลังของค่ายกลปราบปรามทั้งสามคน

แต่มันไม่ง่ายเลย…

ทันใดนั้น สวี่หยางก็นำยันต์ขั้นสูงระดับหนึ่งออกมา

หากตระกูลสวีพ่ายแพ้ เขาจะไม่สามารถหลบหนีได้ เขาต้องทำอะไรสักอย่าง

เขาเห็นโอกาสที่เหมาะสม แล้วโจมตียันต์ไปทางด้านหลังกู่พานเจียง

ยันต์อัคคีขั้นสูงระดับหนึ่งโจมตีทันที เปลวเพลิงอันร้อนแรงทำให้กู่พานเจียงหันกลับมาป้องกัน เขาแปลกใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วใบหน้าใจดีของเขาก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

“สวี่หยาง เจ้าไม่เป็นอะไรเลย”

พิษนี้ไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่สำหรับผู้บำเพ็ญมนุษย์ที่อยู่ขอบเขตกลั่นลมปราณต่ำกว่าระดับห้าก็ส่งผลกระทบไม่น้อย

เขาคิดมาโดยตลอด ว่าสวี่หยางอยู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับห้า จึงน่าจะถูกพิษไปด้วย

ใครจะรู้…

หากรู้ว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ เขาคงไม่มีทางหันหลังให้ และจะระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้

“กู่พานเจียง ทุกวันนี้ ข้าถือว่าเจ้าเป็นผู้อาวุโสมาโดยตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าเป็นคนทรยศ”

บทที่ 56 สวี่หยาง เจ้าไม่เป็นอะไรเลย 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน