เข้าสู่ระบบผ่าน

ย่างก้าวสู่วิถีเซียน นิยาย บท 59

บทที่ 59 หัวหน้าตระกูลเป็นพ่อสื่อ

“ท่านพ่อ โปรดอย่ายุ่งกับคู่สามีภรรยาเลยเจ้าค่ะ สวี่หยางมีภรรยาสองคนแล้ว ทุกคนมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน แม้ว่าเขาจะมาที่นี่ แต่เขาก็มีภรรยาทั้งสองคนมาด้วยนะเจ้าคะ”

สวีจื่อรั่วพูดด้วยรอยยิ้ม

“โอ้?”

สวีฉางหลงรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ยังพูดว่า “เนื่องจากเจ้าแต่งภรรยามาแล้วสองคน เจ้าก็ยังคงสามารถแต่งงานใหม่ได้ มีหญิงงามที่มีคุณธรรมมากมายในตระกูลสวีของข้า ตอนนี้สวี่หยางประสบความสำเร็จมาก และได้รับที่อยู่ในเมืองชั้นในแล้ว ข้าจึงตัดสินใจให้เจ้าได้แต่งงานอีกครั้ง เพื่อให้เจ้ามีความสุขมากยิ่งขึ้น! สำหรับหญิงสาวคนนั้น สวี่หยาง เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าสัญญาว่านางจะไม่เลวร้าย และระดับการฝึกฝนของนาง อย่างน้อยก็ต้องใกล้เคียงกับเจ้าด้วย”

สวี่หยาง “…”

สวี่หยางไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี นี่มันอะไรกัน หัวหน้าตระกูลสวีต้องการเป็นพ่อสื่อให้เขาหรือ

ในความเป็นจริง สวี่หยางก็เข้าใจด้วยว่าการกระทำของสวีฉางหลง คือต้องการเอาชนะใจเขาอย่างชัดเจน

หากไม่มีสงครามระหว่างตระกูลสวีและตระกูลโจว ตามปกติจะต้องได้รับความยินยอมจากภรรยาทั้งสองก่อน

แต่ตอนนี้เมื่อทั้งสองตระกูลอยู่ในสงคราม หากเขาเข้าร่วมตระกูลสวี เขาจะกลายเป็นเสี้ยนหนามของฝั่งตระกูลโจวอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ หากแต่งงานใหม่กะทันหัน ภรรยาทั้งสองก็จะรู้สึกไม่สบายใจ นั่นหมายความว่ารางวัลก็จะน้อยลงมากด้วยใช่หรือไม่??

แต่สวี่หยางได้วางแผนไว้แล้ว แม้ว่าเขาจะต้องการแต่งงานอีกครั้ง แต่เขาก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่สำคัญ นั่นคือภรรยาทั้งสองต้องยอมรับผู้หญิงคนนั้นด้วย ไม่เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องคุยกัน!

อืม มันยากมากที่จะแต่งงานอีกในตอนนี้

สวี่หยางปฏิเสธ โดยบอกว่าเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาทั้งสอง จึงไม่อาจรับไว้ได้

ปฏิเสธจริง ๆ!

สวีฉางหลงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “สวี่หยาง เจ้ากังวลว่าข้าจะหาคนดี ๆ ให้เจ้าไม่ได้หรือ?”

“ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าแค่ไม่อยากให้ภรรยาทั้งสองต้องทุกข์ใจขอรับ” สวี่หยางพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ

สวีฉางหลงหรี่ตาลง “โอ้ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นบุรุษเป็นเช่นนี้ สวี่หยาง เจ้าใส่ใจความรู้สึกของภรรยามาก ในเมื่อเจ้ากังวลว่าภรรยาของเจ้าจะไม่สบายใจ เช่นนั้นข้าจะพูดคุยกับพวกนางให้เป็นอย่างไร”

สวี่หยาง “…”

เอาละ ปฏิเสธไม่ได้แล้ว

……

จากนั้น สวีฉางหลงไปตรวจสอบความเสียหายในทะเลสาบปี้กุ้ย

ครั้งนี้สูญเสียคนไปค่อนข้างมาก สมาชิกในตระกูลสวีรวมยี่สิบแปดคนถูกสังหาร และบาดเจ็บอีกยี่สิบสามคน โดยเฉพาะผู้อาวุโสสวีจ่าน ที่อยู่ในขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นปลายถูกฆ่าตาย ซึ่งทำให้สวีฉางหลงเจ็บใจและโศกเศร้ายิ่ง

“เสียดายนัก เดิมทีสวีจ่านมีเค้าเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตสร้างรากฐานแล้วแท้ ๆ”

“ทั้งหมดเป็นเพราะกู่พานเจียง ด้วยความไว้ใจทำให้เขาลอบโจมตีเราโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ดีที่ข้ามีจี้หยกป้องกันระดับสองถึงรอดมาได้” สวีจื่อรั่วกล่าวด้วยความเสียดาย

สวีฉางหลงมองศพที่ยังไม่ได้ฝัง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถามสวี่หยาง “สวี่หยาง เจ้าจะคอยเฝ้าปกป้องอยู่ที่นี่ต่อหรือไม่? ปราณฟ้าดินที่นี่ดีทีเดียว ถ้าเจ้าต้องการเฝ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะจัดการทุกอย่างให้ด้วยตัวเอง”

สวี่หยางกล่าวว่าเขาเริ่มเปิดร้านแล้ว และด้วยการเตรียมการของสวีจื่อรั่ว เขาจะปลูกโอสถวิญญาณให้กับตระกูลสวี จึงจะไม่อยู่ที่นี่

เขาปลูกโอสถวิญญาณ จึงจำเป็นต้องขายให้กับร้านอื่นด้วย แม้ว่าปราณวิญญาณที่นี่จะดี แต่การค้าขายก็ไม่สะดวกจริง ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่แห่งนี้ยังอยู่บริเวณชานเมืองของตระกูลสวี อาจเรียกได้ว่าเป็นแนวหน้าก็ว่าได้ ที่นี่จึงอันตรายเกินไป

สวีฉางหลงพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก

……

ในตอนเที่ยงของวันนั้น สวี่หยางกล่าวลาสวีฉางหลง

“เอาละ พวกข้าก็จะกลับกันแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวจะพาพวกเจ้าไปส่ง”

สวีฉางหลงกล่าว

หลังจากนั้นเขาก็จัดกลุ่มเดินทางออกไป

ระหว่างทาง เมื่อเห็นหลินอวี้และเสิ่นม่านอวิ๋น สวีฉางหลงก็เสนอตัวเป็นพ่อสื่อให้กับสวี่หยาง

หลินอวี้และเสิ่นม่านอวิ๋นต่างก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

หลินอวี้แสดงจุดยืนตัวเอง “ตราบใดที่สามีของข้าชอบ ข้าก็ชอบด้วย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสามี”

“ข้าก็เช่นกัน”

เสิ่นม่านอวิ๋นกล่าว

“เช่นนั้นก็ดี เรียบร้อยแล้ว” สวีฉางหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ในความคิดของเขา หากผู้บำเพ็ญขอบเขตจินตานผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขากล่าวเช่นนี้ ภรรยาทั้งสองของสวี่หยางก็ต้องยอมเห็นด้วยแน่นอน

ในเวลานี้สวี่หยางอาจจะกังวลเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อได้เห็นผู้หญิงที่เขาแนะนำให้ เจ้าหนุ่มนี่จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน!!

สวี่หยางทำอะไรไม่ถูก เพื่อไม่ทำให้สวีฉางหลงเสียหน้า เขาจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับ

……

ขณะที่พวกเขากำลังออกเดินทาง อีกด้านหนึ่งในป่าทึบ ห่างจากทะเลสาบปี้กุ้ยหลายพันลี้

“ผ่านไปคืนหนึ่งแล้ว โจวเซี่ยง กู่พานเจียงและคนแซ่อู๋ยังไม่มาอีก หรือพวกเขาจะเผชิญเหตุไม่คาดฝัน?”

ชายในชุดคลุมสีน้ำเงินที่มีดวงตาคมกริบพึมพำกับตัวเอง

หากสวี่หยางอยู่ที่นี่ เขาจะรู้ทันทีว่าชายคนนี้คือโจวอิง

“ผู้อาวุโสโจวอิง อสูรอินทรีของท่านถูกส่งออกไปตรวจสอบมานานแล้ว พบอะไรบ้างหรือไม่?” ผู้บำเพ็ญมนุษย์วัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ ถามขึ้น

โจวอิงส่ายหน้า “อสูรอินทรีของข้าสังเกตเห็นกลิ่นอายอันทรงพลังที่นั่น ซึ่งเป็นของผู้บำเพ็ญขอบเขตจินตาน ข้าไม่กล้าปล่อยให้มันเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่เช่นนั้นอาจถูกพบเอาได้”

“ผู้บำเพ็ญขอบเขตจินตาน หรือว่าจะเป็นสวีฉางหลง?”

“มีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นที่ทะเลสาบปี้กุ้ย ก็ไม่แปลกใจที่สวีฉางหลงจะไปด้วยตัวเอง ทว่าตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนถึงตอนนี้ ผู้อาวุโสกู่และคนอื่น ๆ ก็น่าจะหลบหนีมาได้แล้ว ผ่านไปวันหนึ่ง พวกเขาควรจะอยู่ที่นี่แล้วสิ”

ใบหน้าของโจวอิงฉายแววสงสัย และรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นทุกที

หากยังไม่มา ก็มีโอกาสสูงที่ทั้งสามคนนี้จะล้มเหลว

ทั้งสามคนนี้ต่างก็เป็นยอดฝีมือของตระกูลโจว โดยเฉพาะนักปรุงยาคนนั้น ในฐานะไส้ศึก อีกฝ่ายประสบความสำเร็จอย่างมาก หากเกิดอะไรขึ้นกับเขา มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับตระกูลโจวอย่างไม่ต้องสงสัย

โดยเฉพาะการเอาชนะใจนักปรุงยาคนนั้น พวกเขาใช้เงินจำนวนมาก เพื่อซื้อหนูสุ่ยหลิงจากต่างแดน ที่เก่งในการค้นหาโอสถวิญญาณ ทั้งยังมีสายเลือดระดับสอง และมอบมันให้กับเขา

ทว่าตอนนี้แม้แต่หนูสุ่ยหลิงก็หายไปแล้ว

ทันใดนั้น หัวใจของโจวอิงก็เต้นแรง เขาเห็นผ่านอสูรอินทรีว่าพวกของสวีฉางหลงจากไปแล้ว

“ดี ในที่สุดก็ไปเสียที!”

โจวอิงดีใจมาก จากนั้นจึงตรวจดูสถานการณ์ที่นั่นทันที

เขาควบคุมอสูรอินทรีอย่างระมัดระวัง ร่อนลงบนหลังคาบ้าน แล้วแอบฟังเสียงพูดคุยของผู้คนที่นั่น

หลังจากแอบฟังมาครึ่งวัน เขาก็เข้าใจสถานการณ์คร่าว ๆ

ปรากฏว่าแผนของกู่พานเจียงล้มเหลว ทั้งกลุ่มถูกกวาดล้าง!

“ล้มเหลวแล้ว”

ใบหน้าของโจวอิงบึ้งตึง เมื่อได้ยินชื่อนั้น “สวี่หยาง!!”

“ใครคือสวี่หยาง?”

บทที่ 59 หัวหน้าตระกูลเป็นพ่อสื่อ 1

บทที่ 59 หัวหน้าตระกูลเป็นพ่อสื่อ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน