เข้าสู่ระบบผ่าน

ย่างก้าวสู่วิถีเซียน นิยาย บท 77

บทที่ 77 คนในครอบครัวโปรดเข้าใจ

“สหายเต๋าสวี่ เจ้ากลับมาแล้ว ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เจ้าดูสบายดีมากเลย”

“เถ้าแก่สวี ไม่ได้เจอกันตั้งนาน การเดินทางไปสำนักชิงหยางครั้งนี้ราบรื่นหรือไม่!”

เนื่องจากวันนี้เปิดร้านค่อนข้างช้า ทำให้เพื่อนบ้านทั้งหลายเข้ามาเยี่ยมเยียนทันทีที่เปิดประตู

จากคำบอกเล่าของภรรยาทั้งสอง เพื่อนบ้านเหล่านี้ให้การดูแลพวกนางเป็นอย่างดีช่วงที่เขาไม่อยู่

โดยเฉพาะภรรยาของอาจารย์เกาที่มาเยี่ยมเยียนเป็นครั้งคราวต่างถามไถ่ว่าพวกนางต้องการความช่วยเหลือไม่

สวี่หยางมอบของขวัญให้ทุกคนเป็นของฝากจากเมืองเซียนแห่งสำนักชิงหยางเพื่อแสดงน้ำใจ

หลังจากเสร็จกิจ เวลาก็ล่วงเลยสู่เที่ยงวัน

สวี่หยางส่งสารหาสวีเหวินเผิง โดยระบุว่าเพิ่งทราบข่าวการตายของบิดาอีกฝ่ายในระหว่างการเดินทางกลับเมือง ตนเองจึงขอแสดงความเสียใจกับอีกฝ่าย

สวีเหวินเผิงส่งสารกลับมาโดยบอกว่าโชคดีแล้วที่ตอนนั้นเขาไม่มาด้วย หาไม่แล้วก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่

น้ำเสียงของสวีเหวินเผิงดูสิ้นหวัง เห็นได้ชัดว่ายังทำใจกับการเสียชีวิตของผู้เป็นพ่อไม่ได้

สวี่หยางปลอบประโลมอีกสองสามคำพร้อมกับแสดงความเสียใจ

……

และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องส่งมอบสมุนไพรวิญญาณชุดใหม่ให้กับสวีจื่อรั่ว

ในตอนเที่ยง สวี่หยางเก็บเกี่ยวสมุนไพรวิญญาณในทุ่งวิญญาณได้ยี่สิบต้นก่อนจะไปพบกับสวีจื่อรั่ว

แม้กลุ่มตระกูลสวีจะถูกโจมตีระหว่างทาง แต่โชคยังดีที่ยาสร้างรากฐานยังอยู่ดี

เมื่อไม่นานมานี้ สวีจื่อรั่วกำลังนั่งสมาธิอยู่ในถ้ำตัวเองเพื่อเตรียมสร้างรากฐาน

เมื่อเห็นสวีจื่อรั่ว สวี่หยางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อนึกถึงขอบเขตการบำเพ็ญอันลึกล้ำ เกรงว่าอัตราความสำเร็จของการสร้างรากฐานนี้จะไม่ต่ำจนเกินไป

“สหายเต๋าสวี่ ฝีมือของเจ้านับว่าไม่เลว เมล็ดพันธุ์วิญญาณที่ให้ไปล้วนเติบโตโดยไม่สูญเปล่าแม้แต่น้อย”

สวีจื่อรั่วพยักหน้า ครั้งนี้ตระกูลสวีสูญเสียขอบเขตสร้างรากฐานไปสองคน ทำให้นางอารมณ์ไม่สู้ดีจนใบหน้าปราศจากรอยยิ้ม

“คุณหนูใหญ่ ไม่ทราบว่ามีเมล็ดพันธุ์วิญญาณของหลินจือแดงกับหญ้าอวี๋ซิงหรือไม่?”

เมื่อเขาไปหาหวงเสี่ยวเหมยจนพบกับหลินไห่ถังผู้เป็นศิษย์พี่ ในตอนนั้นนางได้ถามเกี่ยวกับสมุนไพรวิญญาณสองชนิดนี้

สวี่หยางคิดว่าหากสามารถหามาได้ การขายมันให้กับหลินไห่ถังย่อมหมายถึงการช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่

ดวงตาของสวีจื่อรั่วกวาดมองขณะเอ่ยคำด้วยความประหลาดใจ “เท่าที่ข้าทราบมา สมุนไพรวิญญาณทั้งสองชนิดนี้คือสิ่งจำเป็นสำหรับยาสร้างรากฐาน เจ้ามีสหายใกล้ตัวที่อยากสร้างรากฐานงั้นหรือ?”

“ใช่แล้ว” สวี่หยางไม่ปกปิดแต่อย่างใด

“อื้ม พอนึกดูแล้วข้าก็มีเหมือนกัน”

สวี่หยางตกตะลึงด้วยคาดไม่ถึงว่าสวีจื่อรั่วจะมีจริง

“ก่อนหน้านี้ข้าเองก็วางแผนที่จะหายาสร้างรากฐานเหมือนกัน ข้าค้นหาสองสิ่งนี้อยู่พักใหญ่แต่ก็ยังหาไม่เจอ เพราะงั้นข้าจึงต้องหาสิ่งดีที่สุดชิ้นต่อไปด้วยการซื้อเมล็ดพันธุ์วิญญาณมาจากข้างนอก! แต่ในเมื่อได้ยาสร้างรากฐานมาแล้ว เมล็ดพันธุ์วิญญาณก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป”

สิ้นคำ นางก็พลิกฝ่ามือ

ฟ่าว!

เมล็ดพันธุ์วิญญาณสองเมล็ดทะยานออกไปก่อนจะตกลงบนมือของสวี่หยาง

“สวี่หยาง เมล็ดพันธุ์วิญญาณทั้งสองนี้มีคุณภาพสูงมาก พวกมันสามารถสร้างเมล็ดพันธุ์ขึ้นมาได้เมื่อโตเต็มที่ ถึงตอนนั้นเจ้าเพียงคืนสิ่งที่ข้าให้ไปก็พอแล้ว”

“ขอบคุณคุณหนูใหญ่”

หลังจากครุ่นคิดสักพัก สวี่หยางก็เอ่ยถาม “จะว่าไปแล้ว คุณหนูใหญ่ได้สืบสวนถึงคนที่โจมตีคณะเดินทางแล้วหรือยัง?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สวีจื่อรั่วก็มีท่าทีเคร่งขรึมก่อนจะส่ายหน้า “ผู้ที่ลงมือในครั้งนี้เจ้าเล่ห์และชำนาญการใช้พิษ ซึ่งพิษดังกล่าวแปลกประหลาดจนแม้แต่ผู้บำเพ็ญมนุษย์ขอบเขตสร้างรากฐานยังได้รับผลกระทบไปด้วย”

“ทว่าข้าพอจะคาดเดาขอบเขตได้ มันอยู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับเก้า และมีคนให้การช่วยเหลืออีกสามคนซึ่งอยู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับหกถึงเจ็ด”

สวี่หยางขมวดคิ้วมุ่น “ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับเก้า…”

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขานึกถึงปราชญ์หน้าหยกขึ้นมา

คนผู้นี้ก็อยู่ขอบเขตกลั่นลมปราณระดับเก้าที่วางแผนจะสร้างรากฐาน

นอกจากนี้ อีกฝ่ายยังมีตะขาบพิษสายเลือดระดับสองอยู่กับตัว ทั้งยังเป็นคนเก่งการใช้พิษ แม้จะเป็นผู้ทรงพลังอย่างหวังสวี่เฉียงก็โดนพิษจนเกือบเอาตัวไม่รอด

เพียงเท่านี้ก็พอคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายทรงพลังมากแค่ไหน

นอกจากนี้ หวังสวี่เฉียงบอกว่าปราชญ์หน้าหยกมากบดานบริเวณนี้…

สวี่หยางจึงตัดสินใจที่จะเปิดเผยข้อมูลนี้

ดังนั้นเขาจึงบอกสิ่งที่ทราบเกี่ยวกับปราชญ์หน้าหยกให้อีกฝ่ายฟัง “คุณหนูใหญ่ ท่านบอกว่ามีโจรโจมตีคณะเดินทาง หรือว่าจะเป็นมัน?”

“เป็นไปได้ ปราชญ์หน้าหยก… สวี่หยาง ข้อมูลของเจ้าสำคัญมาก ข้าจะรายงานให้ท่านพ่อทราบทันที”

สวี่หยางพยักหน้าก่อนจะหันหลังจากไป

……

หลังกลับมาถึงบ้าน สวี่หยางก็ทำการปลูกเมล็ดพันธุ์วิญญาณทั้งสองทันที

มันคือเมล็ดพันธุ์สมุนไพรวิญญาณขั้นสูงระดับสอง ทำให้ต้องใช้คะแนนพิเศษในการเติบโตค่อนข้างมาก

ยกตัวอย่างเช่นหญ้าอวี๋ซิง เมื่อเพิ่มคะแนนพิเศษเข้าไป ระดับการเติบโตจะเพิ่มขึ้นเพียงเจ็ดในร้อยส่วนเท่านั้น

“หมายความว่าต้องใช้คะแนนพิเศษเกือบ 15 แต้มจึงจะโตสินะ”

“เพิ่มแต้ม!”

ผ่านไปสักพัก หญ้าอวี๋ซิงและหลินจือแดงก็พร้อมเก็บเกี่ยว และยังอยู่ในระดับยอดเยี่ยมเสียด้วย

ทันใดนั้น ทุ่งวิญญาณขนาดเล็กก็เต็มไปด้วยกลิ่นของโอสถ

โชคยังดีที่ทุ่งวิญญาณนี้ถูกแยกออกมาด้วยค่ายกลของสวี่หยาง หาไม่แล้วคงถูกผู้อื่นสังเกตเห็นเป็นแน่

ไม่นานดินในพื้นที่ก็เกิดการเคลื่อนไหว แล้วศีรษะขนาดเล็กก็โผล่ออกมา

มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหนูสุ่ยหลิง เสี่ยวเฉียง

“จี๊ด จี๊ด จี๊ด…” มันดมกลิ่นด้วยความตื่นเต้น นึกว่ามีของใหม่ให้กิน

“หืม??”

ทันใดนั้น สวี่หยางก็สังเกตเห็นว่ากลิ่นอายของหนูสุ่ยหลิงไม่มั่นคง มันมีกลิ่นอายชั่วร้ายไหลออกมาเป็นจำนวนมาก

หลังจากนั้น เขาหยิบป้ายควบคุมสัตว์อสูรออกมาพลางตั้งจิตมั่น จากนั้นจึงทำการสื่อสารกับหนูสุ่ยหลิง

“ว้าว ช่างเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมอะไรอย่างนี้ คนในครอบครัวโปรดเข้าใจว่าถ้าข้าได้กินอาหารอร่อยเช่นนี้เข้าไป สายเลือดก็อาจจะไปไกลกว่านี้ก็เป็นได้”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

สวี่หยางสัมผัสได้ถึงสารจากหนูสุ่ยหลิงก็คลี่ยิ้มทันที

“อะไรกัน เรื่องนี้เองหรือ”

สวี่หยางเข้าใจทันทีว่าหนูสุ่ยหลิงกำลังจะพัฒนา

เขาจึงมอบหลินจือแดงกับหญ้าอวี๋ซิงที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมาให้

“กินเข้าไปแล้วเข้าสู่ขั้นสูงระดับหนึ่งให้ไวล่ะ!!”

ความก้าวหน้าของสัตว์อสูรแตกต่างจากผู้บำเพ็ญมนุษย์

สำหรับมนุษย์ วิชายุทธ์คือเรื่องหลัก รากฐานคือเรื่องรอง

ในทางกลับกัน สัตว์อสูรจะให้ความสนใจเรื่องรากฐานมากกว่า

บทที่ 77 คนในครอบครัวโปรดเข้าใจ 1

บทที่ 77 คนในครอบครัวโปรดเข้าใจ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน