ตอนที่577 สำนักกู้ภัยกลาง
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ด้านหลังของพวกเขาปรากฏเจ้าหน้าที่ตำรวจสองสามนายซึ่งใส่เครื่องแบบพิเศษสีดำขึ้น พวกเขาถือปืนพกสีดำ เจ้าหน้าที่ด้านหลังที่ตามมาล้วนติดอาวุธครบครัน
ตำรวจที่อยู่ใกล้คนทั้งสองจ่อกระบอกปืนไปที่หน้าผากของคนทั้งคู่
ระยะใกล้เพียงแค่นี้ พวกเขาไม่ทันเห็นด้วยซ้ำ เมื่อเช้านี้ก่อนที่เจ้าของร้านซึ่งอยู่ด้านข้างจะเปิดร้าน ตำรวจได้แจ้งพวกเขาให้เตรียมการณ์ล่วงหน้า แต่เมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นจริง เขากลับแขนขาไม่มีแรง
“ตำรวจทราบแล้ว ผม ผมไปได้รึยังครับ” ครอบครัวเขาสามชั่วอายุคนล้วนเป็นเกษตรกรจะไปเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ที่ไหน
พละกำลังของทุกคนได้หายไปหลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ ในที่สุดโจรลูกกระจ๊อกก็ถูกตำรวจนำตัวออกไป
“ทั้งคู่ คุกเข่าลงกับพื้นและประสานมือกันเหนือศีรษะ!”
ทั้งคู่มองไปที่ตำรวจที่ล้อมรอบพวกเขา พวกเขารู้ตัวว่าต่อให้พยายามขัดขืนก็ไม่มีประโยชน์อะไร จึงคุกเข่าลงอย่างเชื่อฟัง มือทั้งสองประสานกันที่หลังศีรษะ ตำรวจสองนายทางด้านหลังก็เข้ามาใส่กุญแจมือที่ข้อมือพวกเขาอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่พวกเขาสูญเสียความสามารถในการขัดขืนแล้ว ปากกระบอกปืนก็ถูกเบนออกเล็กน้อย สองสามคนที่ด้านหลังก็ก้าวขึ้นมาเพื่อพาตัวพวกเขาไปที่ลานด้านหลังร้าน
หกโมงเช้า ลมยังคงพัดเย็นสบาย
ชายทั้งสองกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่มุมห้องและจ้องมองไปที่กลุ่มชายชุดดำ พวกเขารู้สึกหวาดกลัว “ตำรวจ ตำรวจสหายของผม พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่หรือ”
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นผู้กระทำผิด หลังจากถูกจับกุมแล้วยังแสร้งทำเป็นพลเมืองดี
หัวหน้ากองถอดหน้ากากของพวกเขา สายตาอันเฉียบคมมองทะลุผ่านทั้งคู่เหมือนกับเครื่องเอ็กซ์เรย์ที่กำลังถ่ายภาพ “ธนิน และธนุสใช่ไหม”
เมื่อได้ยินชื่อตัวเอง พวกเขาก็ตัวแข็งทื่อ แววตาที่มองลงล่างเช่นเมื่อครู่ได้เปลี่ยนไปในทันที
หัวหน้ากองมองดูปฏิกิริยาของพวกเขาและค่อยๆคายคำพูดออกมา “คนหนึ่งอายุยี่สิบห้า อีกคนหนึ่งอายุยี่สิบสอง ภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองH สามปีก่อนมีประวัติอาชญากรรมเรื่องการลักขโมย ตอนนี้เปลี่ยนแนวเป็นลักพาตัวแล้วรึ”
เดิมทีพวกเขาคิดว่าตำรวจสะกดรอยตามเจอพวกเขาเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงแสร้งพยายามทำตัวดี ไม่คาดคิดว่าตำรวจได้รวบรวมข้อมูลของพวกเขาเอาไว้หมดแล้ว
“พวกคุณไม่ต้องมาพูดกับผมว่าไม่รู้ ไม่ได้ทำอะไร นี่ไม่ได้เป็นการโจรกรรม แต่เป็นการลักพาตัวนะพวกคุณรู้รึเปล่า แค่สมรู้ร่วมคิดก็พาพวกคุณเข้าตารางไปได้เป็นสิบปีแล้ว ผมจำได้ว่าธนินคุณมีแม่ที่ป่วยติดเตียงอยู่ไม่ใช่รึ ตอนนี้พ่อก็สุขภาพไม่ค่อยจะดี หากต้องเข้าไปติดคุกสิบปี กว่าจะได้ออกมาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าตอนนี้คุณให้ความร่วมมือ บางทีอาจจะเป็นการช่วยตัวคุณเองก็ได้นะ”
หัวหน้ากองคุ้นเคยกับอาชญากรเหล่านี้ดีจนไม่รู้จะคุ้นเคยกว่านี้ได้ยังไง พูดสามคำก็แทงถึงใจดำพวกเขาได้
ธนินยังคงก้มหน้าก้มตาไม่รู้คิดอะไรอยู่ ธนุสซึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆรู้สึกละอายขึ้นมา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา เขาจ้างพวกเรามา เราไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร และพวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงคนนั้น!”
“ดังนั้นตอนนี้พวกคุณสารภาพแล้ว เรื่องอาจจะไม่จำเป็นต้องไปไกลขนาดนั้นก็ได้” เห็นได้ชัดว่ามันได้ผล หัวหน้ากองก้มหน้าลงและพูดต่อไป “ทศพลบ้ามากกว่าพี่พวกคุณคิด เขาลักพาตัวเหยื่อ เขาไม่ได้คิดว่าจะปล่อยให้เธอมีชีวิตรอดกลับไป”
หัวหน้ากองคอยสังเกตสีหน้าท่าทางของพวกเขาทั้งสองหลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปในทันที น่าเกลียดหาอะไรเปรียบไม่ได้ สำหรับแผนขั้นตอนต่อไปของทศพล พวกเขาไม่อาจรู้ได้ พวกเขามาเพื่อเป็น “ผู้ช่วย” เท่านั้น
“ว่าไงนะ!” เมื่อได้ยิน ธนินก็เงยหน้าขึ้น และมีสีหน้าประหลาดใจ “เขาต้องการฆ่าคนรึ”
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเดนสังคม มีประวัติอาชญากรรม และเคยติดคุกมาก่อน แต่เดิมก็ไม่ได้สนใจถ้าจะต้องมีประวัติเพิ่มอีกสักข้อหา ตราบใดที่พวกเขาสามารถได้รับเงินค่าจ้าง แต่ชีวิตที่พวกเขาแบกรับอยู่กลับไม่เหมือนกัน พวกเขายังต้องหาเงินแม้ว่าพวกเขาจะต้องเป็นโจรขโมย พวกเขามีพ่อแม่ที่ต้องดูแล เป็นโจรได้แต่ไม่กตัญญูไม่ได้ พวกเขาทำไม่ได้จริงๆ
หัวหน้ากองไม่ตอบพวกเขา การแสดงออกได้อธิบายทุกอย่างแล้ว “ตอนนี้โอกาสอยู่เบื้องหน้าพวกคุณแล้ว คุณจะรักษามันไว้หรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...