เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งลง
ในเวลานี้ ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่ห้องทำงานนี้ มองดูกันและกันในระยะใกล้ชิด นอกจากเสียงหัวใจที่เต้นแรงอยู่ในอกของแต่ละคน
ราวกับว่าไม่มีเสียงอะไรที่ได้ยินอีกแล้ว
เขาบอกว่าเขาไม่เคยแต่งงาน
เขายังบอกอีกว่าแต่งงานกับเขาอีกครั้งไหม?
คำพูดเหล่านี้ ฟังดูไร้สาระไปหน่อย เพราะพวกเขามีใบจดทะเบียนสมรส และมีลูกสามคนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 แล้ว และกำลังจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในเร็วๆ นี้
แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นก็สมเหตุสมผล
เพราะการแต่งงานของพวกเขาในตอนนั้น ในทะเบียนสมรส ธนากร เป็นคนเอารูปของเธอกับเขารวมอยู่ด้วยกัน
และในงานแต่งงาน เขาก็ไม่ได้มา เขาถูกบังคับให้มาในตอนที่งานแต่งใกล้จะจบลง และแม้แต่ในคืนแต่งงานก็ยังถูกเธอวางยาถึงจะสำเร็จ
ดังนั้น เขาจึงบอกว่าเขาไม่เคยแต่งงาน ซึ่งก็ถูกต้องเช่นกัน
"ที่รัก?"
"..."
เป็นเวลานานแล้วที่เส้นหมี่มองชายผู้ที่มองเธอด้วยความกระตือรือร้นและห่วงใยแบบนี้ และในที่สุดดวงของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตา แต่ตาก็เริ่มเป็นทรงสระอิ
“ได้สิ แต่คุณจะทิ้งฉันไว้คนเดียวในงานแต่งงานไม่ได้อีกแล้ว”
"จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว แม้จะตายผมก็จะไม่ทิ้ง..."
“……”
ไม่มีเสียงแล้ว
คำพูดหลังของชายคนนั้นถูกปิดกั้นด้วยริมฝีปากสีแดงอ่อนคู่หนึ่ง และทั้งหมดก็จมอยู่ในจูบที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง
เธอไม่ชอบฟังคำพวกนั้น
ชีวิตนี้ของทั้งสองนั้นมาได้ไม่ง่ายเลย เธอไม่อยากได้ยินคำพูดแย่ๆ อีก ขอแค่เธอได้ยินประโยคเดียวที่ว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไปก็พอ
ในเวลาเดียวกัน ตระกูลโชคสกุลในเมืองเอก
หลังจากที่ วาริชออกไปสั่งแต่งชุดแต่งงานให้เธอ เธอก็หยิบชุดนอนแล้วไปที่ห้องอาบน้ำ
เหตุการณ์ที่ทำให้เห็นเลือดนั้นเธอพบเจอบ่อยในอดีต เธอไม่ใช่คุณหนูที่ประพฤติดีแต่แรก และเธอก็คุ้นชินกับเรื่องการ (ตบตี/ฆ่าแกงกัน) แค่โยนของใส่ใครสักคน นั้นเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ
แต่ หลังตั้งครรภ์
เธอไม่ค่อยชิน มักจะรู้สึกว่าจะมีกลิ่นเลือดติดตามเธอตลอดเวลา
เธอถอดเสื้อผ้าออกแล้วเปิดฝักบัว
“สกรี—”
ทันใดนั้น ประตูข้างนอกก็ถูกเปิดออกอย่างเงียบ ๆ และหลังจากนั้นไม่นาน ร่างตัวเล็ก ๆ ที่แต่งตัวเหมือนคนรับใช้ของตระกูลโชคสกุล ก็โผล่หัวเข้ามา
“คุณหนูดาว?คุณหนูดาว?”
เธอมองไปรอบ ๆ และเริ่มตะโกนสองสามคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก