คิดไม่ถึงด้วยซ้ำ ว่าผู้นำคนใหม่คนนี้ จะพูดออกมาแบบนี้ต่อหน้าทุกคน
ภายในห้องโถงรัฐสภาเงียบสงบลง
รวมทั้งวิบูลย์ที่นั่งอยู่ด้านหลัง ก็เผยสีหน้าตกตะลึงสุดขีดออกมา แล้วมองมาทางนี้
สืบทอดบัลลังก์?
นี่มันเหลวไหลเกินไปหน่อยไหม?
ไม่ต้องพูดถึงว่าไวท์บอร์ด พาเลซไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่วสุคนนี้ เขาไม่มีประสบการณ์ทางทหารมาก่อน เขาจะมานั่งตำแหน่งหัวหน้าสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างไร?
นี่มันบ้าไปแล้วเหรอ?
ดังนั้นทุกคนทั้งตกตะลึงทั้งโมโห ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นใด แต่เพราะตำแหน่งนี้ ไม่รู้ว่ามีกี่คนในที่นี้ต้องการมัน
“นายท่าน การตัดสินใจนี้ของท่าน ขาดการพิจารณาไปหน่อย...หรือเปล่าครับ? หลานคนนี้ของนายท่านไม่เคยเป็นทหารมาก่อน เขาจะรับตำแหน่งนี้ได้อย่างไรครับ? นี่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องการทหารของประเทศนะครับ!”
คนที่ใจร้อนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นก่อน ในขณะที่แสนรักยังไม่เอ่ยปาก
เมื่อถามขึ้น คนอื่นในห้องโถงก็พากันคล้อยตามขึ้นมา
ความหมายโดยส่วนมากคือแสนรักไม่มีสิทธิ์นั่งตำแหน่งนี้
แสนรักยังคงเงียบอยู่ตลอด
แต่ว่าเขากำลังจ้องมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง และในใจยังสูญเสียความสงบที่หาได้ยาก ก็เหมือนกับลมฤดูใบไม้ร่วงที่พัดมา เพียงแค่ไม่กี่วินาที ในดวงตาดำสนิทที่ไม่มีแววตา เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
นี่จะทำให้เขาตกเป็นเป้าวิจารณ์ของทุกคนเหรอ?
น่าสนุก!
“พวกคุณอย่าเป็นกังวล ผมรู้ว่าวสุไม่มีประสบการณ์ทางทหาร แต่เขาเป็นคนฉลาดมาก ก่อนที่เขาจะเข้าการเมือง เขายังเคยเป็นบุคคลสำคัญเบอร์หนึ่งของเอเชียในเศรษฐกิจโลก พวกคุณอย่าดูถูกเขา แค่เรื่องการทหารเอง เขาสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว”
เตชินทร์ยังคงยืนยันความคิดของตัวเอง
คนในห้องโถงรัฐสภาได้ฟัง ก็ร้อนใจยิ่งกว่าเดิมทันที พวกเขาเตรียมจะตอบโต้ต่อ แม้แต่วิบูลย์ ก็จะพูดขึ้นจากด้านหลัง
แต่ในตอนนี้เอง ภายในห้องโถงที่วุ่นวาย มีเสียงเย็นชาของชายหนุ่มดังขึ้น: “ได้สิ งั้นก็ไม่โหวตแล้ว”
จากนั้นคนในห้องโถงเห็นกันหมด ว่าชายวัยรุ่นที่นั่งอยู่ตรงหน้า ที่เมื่อสักครู่ยังถูกพวกเขาดูถูกเหยียดหยามด้วยคำพูดต่างๆ ยกมือขึ้นโยนกระดาษที่อยู่ในมือทิ้ง
“!!!!”
โลกนี้ บ้าไปแล้ว!
สองชั่วโมงต่อมา การเลือกตั้งครั้งนี้สิ้นสุดลง ท้ายสุด วุฒิสภาก็ยังปล่อยให้วิบูลย์ครอง คณะรัฐมนตรีจะเป็นคนใหม่
ส่วนสภาผู้แทนราษฎรแสนรักรับไว้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก