หล่อนกล้าเอาความตายข่มขู่เขาเชียวเหรอ?
ผู้ชายที่มาที่นี้ในชั่วข้ามคืน เขาหนาวสั่นเข้ากระดูกจ้องมองไปที่ผู้หญิงคนนี้จากมุมสูง แววตาของเขามืดดำจนไม่เห็นแสงสว่าง ทั้งอันตราย เย็นยะเยือกและน่าสะพรึงกลัว!
“เธอจะตัดความสัมพันธ์กับฉันแบบนี้ ลืมแล้วเหรอว่าตอนแรกเธอไล่ตามตื้อฉันยังไง?
“……”
เส้นหมี่กลับหลังหัน ใบหน้าเล็กๆเท่าฝ่ามือกลับซีดเซียวมากขึ้นมาทันใด
หล่อนไม่เคยลืม
ดังนั้นตอนนี้หล่อนจึงเกลียดตัวเองมาก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อีกครั้ง หล่อนจะไม่ทำตัวโง่เขลาเหมือนตอนนั้นอย่างแน่นอน
เส้นหมี่รู้สึกอับอายและโกรธจนถึงขีดสุด เหลือเพียงแววตาที่ว่างเปล่า: “ใช่แล้ว แสนรัก ฉันจะลืมมันไปได้ไงหล่ะ? ฉันทิ้งทุกอย่างเพื่อที่จะตามตื้อคุณ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลวชิรนันท์ ตระกูลอัครนันท์และตัวฉันเอง แสนรักนี่คุณกำลังเตือนสติฉันว่าทำไมฉันมันง่ายใช่ไหม?
แสนรัก:“……”
ก้นบึ้งหัวใจเขาก็รู้สึกกระวนกระวาย ทันใดนั้น เขาก็ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้หมายความอย่างนั้น
แต่ว่า ผู้หญิงคนนี้กลับผลักเขาออกไปอย่างแรงทันที
“ก็ดีเหมือนกัน ส่วนขั้นตอนการหย่าฉันจะส่งทนายของฉันไปหาคุณแล้วกัน ตอนนี้คุณออกไปได้แล้ว
คำพูดประโยคสุดท้ายช่างเยือกเย็นถึงที่สุดจริงๆ
ผู้หญิงคนนี้ หล่อนไม่รู้สึกกลัวและร้อนรนเลย แต่กลับนิ่งสงบแล้วพูด แววตาของชายแปลกหน้าคนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ทันใดนั้น สีหน้าของแสนรักก็น่าหวาดกลัวขึ้นมาก
และที่เขามาเอาเวลานี้ ก็เพราะว่าต้องการให้ผู้หญิงคนนี้มีเวลาคิดทบทวนอย่างใจเย็น คนๆหนึ่งที่มีอารมณ์หุนหันพลันแล่น ส่วนใหญ่จะตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
ดังนั้น เขาจึงให้เวลากับหล่อน
แต่คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่รอมาสามสี่วันแล้วไปหาหล่อน แต่หล่อนกลับตอบมาแค่ประโยคเดียว
เขาไม่น่าให้อภัยขนาดนั้นเชียวเหรอ?
แม้ว่าเรื่องของแต่งฝันอาจจะเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดหรือแม้กระทั่งเรื่องที่คุณท่านทำในปีนั้นจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลยก็ตามงั้นเหรอ?
ชายคนนั้นรู้สึกผิดหวังอย่างมาก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมืดมนราวกับถูกปกคลุมไปด้วยชั้นของน้ำค้างแข็ง เขาได้ยินเสียงอารมณ์ที่ถูกควบคุมไว้เป็นเวลานานกำลังหุนหันพลันแล่นและกำลังจะแตกสลายไป!
“เธอยังยึดติดกับเรื่องของแต่งฝันนั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้เธอฟัง ฉันไปสืบมาแล้ว เรื่องนี้พ่อฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย!”
“มันไม่สำคัญแล้ว แสนรัก ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ตอนนี้ฉันไม่อยากมีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลหิรัญชาของพวกคุณอีกแล้ว สิ่งเดียวที่คิดในตอนนี้คืออยากให้ตระกูลวชิรนันท์ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง พ่อฉันกำลังจะออกมาแล้ว
“ลูกก็ไม่ต้องการแล้วใช่ไหม?”
“…ไม่เอา ให้เธอไปหมดเลย!” เส้นหมี่ราวกับใช้พลังแรงกล้าอย่างมากเพื่อพูดประโยคนี้ให้จบด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวเหมือนกระดาษสีขาว แล้วหล่อนก็หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า
ในที่สุดบรรยากาศก็หยุดนิ่งลง
คนๆหนึ่งจะต้องรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวังถึงขั้นไหนจึงจะกล้าพูดประโยคแบบนี้ออกมาได้?
ชายคนนั้นที่ยืนอยู่ก็เริ่มทรุดลง
แต่ไหนแต่ไรอยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาจะทำตามอำเภอใจ แต่ในตอนนี้ เมื่อเขาฟังคำพูดประโยคนั้นราวกับมีบางสิ่งบางอย่างที่อยู่เหนือการควบคุมของเขาเอง ทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนกอย่างมากออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก